เด็กเทคนิคสุราษฎร์ฯ โหดควงปืนจ่อยิงหัวคู่อริตายคาห้างดังกลางเมือง

สุราษฎร์ธานี - นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคชื่อดังสุราษฎร์ธานีโหด ยกพวกตะลุมบอนคู่ปรับก่อนใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะคู่กรณีเสียชีวิตคาที่ 1 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 กลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองสุราษฎร์ธานี

วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ที่บริเวณชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าแปซิฟิคพลาซ่า ตั้งอยู่อาคารตลาดสดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมหมาย พุทธกูล รอง ผบก.ภว.จ.สุราษฎร์ธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี

พ.ต.ท.นพดล ถิรประวัติ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วรวิทย์ เจริญศุภผล สว.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.ชัญญวิทย์ ศรีจรูญ สวป.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบบริเวณหน้าร้านขายผ้าสำเร็จรูป ชื่อ “พู่กัน” พบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวกว่า 200 เมตร ออกไปทางลานจอดรถ และโทรศัพท์มือถือผู้ก่อเหตุตกอยู่ 1 เครื่อง ที่บริเวณลานจอดรถชั้น 3 พบศพนายอนุสรณ์ พรหมศักดิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/1 หมู่ 6 ต.บางชนะ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นอนเสียชีวิตอยู่

สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดเข้าที่บริเวณขมับขวา 1 รู ศีรษะด้านซ้าย 1 รู เสียชีวิตคาที่ และนายนนทชัย เพ็ญศรี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 1 ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กระสุนถูกบริเวณลำคอด้านซ้าย 1 รู ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ตายเป็นเด็กพื้นที่บ้านในบาง ต.บางชนะ มาด้วยกัน 3 คน คู่กรณีเป็นเด็กวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี มาด้วยกัน 5 คน ได้ก่อเหตุชกต่อยกัน 2 ใน 5 ของกลุ่มวิทยาลัยเทคนิคฯ ได้ชักอาวุธปืนสั้นออกมาคนละกระบอกไล่ยิงใส่ทั้ง 3 คน จนผู้บาดเจ็บสาหัสได้ล้มลงบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ตายถูกยิงและได้วิ่งหนีออกมาที่บริเวณลานจอดรถ ก่อนล้มลงและเด็กเทคนิคคู่กรกณี 1 คนได้ใช้อาวุธปืนตามมาจ่อยิงเข้าที่ศีรษะจนแน่ใจว่าเสียชีวิตคาที่แล้ววิ่งหลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า สาเหตุมาจากเด็กทั้ง 2 กลุ่มเป็นคู่ปรับกันมาก่อน และเคยมีเรื่องกันหลายครั้งจนมาเจอกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพทีวีวงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นกลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานีได้ และเตรียมขอหมายศาลเพื่อดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป