ปัตตานี – นักศึกษาไทยพุทธ-มุสลิม “มอ.ปัตตานี” กว่า 300 เดินขบวนประณามโจรใต้ยิง นศ.มนุษย์ศาสตร์ฯ ปี 4 ดับ ออกแถลงการณ์เรียกร้องสันติภาพโดยเร็ว
วันนี้ (4 ก.ย.) เวลา 16.00 น.กลุ่มนิสิต-นักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต (มอ.) ปัตตานี กว่า 300 คนร่วมกันเดินขบวนประณามคนร้ายที่ก่อเหตุลอบยิงนายปิยะพงค์ เพชรเงิน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายดาวุด ทับอุไร นายกองค์การบริหารองค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานี อ่านแถลงการณ์ใจความว่า เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสูญเสียต่อบรรดาเครือญาติ คนใกล้ชิดและพี่น้องชาวไทยเป็นจำนวนมากและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งต่อบรรดาเครือญาติ คณาจารย์ บุคลากร ตลอดจนบรรดานักศึกษา ที่เป็นผู้สร้างความสว่างให้แก่ชาวโลกได้มีแสงสว่างในการขีดเส้นทางของสังคม
เมื่อนายปิยะพงค์ เพชรเงิน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เอกพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติที่แบกรับหน้าที่ต่อการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต ถูกลอบยิงเมือวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาบริเวณบ้านเมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้นายปิยะพงค์เสียชีวิต
ด้วยเหตุนี้ทางองค์การนักศึกษา ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของนายปิยพงค์ และทางองค์การนักศึกษาขอเป็นกำลังใจให้ต่อบรรดาเครือญาติ เพื่อนๆ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อมต่อนายปิยพงค์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีวัฒนธรรมและอัตลักษณ์เป็นของตัวเองและมีการสื่อสารเป็นภาษามาลายูเป็นส่วนใหญ่เป็นพหุสังคมที่มีความหลากหลายภาคใต้ผืนแผ่นดินเดียวกัน
จากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องออกมาในรูปแบบความรุนแรงและได้สร้างความสะเทือนใจต่อพี่น้องทั่วประเทศ และภายใต้สื่อต่างๆที่เสนอออกไปทำให้สถานการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้ตกอยู่ในเงามืดของความกดดัน หวาดผวากลัวต่อการตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่กระจายอยู่ในพื้นที่
ด้วยเหตุนี้ทางองค์การบริหารนักศึกษาและสภานักศึกษาขอเรียกร้องสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากไม่อาจทนต่อสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นของประชาชนและความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีที่ท่าว่าจะยุติ ซึ่งได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของสังคมทุกด้านที่เป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตของประชาชนให้กลับคืนสู้สภาวะปกติโดยไม่มีเงื่อนไขและเส้นแบ่งความแตกต่างด้านภาษา สีผิว และชาติพันธุ์ใดๆทั้งสิ้นเพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งความเข้าใจสู้ประตูสันติภาพที่ทุกคนต้องการให้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ความอุดมสมบูรณ์ของน้ำใจชาวใต้แห่งนี้กลับมาอีกครั้ง