xs
xsm
sm
md
lg

สั่ง อบต.-เจ้าท่าคุมสร้างท่าเรือราไวย์ไม่ให้กระทบปะการัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ สั่ง อบต.ราไวย์-เจ้าท่าฯควบคุมการก่อสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวให้เป็นไปตาม IEE หลังคณะกรรมการสิทธิฯทำหนังสือให้ยับยั้งการก่อสร้าง เหตุส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเห็นชอบให้บริษัทเอกชนสร้างสะพาน 3 แห่งข้ามคลองสาธารณะ “เสน่ห์โพธิ์”

วันนี้ (3 ก.ค.) นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาสิ่งล่วงล้ำทางน้ำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 6/2550 โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องปฏิบัติการภูเก็ต (POC) ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีการพิจารณาการก่อสร้างสะพานของเอกชน เพื่อข้ามคลองสาธารณประโยชน์ตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง ของโรงแรมแชงกรี-ลา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำนวน 4 แห่ง และการพิจารณาขอให้ยับยั้งการดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือ บริเวณหาดราไวย์ ตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองสาธารณะ ในโครงการโรงแรมแชงกรี-ลา รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งทางโรงแรมได้ยื่นเรื่องขอให้มีการพิจารณาก่อสร้างสะพานข้ามคลองสาธารณะ “เสน่ห์โพธิ์”จำนวน 4 จุด เพื่อใช้เป็นสะพานสำหรับเดินข้ามความสูงของสะพานจากพื้นน้ำประมาณ 7 เมตร และกว้างประมาณ 3 เมตร โดยขณะนี้โครงการก่อสร้างสะพานผ่านการทำIEEแล้ว 3 แห่ง ส่วนอีก 1 แห่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนิน ซึ่งจุดที่จะก่อสร้างสะพานนั้นเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ

ในการประชุมพิจารณาการสร้างสะพาน ที่ประชุมมีมติให้สร้างสะพานได้ 3 จุดที่ผ่านการทำIEE เท่านั้น ส่วนอีกจุดยังไม่มีการพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณามีข้อเสนอแนะว่าผู้ก่อสร้างจะต้องไม่ทำให้สะพานกีดขวางทางเดินของน้ำ และจะต้องให้เรือของชาวบ้านเข้าออกเพื่อหลบพายุได้ รวมทั้งการก่อสร้างดังกล่าวไม่ขัดกับผังเมือง

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการพิจาณาถึงข้อเสนอ การขอให้ยับยั้งโครงการสร้างสะพานท่าเทียบเรือบริเวณหาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ทำหนังสือมายังจังหวัด เนื่องจากเห็นว่าการสร้างโครงการดังกล่าวทำลายปะการังในบริเวณที่ก่อสร้าง ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวขนาดไม่เกิน 20 ตันกรอส์ส ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากผู้ว่าฯซีอีโอ และรัฐบาลญี่ปุ่นประมาณ 40 ล้านบาท

นายวรพจน์ กล่าวในการประชุม ว่า สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือบริเวณหาดราไวย์ ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ยับยั้งการก่อสร้างนั้นในทางปฏิบัติคงจะไม่สามารถยับยั้งได้ เพราะเชื่อว่าบริษัทที่รับว่าจ้าง จะต้องฟ้องร้องผู้ว่าจ้างแน่นอน แต่ถ้าหากพบว่าการก่อสร้างไม่ทำตามที่กำหนดไว้ ในการทำศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้

สำหรับโครงการนี้ อบต.ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ให้ อบต.ราไวย์ และเจ้าท่าไปกำกับดูแลบริษัทรับเหมาก่อสร้างอย่างเข้มงวด เพื่อให้ดำเนินการตามIEE ที่ศึกษาไว้เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมบริเวณที่ก่อสร้าง รวมทั้งจะต้องดูแลควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานที่ท่าเทียบเรือที่หาดราไวย์ เป็นโครงการที่ก่อสร้างเสร็จเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนของการปรับปรุงภูมิทัศน์เท่านั้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำหนังสือชี้แจง และทำความเข้าใจไปยังคณะกรรมการสิทธิฯต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น