xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของที่ดินสูงเกิน80เมตรในภูเก็ตเฮ รัฐผ่อนปรนให้สร้างบ้านอยู่อาศัยได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต -เจ้าของที่ดินกว่า 300 ราย ที่อยู่บนที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกินกว่า 80 เมตรได้เฮแล้ว เมื่อประกาศกระทรวงทรัพยฯที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมภูเก็ตฉบับต่อไปที่จะประกาศใช้ในปีหน้า ผ่อนปรนให้สามารถสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยได้ แต่ห้ามจัดสรรเปลี่ยนมือโดยเด็ดขาด หวังบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่เรียกร้องมา 5-6 ปี

วันนี้ (5 พ.ย.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ บริษัท โมดัส คอนซัลแทนส์ จำกัด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2546 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมประมาณ 200 คน ที่โรงแรมเมโทรโพล จ.ภูเก็ต โดยมีนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน

ทั้งนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ ในการปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฉบับปัจจุบันที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2546 และประกาศดังกล่าวกำลังจะหมดอายุ จึงจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงใหม่ประกาศฉบับใหม่ให้เป็นไปตามความต้องการและสภาพพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อที่จะประกาศใช้ในปี 2551 ต่อไป

สาระสำคัญของการขอปรับปรุงประกาศดังกล่าว คือ การเพิ่มมาตรการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในทะเลและการกำหนดมาตรการการดูแลทรัพยากรธรรมชาติบนที่สูงและที่ลาดชัน เป็นสำคัญ เพราะในปัจจุบันในพื้นที่ภูเก็ตมีการเข้ามาลงทุนในเรื่องของมารีน่าเป็นจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการออกมาคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่อาจจะกระทบจากการลงทุนในลักษณะดังกล่าวได้

โดยเฉพาะมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่ 7 ที่ห้ามก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารใดๆ ที่เป็นพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกิน 80 เมตรขึ้นไป เป็นมาตรการที่มีการเรียกร้องให้แก้ไขให้สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ โดยมองว่าข้อห้ามดังกล่าวเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของประชาชน ที่มีเอกสารสิทธิที่ดินบนที่สูงเกิน 80 เมตรกว่า 300 ราย ที่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย ประกาศฉบับใหม่ น่าที่จะปรับปรุงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยไม่ให้กระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวในที่ประชุมว่า การประกาศห้ามไม่ให้ก่อสร้างอะไรเลยในที่ดินที่อยู่สูงเกิน 80 เมตรทั้งๆที่เป็นที่ดินที่ประชาชนมีเอกสารสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นส.ค. 1 หรือนส.3 เป็นต้น ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาก เพราะมีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการที่จะก่อสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยบนที่ดินดังกล่าว และหากไม่ให้ประชาชนทำอะไรบนที่ดินดังกล่าวได้ รัฐน่าที่จะมีมาตรการให้การเยี่ยวยาให้กับความช่วยเหลือ และน่าที่จะมีความชัดเจนว่าจะเยียวยาอย่างไร จะซื้อที่ดินคืนจากประชาชน หรือจะเวนคืน รวมทั้งจะแบ่งบ้างส่วนให้ประชาชนสร้างบ้านได้ก็น่าที่จะมีความชัดเจนออกมา

ด้านนายธวัช ดวงตะวัน กล่าวว่า ตนได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขประกาศข้อที่ 7 นี้มาเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว เพราะประชาชนเดือดร้อนกับการริดรอนสิทธิ์จากมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมดังกล่าว และรัฐก็น่าที่จะมีความชัดเจนว่าจะมีทางออกให้กับประชาชนอย่างไร และหากไม่มีการแก้ไขปรับปรุงในประกาศฉบับต่อไป ชาวบ้านก็คงจะต้องต่อสู้ในทางกฎหมาย และที่ผ่านมาชาวบ้านประมาณ 300 กว่าคนที่มีที่ดินอยุ่บนที่สูงเคยร่วมตัวกันประท้วงที่ศาลากลางมาแล้วเพื่อเรียกร้องให้ปรับปรุงแก้ไขประกาศในข้อที่ 7 นี้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในการปรับปรุงประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดข้อเสนอแนะและแนวทางในการเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณที่ 7 ที่เป็นพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกินกว่า 80 เมตรขึ้นไป

โดยกำหนดมาตรการเยียวยาไว้ ดังนี้ พื้นที่ค่อนข้างราบจนบรรจบพื้นที่เชิงเขาที่มี
ความลาดชันตั้งแต่ 1-15% หรือมีความลาดชัน 0.5-8 องศา กำหนดก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว มีระดับความเข้มข้นในการใช้ที่ดินสูงสุด 1,000 ตารางวาของแปลงที่ดินต่อหลัง พื้นที่อาคารรวมสูงสุด 150 ตารางเมตร ความสูงอาคารไม่เกิน 8 เมตร

พื้นที่เชิงเขาหรือภูเขาที่มีความลาดชันตั้งแต่ 15-25% หรือ 8.5-17 องศา สร้างอาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ได้ 1,000 ตารางวา อาคารสูงไม่เกิน 8 เมตร,พื้นที่เชิงเขาหรือภูเขาที่มีความลาดชันเกินกว่า 25% กำหนดให้เป็นพื้นที่เกษตรห้ามก่อสร้างหรือดัดแปลงใดๆ รวมทั้งห้ามนำที่ดินดังกล่าวไปจัดสรรโดยเด็ดขาด และในการอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารบนที่สูงเกิน 80 เมตรนั้น จะอนุญาตให้เฉพาะประชาชนที่มีรายชื่อ 300 กว่ารายที่เป็นเจ้าของที่ดินเดิมเท่านั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น