xs
xsm
sm
md
lg

แม่นักมวยดังเมืองคอนฟ้อง “เทรนเนอร์” โหดลงโทษแพ้มวยจนตาแตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช – เทรนเนอร์มวยสุดโหด มวยชกแพ้ฟาดด้วยสายมงคลจนเลนส์แก้วตาแตก แถมบังคับให้วิ่งกลับ 21 กม.ไม่ยอมให้ไปโรงพยาบาล เด็กน้อยสุดทนหลบหนีออกจากค่ายมวย แม่นำส่งโรงพยาบาล แพทย์ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียม

วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.50 น.ที่ชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช นางกาญจนา ชลสาคร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/3 หมู่ 6 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำ ด.ช.บัญชา หรือ ต้อ พิณทอง ซึ่งเป็นนักมวยไทยชื่อดังที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในภาคใต้ในชื่อนักมวย คือ “พิณทอง อู้ดมณฑาพานิช” อายุ 14 ปี บุตรชาย ซึ่งตาข้างขวางเพิ่งผ่าตัดมาใหม่ๆ ซึ่งยังมีกระเปาะพลาสติกคลอบตาขวาอยู่ด้วย เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวกรณีที่ ด.ช.บัญชา ถูกเทรนเนอร์ใช้สายมงคลฟาดศีรษะอย่างรุนแรงจนเลนส์ดวงตาแตก เพราะโกรธแค้นที่ ด.ช.บัญชา ขึ้นชกกับคู่ต่อสู้ที่สนามมวยเพชรบัญชา อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2550 และเกิดแพ้น็อกคู่ต่อสู้ในยกที่ 3 ทำให้เทรนเนอร์โกรธแค้นหาว่าเป็นนักมวยใจเสาะ ใช้สายมงคลฟาดที่ใบหน้าจนเลนส์ตาแตกจนตามองไม่เห็น

ด.ช.บัญชา พิณทอง เปิดเผยว่า ตนชอบกีฬามวยไทยเป็นอย่างมาก เริ่มฝึกหัดและขึ้นชกมวยตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ โดยใช้ชื่อนักมวยว่า “นครชัย ศักดิ์โสภา” จนเริ่มมีชื่อเสียงจึงย้ายมาสังกัดค่ายใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น “คมใน อบต.ปากพูน”

ต่อมาย้ายค่ายมาอยู่กับในค่าย “อู้ดมณฑาพานิช” จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น “พิณเพชร อู้ดมณฑาพานิช” ตั้งแต่การชกครั้งแรกจนถึงครั้งสุดท้ายรวม 75 ครั้ง หลังจากนั้น จึงหยุดชกมวยไประยะหนึ่ง จนเมื่อเดือนกันยายน 2550 ได้ย้ายค่ายไปอยู่กับค่ายมวยซีทรานเฟอร์รี่ ใช้ชื่อ “เกาะหลัก ศูนย์กีฬาบางน้ำจืด” ขึ้นชกในนามค่ายใหม่ชื่อใหม่เป็นครั้งแรกที่สนามมวยเพชรบัญชา อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน 2550

แต่เนื่องจากตนห่างเหินเวทีไปนาน ประกอบกับคู่ต่อสู้ใหญ่กว่ามาก ตนจึงสู้แรงปะทะไม่ไหวโดนคู่ต่อสู้จับตีเข่าเข้าหน้าอกจนจุกออกอาวุธไม่ไหวถูกคู่ต่อสู้ย้ำใหญ่จนกรรมการตัดสินบนเวทีต้องจับให้ตนแพ้น็อก

“หลังจากลงจากเวที นายบ่าว ชูจันทร์ อายุประมาณ 50 ปี เทรนเนอร์โกรธแค้นตนเป็นอย่างมากที่ชกแพ้น็อก จึงใช้สายมงคลฟาดใส่ใบหน้าตนอย่างแรง และปลายสายมงคลฟาดลูกตาตนอย่างรุนแรง จนรู้สึกเจ็บปวดลูกตาน้ำตาไหล ไม่สามารถลืมตาได้ พี่เลี้ยงจึงพาไปหาแพทย์สนามให้ช่วยตรวจตาของตน แต่ นายบ่าว เทรนเนอร์ไม่ยอมให้แพทย์สนามตรวจ โดยบอกว่าตนแกล้งทำสำออย จากนั้นบังคับให้ตนวิ่งกลางดึกจากสนามมวยกลับไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่ระยะทาง 21 กม.เพื่อรอเรือเฟอร์รี่กลับ อ.ดอนสัก ในช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.ย.2550”

