สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุน้ำป่าทะลักเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ไหลเข้าถ้ำน้ำลอด นักท่องเที่ยวเยอรมันเสียชีวิต 5 ราย พร้อมไกด์ชาวไทยอีก 2 ราย ยังสูญหายอีก 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่นำศพผู้เสียชีวิตที่พบทั้งหมดออกมาได้แล้ว พร้อมกระจายกำลังค้นหาผู้ที่ยังสูญหายอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.บ้านตาขุน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสกว่า เกิดเหตุน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งกำลังท่องเที่ยวสำรวจถ้ำอยู่ที่ถ้ำน้ำลอด ซึ่งตั้งอยู่เหนือเขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 9 คน เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ให้เข้าดำเนินการช่วยเหลือด้วย
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทุกหน่วย พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิตเดินทางเข้าที่เกิดเหตุ แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ห่างไกลต้องนั่งเรือ และเดินเท้าเข้าไประยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
เบื้องต้นทราบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียชีวิต 7 ราย เนื่องจากถูกน้ำป่าพัดหายไป ส่วนที่เหลืออีก 2 ราย ยังสูญหายไม่ทราบชะตากรรรม โดยนายไชทัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก นำเจ้าหน้าที่อุทยานพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่เขื่อนรัชชประภา เข้าทำการช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ แต่พื้นที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกราก การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เรือหางยาว เพราะพื้นที่มีตอไม้ใต้น้ำจำนวนมาก
จนเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาศพผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด 7 ศพ และทำการลำเลียงไปเก็บไว้ที่บริเวณท่าเรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เขื่อนรัชชประภา ก่อนนำศพไปชันสูตร ที่โรงพยาบาลบ้านตาขุน
นายไชทัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ในฐานะหัวหน้าชุดค้นหาผู้ประสบภัย กล่าวถึงสภาพอากาศก่อนเกิดเหตุ ว่า มีฝนตกหนักในพื้นที่ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งการค้นหาผู้สูญหายอีก 2 ราย ได้ยุติลงเมื่อเวลา 02.00 น. ส่วนผู้เสียชีวิต 7 ศพ นั้น เป็นไกด์ชาวไทยเพศชาย 2 ศพ คือ นายกิตติศักดิ์ ประทุม และนายสหชัย บุญคงมาก
ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 5 ศพ ยังไม่ทราบชื่อเช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งหมดไม่มีเอกสารติดตัวต้องให้เจ้าหน้าที่ของบังกะโลที่นักท่องเที่ยวเข้าพักมายืนยัน