ตรัง - แพทย์ด้านโรคผิวหนังจาก 9 ประเทศ เดินทางมาที่ข้อมูลศูนย์โรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านโรคผิวหนัง ตามโครงการหลักสูตรโรคผิวหนังระดับนานาชาติ
นายแพทย์วรเชษฐ อนันตรังสี ผู้อำนวยการศูนย์โรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง กล่าวว่า แพทย์ด้านโรคผิวหนังจาก 9 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศอัฟกานิสถาน กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา เวียดนาม และไทย ได้เดินทางมาศูนย์โรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านโรคผิวหนัง ตามโครงการหลักสูตรโรคผิวหนังระดับนานาชาติ (Diploma course in dermatology) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเรียนรู้ปัญหาโรคผิวหนัง และการจัดการเกี่ยวกับคลินิกเฉพาะโรค
ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ด้านโรคผิวหนังในประเทศต่างๆ และเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของศูนย์โรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง ในการจัดอบรมด้านโรคผิวหนังระดับนานาชาติ พร้อมทั้งยังมีการสาธิตผู้ป่วยโรคผิวหนังที่น่าสนใจ และผู้ป่วยโรคผิวหนังที่พบได้ไม่บ่อยนักด้วย
สำหรับศูนย์โรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง ปัจจุบันจะมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาประมาณ 140 คนต่อวัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากทุกพื้นที่ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยโรคผิวหนังมากที่สุด คือ จังหวัดพัทลุง โดยโรคผิวหนังที่พบมากสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มโรคผิวหนังที่มีการติดเชื้อ และกลุ่มโรคผิวหนังที่ไม่มีการติดเชื้อ
กลุ่มโรคผิวหนังที่มีการติดเชื้อ และเกิดขึ้นได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย ได้แก่ โรคเชื้อรา เช่น โรคกลาก เกลื้อน เป็นโรคที่เกิดเฉพาะในช่วงอากาศร้อน โดยตำแหน่งที่พบมักจะอยู่ในร่มผ้า บริเวณซอกพับ ง่ามเท้า เนื่องจากเป็นจุดที่เกิดความชื้นได้ตลอดทั้งวัน ส่วนในกลุ่มโรคผิวหนังที่ไม่มีการติดเชื้อ ได้แก่ โรคสะเก็ดเงิน และโรคภูมิแพ้ผิวหนัง พบมากในผู้ป่วยที่มีอาชีพประมง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้
อย่างไรก็ตาม โรคผิวหนังที่พบมากที่สุดใน 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง มีจำนวนร้อยละ 53.16 รองลงมา คือ โรคเชื้อรา มีจำนวนร้อยละ 14.58 โรคสิว มีจำนวนร้อยละ 14.50 โรคฝ้า มีจำนวนร้อยละ 9.48 และโรคสะเก็ดเงิน มีจำนวนร้อยละ 8.27 ส่วนโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก คือ โรคติดเชื้อในผิวหนังแท้ เช่น วัณโรค เชื้อราชนิดลึก ซึ่งเป็นโรคที่รักษาได้ยากและต้องใช้ระยะเวลานาน
