นครศรีธรรมราช - พระภิกษุ-สามเณร หิ้ว 3 สาวร่วมวงปาร์ตี้-ชาวบ้านสุดทนแจ้ง ตร.บุกจับกุมคากุฏิวัดชื่อดังเมืองคอน ตร.ตะลึงดัดแปลงกุฏิเหมือนในผับทุกอย่าง-ยึดมีดสปาต้า, วีซีดีโป๊อีกเพียบ-เจ้าอาวาสไล่ตะเพิดซ้ำ ตร.ฟลุ๊กเจอดาวชิงทรัพย์ร่วมก๊วนส์หมายจับอื้อ-เตรียมขยายผลหลังพบเบาะแสผู้ร่วมก่อเหตุศีรษะโล้น
วันนี้ (7 ม.ค.) พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีพระภิกษุและสามเณรมีพฤติกรรมน่าสงสัย พบว่า มีการนำหญิงสาววัยรุ่นหลายคน เข้าไปอยู่ในกุฏิหลังหนึ่งของวัดสวนป่าน ใกล้หอนาฬิกา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่สารวัตรนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 นครศรีธรรมราช เดินทางไปตรวจสอบ
โดยพบว่าภายในวัดบริเวณศาลาโรงธรรม กำลังมีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพอยู่ ในขณะที่ได้ยินเสียงเพลงและดนตรีที่เร่าร้อนดังมาจากกุฏิหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับกุฏิของพระครูพิศิษฐ์คุณาทร เจ้าอาวาสวัดสวนป่าน ห่างจากศาลาโรงธรรมประมาณ 20 เมตร
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบไฟแสงสีสาดส่องออกมาทางช่องลม พร้อมกับมีเสียงดนตรีดังลั่น ในขณะที่มีเสียงพูดคุยกันภายในห้องของคนจำนวนมากอย่างสนุกสนานครื้นเครง เจ้าหน้าที่แอบดูทางช่องประตูก็ต้องตะลึงกับภาพที่พบเห็นภายในกุฏิ
โดยพบว่า มีพระภิกษุ สามเณร รวม 3 คน หญิงสาววัยรุ่น 3 คน และชายฉกรรจ์ที่เป็นฆราวาสอีก 1 คน กำลังเต้นตามจังหวะเสียงเพลงและไฟแสงสีอย่างสนุกสนานเร่าร้อนสุดเหวี่ยง โดยมีการดื่มเบียร์กันจนทุกคนอยู่ในอาการเมามาย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเคาะประตูเรียก และคาดว่า คนที่อยู่ภายในห้องคงไม่ทราบว่าคนที่เคาะประตูและอยู่ด้านนอกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเข้าใจว่าเป็นพรรคพวกเพื่อนกลุ่มเดียวกัน จึงเปิดประตูให้ทันที และเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงสาววัยรุ่นทั้ง 3 คน รีบวิ่งขึ้นไปซุกตัวรวมกันอยู่บนเตียง
และจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ร่วมวงปาร์ตี้กันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงอยู่ในกุฏินอกจาก 3 สาววัยรุ่นแล้ว ยังมีพระภิกษุ 1 รูป สามเณร 2 รูป และชายฉกรรจ์ที่เป็นฆราวาสอีก 1 คน ทั้งหมดอยู่ในอาการเมามายอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นควันบุหรี่คลุ้ง
โดยเจ้าหน้าที่พบว่าได้มีการตกแต่งภายในกุฏิห้องดังกล่าวเป็นเหมือนในดิสโก้เธอ หรือผับทั่วๆ ไป โดยมีอุปกรณ์ไฟแสงสีครบครัน และยังมีเครื่องเสียงอย่างดี 1 ชุด วีซีดี 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 ชุด ไมโครโฟน 1 ตัว แผ่นวีซีดีหนังเรตเอ็กซ์จำนวน 8 แผ่น มีดสปาต้าคมกริบยาวกว่า 2 ฟุต 1 เล่ม ส่วนบนพื้นห้องพบขวดเบียร์ แก้วเบียร์วางกระจายเกลื่อนห้อง โดยพบว่าเป็นขวดเบียร์ที่ยังดื่มไม่หมด และดื่มหมดไปแล้วจำนวน 13 ขวด สปาย 2 ขวด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวคนพระภิกษุและสามเณรและคนที่อยู่ในห้องทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก แต่พระภิกษุและสามเณรพยายามบอกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเรียกพระครูวิศิษฐ์คณาทรเจ้าอาวาสแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านทราบดีกว่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปเรียกพระครูวิศิษฐ์คณาทร เจ้าอาวาส และแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ และขอให้ท่านทำการสึกพระภิกษุและสามเณรที่ร่วมจัดปาร์ตี้ในกุฏิด้วย เมื่อเจ้าอาวาสทราบเรื่องจึงแจ้งกับตำรวจว่าไม่ต้องทำพิธีสึกให้ควบคุมตัวไปโรงพักและจับถอดจีวรได้เลย
