xs
xsm
sm
md
lg

ปาฏิหาริย์กับสังขาร “หลวงพ่อด่วน” เผาไม่ไหม้!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระนอง - เกิดปาฏิหาริย์กับสังขาร “หลวงพ่อด่วน” อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนอน เมืองระนอง ขณะเผานาน 30 นาที เปลวไฟไม่ไหม้แม้แต่จีวร คณะศิษย์จึงยุติการเผา นำศพลงจากเมรุเพื่อบรรจุใส่โลงแก้วไว้สักการบูชา

เมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 21.00 น.ที่เมรุลอยวัดวารีบรรพต หรือวัดบางนอน ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ได้จัดพิธีประชุมเพลิงศพพระครูประภัสรวิริยคุณ หรือหลวงพ่อด่วน ถามวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนอน พระเกจิย์ชื่อดัง จ.ระนอง โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

หลังจากที่นำศพของหลวงพ่อออกจากโลงแล้วประกอบพิธีเผาศพ เมื่อสัปเหร่อจุดไฟเผาศพแล้วใช้พัดลมเป่าเร่งเปลวไฟไปได้สักครู่ใหญ่ประมาณ 30 นาที ท่ามกลางคณะศิษยานุศิษย์ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ ปรากฏว่าได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นเมื่อเปลวไฟไม่ได้เผาไหม้ศพของหลวงพ่อแม้แต่น้อย แม้แต่จีวรที่ห่มอยู่ก็มีรอยไฟไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คณะลูกศิษย์ตัดสินใจยุติการเผา แล้วใช้น้ำราดดับไฟทันที

จากนั้นได้นำศพของหลวงพ่อใส่ในโลงแล้วนำขึ้นไปวางในวิหารพระพุทธไสยาสน์ แล้วยกร่างของหลวงพ่อออกจากโลงมาวางบนแท่นเพื่อเปลี่ยนจีวรให้ใหม่ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของลูกศิษย์เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิระนองสงเคราะห์ได้กันไม่ให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้เพราะกลัวจะเกิดความวุ่นวายเข้าไปมุงดูศพและแย่งชิงจีวร เครื่องอัฏฐบริขาร

จากการสังเกตศพของหลวงพ่อเมื่อยกออกมาจากโลงอยู่ในสภาพนอนหงายเหมือนคนนอนหลับ มือทั้งสองข้างวางบนอก อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก บริเวณผิวหนังของแขนมีรอยไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แว่นตาที่สวมใส่อยู่ก็ไม่มีรอยร้าวหรือหม่นหมองแต่อย่างใด ลำตัวและใบหน้าไม่มีรอยไหม้

ส่วนจีวรที่ห่มศพก็มีรอยไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทันทีที่พระภิกษุและเจ้าหน้าที่เปลี่ยนจีวรที่ห่มอยู่ออกแล้วห่มผืนใหม่ให้แทน ประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อก็แย่งชิงจีวรผืนเก่ากันเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปเป็นเครื่องรางของขลัง หลังจากเปลี่ยนจีวรใหม่แล้วคณะลูกศิษย์จึงได้ยกศพหลวงพ่อขึ้นชูเหนือศีรษะเพื่อให้ทุกคนได้เห็นกันชัดๆ จากนั้นก็นำศพเก็บไว้ในโลงตามเดิมเพื่อรอโลงแก้ว

พระสุรัตน์ อชิโต รักษาการเจ้าอาวาสวัดวารีบรรพต กล่าวว่า ทางคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์เห็นพ้องกันว่าควรเก็บสังขารณ์ของหลวงพ่อไว้ในโลงแก้วตามความประสงค์ของหลวงพ่อเพื่อให้ประชาชนได้กราบนมัสการสักการบูชาต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูประภัสรวิริยคุณ ณ เมรุลอย ภายในวัดวารีบรรพต โดยมีพระราชรณังคมุณี เจ้าคณะจังหวัดระนอง พระสงฆ์ ข้าราชการ คณะศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ก่อนประกอบพิธีตลอดทั้งวันฝนได้ตกตลอดเวลา แต่เมื่อถึงเวลาพิธีพระราชทานเพลิงศพฝนได้หยุดตก กระทั่งในเวลา 21.00 น.ได้ประกอบพิธีประชุมเพลิง แต่เมื่อเผาแล้วปรากฏว่าไฟไม่ไหม้ศพ

สำหรับพระครูประภัสรวิริยคุณ มรณภาพเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2550 ด้วยโรคปอดติดเชื้อและโรคแทรกซ้อน ณ โรงพยาบาลระนอง สิริอายุรวม 90 ปี 69 พรรษา ชื่อเดิมว่า ด่วน ปรางสุวรรณ โยมพ่อชื่อนายแดง โยมมารดาชื่อนางปราง ปรางสุวรรณ ภูมิลำเนาเดิมบ้านท่าหิน ต.ท่าหิน อ.สะทิงพระ จ.สงขลา มีพี่น้องรวม 4 คน

เกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2460 เมื่อเรียนจบชั้น ป.4 แล้ว ช่วยพ่อแม่ทำนา พ่ออายุ 21 ปี สมัครเข้ารับราชการตำรวจแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกจึงตัดสินใจอุปสมบทเป็นพระ ณ วัดบางแก้ว อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จำพรรษาอยู่ที่วัดบางแก้วใต้ 1 พรรษา

จากนั้นไปปฏิบัติกรรมฐานที่ถ้ำบนเขาชัยสน 2 พรรษา และได้ออกธุดงค์โปรดสัตว์ไปยังสถานที่ต่างๆ หลายจังหวัด จนได้มาถึงปากน้ำเมืองระนอง ขณะที่ปักกลดธุดงค์อยู่นั้น นายไปล์ จุลเขตต์ ชาวบ้านตำบลบางนอนได้นิมนต์ให้ไปปักกลดที่บ้านบางนอน บริเวณตรงที่สร้างพระนอนในปัจจุบัน ซึ่งหลวงพ่อจึงได้ตัดสินใจอยู่ที่จังหวัดระนองและสร้างวัดขึ้นตั้งแต่ปี 2502 เป็นต้นมา คือ วัดวารีบรรพต (วัดบางนอน) ในปัจจุบัน

ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาและประเทศชาติมาโดยตลอด อาทิ การก่อสร้างพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ พร้อมทั้งจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวด วัดบางนอน ซึ่งได้รับความนิยมจากเซียนพระเป็นจำนวนมาก เพื่อนำรายได้มาสร้างอุโบสถและพระพุทธไสยาสน์จนแล้วเสร็จสมบูรณ์มาจวบจนถึงปัจจุบัน







กำลังโหลดความคิดเห็น