ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “กองกำลังเทพสตรี”เปิดเผยป้องกันชายแดนไทย-มาเลย์ ในพื้นที่ 4 จชต. และฝั่งระนอง-พม่า “ผบช.คนใหม่” เผยยังเน้น 4 พันธกิจสำคัญ
พล.ต.เดชา กิ่งวงษา ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสัตรี กล่าวถึงแผนป้องกันชายแดนไทยมาเลเซียในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา สตูล ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งชายแดนไทยพม่าด้าน จ.ระนอง ในปี 2551 ภายหลังจากที่เข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรีคนใหม่
ทั้งนี้ ระบุว่า กองกำลังเทพสตรียังคงเน้นแผนป้องกันชายแดนใน 4 พันธกิจ คือ 1.การสนับสนุนปฏิบัติการพิเศษในพื้นที่ระวังป้องกัน โดยเน้นการจัดเตรียมสนามรบด้านการข่าว และการประสานงานด้านการข่าวในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน
2.การเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน โดยจัดกำลังเป็นชุดเฝ้าตรวจตระเวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และการกระทรำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ บริเวณแนวชายแดน ร่วมทั้งการจัดตั้งจุดตรวจ บนเส้นทางที่ล่อแหลมต่อการกระทำผิดตลอด 24 ชม.
3.การจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน มีการจัดเตรียมพื้นที่การรบบริเวณช่องทางต่าง ๆ และการจัดเตรียมกองกำลังประชาชน ให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร ตามแผนป้องกันชายแดน และแผนป้องกันประเทศ
4.การเสริมความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการพัฒนาสัมพันธ์กันในทุกระดับ อย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารของหน่วยทหารและตำรวจตามแนวชยแดนของทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.เดชา กล่าวว่า ในส่วนของการวางกำลัง แบ่งออกเป็น 5 หน่วย คือ กองบัญชาการกองกำลังเทพสตรี มีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 และร้อย .ร.เคลื่อนที่เร็ว กองกำลังเทพสตรีตั้งอยู่ที่ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
กองร้อยทหารบกที่ 5011 ตั้งอยู่ที่วัดหน้าเมือง ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล หน่วยเฉพาะกิจมทหารราบที่ 25 ตั้งอยู่ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่น้ำโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และกองร้อยทหารราบที่ 2531 ตั้งอยู่ที่วัดปิยธรรมาราม ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
สำหรับแผนปฏิบัติงานและการจัดวางกำลังทั้งหมด เป็นไปตามภารกิจของกองกำลังเทพสตรีเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย สถาปนาความมั่นคงตามแนวชายแดน และสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
พล.ต.เดชา กิ่งวงษา ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสัตรี กล่าวถึงแผนป้องกันชายแดนไทยมาเลเซียในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา สตูล ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งชายแดนไทยพม่าด้าน จ.ระนอง ในปี 2551 ภายหลังจากที่เข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรีคนใหม่
ทั้งนี้ ระบุว่า กองกำลังเทพสตรียังคงเน้นแผนป้องกันชายแดนใน 4 พันธกิจ คือ 1.การสนับสนุนปฏิบัติการพิเศษในพื้นที่ระวังป้องกัน โดยเน้นการจัดเตรียมสนามรบด้านการข่าว และการประสานงานด้านการข่าวในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน
2.การเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน โดยจัดกำลังเป็นชุดเฝ้าตรวจตระเวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และการกระทรำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ บริเวณแนวชายแดน ร่วมทั้งการจัดตั้งจุดตรวจ บนเส้นทางที่ล่อแหลมต่อการกระทำผิดตลอด 24 ชม.
3.การจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน มีการจัดเตรียมพื้นที่การรบบริเวณช่องทางต่าง ๆ และการจัดเตรียมกองกำลังประชาชน ให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร ตามแผนป้องกันชายแดน และแผนป้องกันประเทศ
4.การเสริมความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการพัฒนาสัมพันธ์กันในทุกระดับ อย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารของหน่วยทหารและตำรวจตามแนวชยแดนของทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.เดชา กล่าวว่า ในส่วนของการวางกำลัง แบ่งออกเป็น 5 หน่วย คือ กองบัญชาการกองกำลังเทพสตรี มีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 และร้อย .ร.เคลื่อนที่เร็ว กองกำลังเทพสตรีตั้งอยู่ที่ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
กองร้อยทหารบกที่ 5011 ตั้งอยู่ที่วัดหน้าเมือง ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล หน่วยเฉพาะกิจมทหารราบที่ 25 ตั้งอยู่ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่น้ำโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และกองร้อยทหารราบที่ 2531 ตั้งอยู่ที่วัดปิยธรรมาราม ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
สำหรับแผนปฏิบัติงานและการจัดวางกำลังทั้งหมด เป็นไปตามภารกิจของกองกำลังเทพสตรีเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย สถาปนาความมั่นคงตามแนวชายแดน และสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่


