เจ้าอาวาสวัดนราฯ เผยความซาบซึ้งครั้ง“พระพี่นางฯ”เสด็จเยี่ยม

นราธิวาส - เจ้าอาวาสวัดชลธารสิงเห อ.ตากใบ เผยถึงความปราบปลื้มครั้นเมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเสด็จเยี่ยมวัด พร้อมเตรียมจัดพิธีทางศาสนาเพื่อไว้อาลัยกับการสิ้นพระชนม์

พระไพศาล ประชานารถ เจ้าอาวาสวัดชลธาราสิงเห ต. เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ขณะที่เสด็จมายังวัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ เมื่อครั้นที่นำคณะครูภาษาฝรั่งเศสมาศึกษาเกี่ยวกับจิตกรรมฝาผนังร่วมกับกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2540 ที่ผ่านมาว่า การเสด็จมาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในครั้งนั้นสร้างความปราบปลื้มแก่พระภิกษุและประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมอย่างมาก ประชาชนจำนวนมากได้เข้ามาภายในวัดเพื่อรอรับเสด็จอย่างใกล้ชิด และเมื่อถึงเวลาที่เสด็จมาทุกคนต่างดีใจที่จะได้เห็นพระพักตร์

เมื่อเสด็จมาถึงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้เสด็จขึ้นกุฏิของเจ้าอาวาสพร้อมทั้งประทับบนพื้นไม้โดยที่ไม่ขึ้นประทับบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมถวาย อีกทั้งรับสั่งสั้นๆ ด้วยว่าไม่ได้มาเยี่ยมที่นี้เลย จึงถือโอกาสมาเยี่ยมและมาดูภาพวาดเกี่ยวกับจิตกรรมฝาผนังที่นี้ และจากนั้นก็ได้เสด็จลงข้างล่างและปลูกต้น“สาละ” เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับวัดชลธาราสิงเห ซึ่งขณะนี้ต้น“สาละ”ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการดูแลอย่างดีจากลูกวัด และจากนั้นก็ได้เสด็จชมงานจิตกรรมพร้อมๆ กับคณะครูสอนภาษาฝรั่งเศสโดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรเป็นผู้บรรยาย

พระไพศาล ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ตอนนี้จำเหตุการณ์ในครั้งที่เสด็จมาในครั้งนั้นได้ไม่มากแล้ว เพราะอายุมากถึง 78 ปีแล้ว แต่ภาพในครั้งนั้นยังคงจดจำได้เป็นอย่างดีแต่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ก็รู้สึกเสียใจที่ประเทศชาติต้องสูญเสียบุคคลดีๆ ไปอีก 1 คน เพราะเท่าที่ทราบและสัมผัสมาท่านเป็นผู้ที่มีน้ำพระทัยดี และชอบเดินทางไปสถานที่ทุรกันดารเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ยากไร้ บรรยากาศตอนนี้ก็เหมือนกับตอนที่สูญเสียสมเด็จย่า(สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี)

ด้านพระครูโอภาส ชลธาร เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ร่วมเข้าเฝ้าในวันที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯเสด็จมายังวัดชลธาราสิงเห ซึ่งพระครูโอภาสเล่าให้ฟังว่าวันนั้นดีใจอย่างมากเพราะพระครูเพิ่งเข้ามาประจำที่วัดชลธาราสิงเห และมีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จระดับเชื้อพระวงศ์อย่างใกล้ชิด โดยพระครูโอภาสพร้อมกับเพื่อนพระหลังจากทราบข่าวว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะเสด็จมาก็มีการจัดเตรียมสถานที่เก็บกวาดใบไม้ รวมถึงจัดกุฎิให้สวยงามเพื่ความเป็นระเบียบเรียบร้อย

โดยจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังคงจำพระพักตร์ขณะที่เสด็จมายังวัดได้อย่างดี และตั้งแต่ทรงประชวรจนกระทั่งต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น พระครูโอภาสและเพื่อนพระรวมถึงเจ้าอาวาสก็มีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และรู้สึกเป็นห่วงเพราะอาการประชวรเริ่มแย่ลง ในวันที่สิ้นพระชนม์นั้นก็ทราบข่าวตั้งแต่ช่วงดึกเพราะเปิดวิทยุค้างไว้ทั้งคืน แต่เพิ่งมาแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบในช่วงเช้า

บรรยากาศในช่วงเช้าวันนั้นแย่มาก ขณะที่ออกบิณฑบาตในเขตเทศบาลตากใบก็รู้สึกเงียบเหงา เมื่อกลับมาถึงวัดก็ได้ไปเปิดน้ำเพื่อทำการรดน้ำต้นไม้ คือต้นสาละ ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงปลูกไว้ และเพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทางวัดชลธาราสิงเหเองก็มีการหารือระหว่างพระด้วยกันว่าจะมีการจัดพิธีสวดมนต์ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์เป็นเวลา 5 วัน หลังจากวันพระนี้แล้ว เพื่อถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และถือเป็นการะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ยากไร้ตลอดระยะเวลา 84 พรรษาที่ผ่านมา