xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสตูลฮือฮาพบนกป่าจำนวนมาก - แนะหน่วยงานรัฐอนุรักษ์เป็นแหล่งศึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สตูล - ชาวสตูลฮือฮาพบนกป่าจำนวนมากที่บริเวณทุ่งหญ้าบ้านปากบาง อ.ละงู เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของเยาวชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด

โดยนกป่าที่ชาวบ้าน อ.ละงู จ.สตูล พบจำนวนมากในครั้งนี้อาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งหญ้าบ้านปากบาง หรือบ้านหัวหิน ม.2 และบ้านนาปังกา ม.1 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งเป็นพื้นที่ของเอกชนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ใกล้กับหาดบางศิลา ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และห่างจากที่ว่าการอำเภอละงู จ.สตูลประมาณ 10 กิโลเมตร

นายยูโสป สันหลี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 ม.2 บ้านปากบาง เปิดเผยว่า เห็นนกดังกล่าวมาอาศัยอยู่ที่นี่นานกว่า 10 ปีแล้ว โดยพบมากในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี นกที่พบมากและเห็นง่ายที่สุดเช่นนกเขียวหัวแดง นกไก่นา นกกระยาง และนกกวัก ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัว ตนรู้สึกดีใจมากที่นกเหล่านี้มาอาศัยอยู่ที่นี่ และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้เข้ามาดูแลเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ชมและเพื่อการศึกษาเรียนรู้

ด้าน นายต่ายูเด็น บารา ผู้ใหญ่บ้านบ้านปากบาง บอกว่า ทางหมู่บ้านได้มีข้อตกลงกันว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปบุกรุกทำลาย จับหรือยิงนกเหล่านี้โดยเด็ดขาด ถ้าใครฝ่าฝืนก็จะถูกลงโทษตามที่ตกลงกันไว้ รวมทั้งจะแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนกเหล่านี้อาศัยอยู่บนพื้นที่ของนายทุน การจะอนุรักษ์ไว้ให้อยู่ตามธรรมชาติอย่างเดิมคงเป็นไปได้ยาก

ทางด้าน นายกิตติกุล ธรรมโชติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะชาวต่างชาติจะนิยมไปกางเต็นท์เพื่อดูนกต่างๆ กันที่นี่ เนื่องจากมีหลายชนิดให้ชม นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนนักศึกษาหลายสถาบันรวมทั้งนักดูนกจากทั่วประเทศก็เข้ามาศึกษาเรียนรู้เรื่องนกเป็นจำนวนมากเช่นกัน

จากการสำรวจของอุทยานฯแล้ว พบว่า นกอาศัยอยู่ที่นี่มีมากถึง 60 ชนิด ไม่จำนวนต่ำกว่า 10,000 ตัว พบมากตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมถึงเมษายนของทุกปี มีทั้งนกประจำถิ่นที่มักจะหาดูได้ยาก

เช่น นกอีโก้ง นกกวัก นกเขียวปากแดง นกเขียวหัวแดง และนกที่อพยพตามฤดูกาลที่เห็นได้ง่าย เช่น นกกระยางโทนใหญ่ และ นกเป็ดน้ำ ซึ่งทางอุทยานก็ได้แจ้งให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษาและห้ามไม่ให้เข้าไปบุกรุกโดยเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ได้



กำลังโหลดความคิดเห็น