ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านค้านโครงการสร้าง โรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ ของบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด หวั่นส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ทั้งจากเสียงและมลภาวะอื่น
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายขันตี ศิลปะ นายอำเภอกะทู้ เป็นประธานการประชุม เพื่อแก้ปัญหาการร้องเรียนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเฮอร์ริเทต หมู่บ้านกะทู้ธานี และหมู่บ้านเดอะวัลเลย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการจัดตั้งโรงงานคอนกรีตผสมของบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด โดยมี นายประเสริฐ ขาวกิจไพศาล นายกเทศบาลตำบลกะทู้ นายวิทยา ศุกระกร โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 50 คน เข้าร่วม ซึ่งเบื้องต้นได้มีการขอให้ชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน
นายธีระ ณัฏฐการณิก ตัวแทนของชาวบ้าน กล่าวว่า กรณีที่บริษัทดังกล่าวมาจัดสร้างโรงงานในพื้นที่ใกล้กับหมู่บ้านนั้น ได้สร้างความกังวลให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เพราะเกรงจะมีผลกระทบในเรื่องของเสียง ฝุ่นละออง และมลภาวะที่จะเกิดขึ้นตามมา เพราะขณะนี้จากการที่มีรถบรรทุกขนอุปกรณ์เข้าไป ก็ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่บผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแล้ว
“เราไม่ได้ขัดขวางความเจริญที่เกิดขึ้น แต่อยากให้พิจารณาถึงความเหมาะสมของโรงงานที่จะมาตั้งติดกับชุมชน แม้ว่าก่อนหน้านี้ตัวแทนของบริษัทจะได้เข้ามาชี้แจงว่า มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนด แต่ในทางปฏิบัติ ก็ไม่ทราบว่าจะทำได้ตามที่มีการระบุไว้หรือไม่”
นายธีระ กล่าวว่า อยากให้โรงงานได้ย้ายไปก่อสร้างที่อื่น เพราะเราเองไม่มั่นใจว่านอกจากโรงงานนี้แล้วจะมีนักลงทุนรายอื่นเข้ามาอีกหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งยากที่จะแก้ไขปัญหา ดังนั้น ประเด็นสำคัญ คือ ขอให้ยกเลิกการประกาศผังเมือง ซึ่งกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีม่วง หรือเขตอุตสาหกรรม ให้เป็นที่อยู่อาศัยแทน
นายวิทยา กล่าวว่า จากประกาศของผังเมืองเกาะภูเก็ต ที่กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุตสาหกรรม โดยมีเงื่อนไขว่า โรงงานที่จะก่อสร้างต้องไม่ก่อให้เกิดมลพิษและมีผลกระทบกับชุมชนหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีระยะเวลาการบังคับใช้ 5 ปี เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 ดังนั้น จึงเหลือระยะเวลาอีก 3 แต่หากต้องการที่จะแก้ไขก็สามารถที่จะดำเนินการได้ และที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการบังคับใช้ประกาศก็ได้มีประกาศไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้ร้องคัดค้านว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้คัดค้าน
ในขณะที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในเรื่องของการคัดค้านไม่ให้มีการประกาศพื้นที่ดังกล่าวเทศบาลได้เคยทำเรื่องคัดค้านไปแล้ว 2-3 ครั้ง เพราะเราไม่ต้องการให้มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมา เทศบาลได้มีนโยบายชัดเจนในการเป็นเมืองอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และเราก็เคยได้รับรางวัลมาแล้ว ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะต้องมีการดำเนินการผลักดันต่อ จึงอยากให้โรงงานย้ายพื้นที่ไปสร้างที่อื่น ที่ค่อนข้างห่างไกลชุมชน ซึ่งก็มีพื้นที่ที่เหมาะสมอยู่หลายแปลงที่จะดำเนินการได้
ด้านตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัดกล่าวชี้แจงว่า ในการพิจารณาว่าพื้นที่ใดจะเป็นเขตอุตสาหกรรมได้หรือไม่นั้น มีกฎหมายที่ต้องพิจารณาอยู่ 4 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง พระราชบัญญัติโรงงาน และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร การที่อนุญาตให้มีการจัดตั้งโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ ก็เพื่อแก้ปัญหาด้านการก่อสร้าง ซึ่งจะต้องมีการสั่งนำเข้าจากต่างจังหวัดส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ การดำเนินการได้มีการกำหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เป็นการขอยกเว้นประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ ภายใต้เงื่อนไขเพื่อแก้ปัญหาของผู้ประกอบการ เนื่องจากที่ผ่านมาภูเก็ตถูกควบคุม โดยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งห้ามก่อสร้างโรงงานใดๆ ทั้งสิ้น แต่ปรากฏว่า ได้มีการยื่นขอแก้ไข เพราะมีโรงงานขนาดเล็กที่มีความจำเป็นเพื่อรองรับในส่วนของการท่องเที่ยว ไม่ได้เจาะจงเฉพาะโรงงานปูนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีมติว่า ให้ตัวแทนของบริษัทกลับไปหารือกับผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ส่วนของทางเทศบาล ก็จะดำเนินการผลักดันให้มีการยกเลิกการประกาศผังเมือง ที่กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีม่วง หรือเขตอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยต่อไป