ด.ช.บัญชา เด็กน้อยเหยื่อเทรนเนอร์โหด เล่ารายละเอียดต่อไปว่า หลังจากกลับมาอยู่ที่ค่ายมวย แม้ตนจะเจ็บปวดตาอย่างรุนแรง และขอร้องให้นำตนไปให้แพทย์ตรวจรักษา แต่นายบ่าว เทรนเนอร์ไม่สนใจ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ นายบ่าว เห็นตาของตนอักเสบและตนเจ็บมากจริงๆ ไม่ได้สำออย จึงพาไปตนพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งใน อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี

หลังการตรวจแพทย์ถึงกับตกใจ และแจ้งให้นายบ่าวรีบนำตนไปโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน แต่ นายบ่าว ก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม กลับซื้อยาแก้ปวด แก้อักเสบมาให้ตนกินและปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาอีกกว่า 1 อาทิตย์ จนในที่สุดตนไม่สามารถทนต่อไปไหวตัดสินใจหลบหนีออกจากค่ายมวยเดินทางกลับมาหาแม่ที่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง

ทางด้าน นางกาญจนา ชลสาคร มารดาของ ด.ช.บัญชา เปิดเผยว่า เมื่อ ด.ช.บัญชา บุตรชายกลับมาหา และบอกว่า เจ็บตาข้างขวามากๆ และมองอะไรไม่เห็น เมื่อตนตรวจสอบดูก็พบว่าลูกตาของ ด.ช.บัญชา เป็นฝ้าสีขาวๆ ตนจึงรีบนำไปโรงพยาบาลท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อแพทย์ทำการตรวจเสร็จแล้ว ก็แจ้งว่าเลนส์แก้วตาของ ด.ช.บัญชา แตกละเอียด ต้องรีบทำการผ่าตัดเป็นการด่วน

หลังจากนั้น ทางโรงพยาบาลท่าศาลาได้ส่งตัว ด.ช.บัญชา ต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราช และในวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา แพทย์โรงพยาบาลมหาราช ทำการผ่าตัดเอาเลนส์ลูกตาที่แตกทิ้ง จากนั้นได้เปลี่ยนเลนส์ตาเทียมมาใส่ให้แทน แต่แพทย์บอกว่าตาข้างขวาของ ด.ช.บัญชา คงไม่สามารถใช้การหรือมองเห็นได้ชัดเจนเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ นายบ่าว ชูจันทร์ เทรนเนอร์จอมโหดคนดังกล่าวได้เดินทางมาพบตนและ ด.ช.บัญชา ที่โรงพยาบาลมหาราช แจ้งความประสงค์ว่าจะช่วยเหลือเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และบอกว่า ให้ตนเรียกค่าเสียหายมาเลยจะเรียกเท่าไร ตนจึงเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท นายบ่าว กลับบอกว่า เรียกค่าเสียหายมากเกินไป โดยจะจ่ายให้เพียง 10,000 บาทเท่านั้น และยังท้าทายว่า หากต้องการมากกว่านั้นจะไม่ยอมจ่าย ตนจึงบอกว่า ขอให้สงสารตน และ ด.ช.บัญชา บ้าง เพราะ ด.ช.บัญชา ต้องกลายเป็นคนตาพิการไป 1 ข้าง โดยตา 1 ข้างมีค่าแค่ 10,000 บาทเท่านั้นหรือ ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายบ่าว ชูจันทร์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในเรื่องต่อไป

“นายบ่าว ก็ได้ประกาศท้าทายว่า “เชิญไปแจ้งความได้เลย” จากนั้นจึงขึ้นรถยนต์ขับออกไปอย่างไม่สนใจไยดี ซึ่งฉันจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหาทำร้ายร่างกาย ด.ช.บัญชา บุตรชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กับตำรวจ สภ.อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ในวันพรุ่งนี้ (19) และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกด้วย” นางกาญจนา กล่าว

ทางด้าน นายณัฐวุฒิ ภารพบ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ด.ช.บัญชา ผู้เสียหายไม่ได้ขึ้นทะเบียนนักมวยเอาไว้ตาม พ.ร.บ.มวยไทย จึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องเพื่อขอรับเงินชดเชยตาม พ.ร.บ.มวยไทย ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ ทางผู้ปกครองของ ด.ช.บัญชา จะต้องไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอาเองและอาจจะดำเนินคดีอาญากับเทรนเนอร์โหดรายนี้ด้วย

“ผมจึงอยากประกาศให้หัวหน้าค่ายมวยทุกแห่งไปขึ้นทะเบียนนักมวยเอาไว้ให้ถูกต้อง ที่สมาคมกีฬาของแต่ละจังหวัดเมื่อเกิดเหตุการณ์กรณีเหมือน ด.ช.บัญชา ก็จะสามารถรับเงินชดเชยตาม พ.ร.บ.มวยไทยได้” นายณัฐวุฒิ ภารพบ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น