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพักทราบชื่อผู้ร่วมปาร์ตี้รวม 7 คน ประกอบด้วย พระสุธรรม (ขอสวนนามสกุล) อายุ 21 ปี สามเณรไสว สามเณรอดศร อายุ 18 ปี น.ส.ยอด น.ส.เยี่ยม อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช น.ส.นิตยา กาญจนอารี อายุ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม พระภิกษุและสามเณรยินยอมสึกแต่โดยดี หลังจากถ่ายรูปทำประวัติอย่างละเอียดเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยตัวอดีตพระภิกษุและสามเณร เนื่องจากไม่มีกฎหมายในการเอาผิดได้เป็นเพียงการผิดทางวินัยสงฆ์เท่านั้น ส่วน น.ส.นิตยา กาญจนอารี น.ส.ยอด และ น.ส.เยี่ยม สารวัตรนักเรียนได้บันทึกทำรายงานเสนอสถานศึกษาต้นสังกัดพร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับไป
ส่วน นายสรไกร หรือ ตาน้อง เจริญทรัพย์ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในชุมชนหน้าสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สงสัยว่า จะเป็นคนร้ายในคดีชิงทรัพย์หลายคดี จึงตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดพบว่าเป็นคนร้ายในคดีปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ที่ก่อคดีในช่วง 1 เดือนกว่า 10 คดี และมีการออกหมายจับกุมไว้แล้วถึง 6 คดี พ.ต.ท.สมชาย มวยดี จึงควบคุมตัว นายสรไกร หรือตาน้อง ไปเค้นสอบสวน
ในที่สุด นายสรไกร ก็ให้การรับสารภาพว่า ตนต้องโทษจำคุกในคดีชิงทรัพย์และลักทรัพย์และเพิ่งได้รับการพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา เมื่อพ้นโทษออกมาได้ร่วมกับพวกอีก 2-3 คน ตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ในรอบ 1 เดือนกว่า 10 คดี เมื่อได้เงินมาจะไปร่วมปาร์ตี้กับพระภิกษุและสามเณรในกุฏิวัดสวนป่าน จนถูกตำรวจบุกจับกุมตัวดังกล่าว
พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สำหรับพระภิกษุ สามเณร และหญิงสาวอีก 3 คน ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีใดๆ ได้ หลังทำการสึกพระภิกษุและสามเณรแล้วตำรวจจึงต้องปล่อยตัวไป ส่วนหญิงสาววัยรุ่น 3 คนในจำนวนนั้นเป็นนักเรียน 2 คนได้มอบให้สารวัตรนักเรียนรับตัวไปดำเนินการตามระเบียบ
ในการบุกตรวจสอบปาร์ตี้ภายในวัดในครั้งนี้ นับว่าตำรวจโชคดีที่มี นายสรไกร หรือ ตาน้อง วายร้ายตัวสำคัญที่เพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา และตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ต่อเนื่องกว่า 10 คดีและเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจรวมอยู่ด้วย
จากการสอบสวนขยายผลมีผู้เสียหายและพยานหลักฐานมัดตัวนายสรไกร หรือ ตาน้อง แล้ว 6 คดี นอกจากนี้ ยังทราบชื่อคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุกับนายสรไกร อีก 2-3 คน ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับต่อไป
นอกจากนี้ ตำรวจยังสงสัยว่าในการก่อเหตุอาจจะมีพระภิกษุ สามเณร ที่แต่งกายเป็นฆราวาสร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งจะสอบสวนสืบสวนขยายผลต่อไป หากพบว่าพระภิกษุหรือสามเณรทั้ง 3 คนที่สึกไปแล้วหรืออาจจะยังเป็นพระภิกษุหรือสามเณรอยู่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีพยานหลักฐานสาวโยงไปถึงก็จะออกหมายจับกุมต่อไปด้วย