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายขันตี ศิลปะ นายอำเภอกะทู้ เป็นประธานการประชุม เพื่อแก้ปัญหาการร้องเรียนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเฮอร์ริเทต หมู่บ้านกะทู้ธานี และหมู่บ้านเดอะวัลเลย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการจัดตั้งโรงงานคอนกรีตผสมของบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด โดยมี นายประเสริฐ ขาวกิจไพศาล นายกเทศบาลตำบลกะทู้ นายวิทยา ศุกระกร โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 50 คน เข้าร่วม ซึ่งเบื้องต้นได้มีการขอให้ชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน
นายธีระ ณัฏฐการณิก ตัวแทนของชาวบ้าน กล่าวว่า กรณีที่บริษัทดังกล่าวมาจัดสร้างโรงงานในพื้นที่ใกล้กับหมู่บ้านนั้น ได้สร้างความกังวลให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เพราะเกรงจะมีผลกระทบในเรื่องของเสียง ฝุ่นละออง และมลภาวะที่จะเกิดขึ้นตามมา เพราะขณะนี้จากการที่มีรถบรรทุกขนอุปกรณ์เข้าไป ก็ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่บผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแล้ว
“เราไม่ได้ขัดขวางความเจริญที่เกิดขึ้น แต่อยากให้พิจารณาถึงความเหมาะสมของโรงงานที่จะมาตั้งติดกับชุมชน แม้ว่าก่อนหน้านี้ตัวแทนของบริษัทจะได้เข้ามาชี้แจงว่า มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนด แต่ในทางปฏิบัติ ก็ไม่ทราบว่าจะทำได้ตามที่มีการระบุไว้หรือไม่”
นายธีระ กล่าวว่า อยากให้โรงงานได้ย้ายไปก่อสร้างที่อื่น เพราะเราเองไม่มั่นใจว่านอกจากโรงงานนี้แล้วจะมีนักลงทุนรายอื่นเข้ามาอีกหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งยากที่จะแก้ไขปัญหา ดังนั้น ประเด็นสำคัญ คือ ขอให้ยกเลิกการประกาศผังเมือง ซึ่งกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีม่วง หรือเขตอุตสาหกรรม ให้เป็นที่อยู่อาศัยแทน
นายวิทยา กล่าวว่า จากประกาศของผังเมืองเกาะภูเก็ต ที่กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุตสาหกรรม โดยมีเงื่อนไขว่า โรงงานที่จะก่อสร้างต้องไม่ก่อให้เกิดมลพิษและมีผลกระทบกับชุมชนหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีระยะเวลาการบังคับใช้ 5 ปี เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 ดังนั้น จึงเหลือระยะเวลาอีก 3 แต่หากต้องการที่จะแก้ไขก็สามารถที่จะดำเนินการได้ และที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการบังคับใช้ประกาศก็ได้มีประกาศไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้ร้องคัดค้านว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้คัดค้าน
ในขณะที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในเรื่องของการคัดค้านไม่ให้มีการประกาศพื้นที่ดังกล่าวเทศบาลได้เคยทำเรื่องคัดค้านไปแล้ว 2-3 ครั้ง เพราะเราไม่ต้องการให้มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมา เทศบาลได้มีนโยบายชัดเจนในการเป็นเมืองอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และเราก็เคยได้รับรางวัลมาแล้ว ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะต้องมีการดำเนินการผลักดันต่อ จึงอยากให้โรงงานย้ายพื้นที่ไปสร้างที่อื่น ที่ค่อนข้างห่างไกลชุมชน ซึ่งก็มีพื้นที่ที่เหมาะสมอยู่หลายแปลงที่จะดำเนินการได้
ด้านตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัดกล่าวชี้แจงว่า ในการพิจารณาว่าพื้นที่ใดจะเป็นเขตอุตสาหกรรมได้หรือไม่นั้น มีกฎหมายที่ต้องพิจารณาอยู่ 4 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง พระราชบัญญัติโรงงาน และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร การที่อนุญาตให้มีการจัดตั้งโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ ก็เพื่อแก้ปัญหาด้านการก่อสร้าง ซึ่งจะต้องมีการสั่งนำเข้าจากต่างจังหวัดส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ การดำเนินการได้มีการกำหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เป็นการขอยกเว้นประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ ภายใต้เงื่อนไขเพื่อแก้ปัญหาของผู้ประกอบการ เนื่องจากที่ผ่านมาภูเก็ตถูกควบคุม โดยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งห้ามก่อสร้างโรงงานใดๆ ทั้งสิ้น แต่ปรากฏว่า ได้มีการยื่นขอแก้ไข เพราะมีโรงงานขนาดเล็กที่มีความจำเป็นเพื่อรองรับในส่วนของการท่องเที่ยว ไม่ได้เจาะจงเฉพาะโรงงานปูนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีมติว่า ให้ตัวแทนของบริษัทกลับไปหารือกับผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ส่วนของทางเทศบาล ก็จะดำเนินการผลักดันให้มีการยกเลิกการประกาศผังเมือง ที่กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีม่วง หรือเขตอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยต่อไป