xs
xsm
sm
md
lg

เปิดชื่อคนเจ็บระเบิด7จุดกลางเมืองหาดใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-เปิดรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ 7 จุด อยู่ที่โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี-โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ร่วม 11 ราย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 7 จุด เมื่อเวลา 22.40 น.ที่ผ่านมา วันนี้ (27 พ.ค.) ว่า สำหรับสถานที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทั้ง 7 จุด ประกอบด้วย

1.ด้านหน้าโรงแรมหาดใหญ่การ์เด้น
2.โรงแรมเจบี หาดใหญ่
3.ห้างสรรพสินค้า Big C
4.ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส
5.ด้านหน้าร้านนายหนัง
6.ด้านหน้าร้านยาหมอเภสัช และ
7.ร้านราดหน้าโกจ้อน

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมเฝ้าระวังเหตุซ้ำรอย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด จำนวน 10 ราย ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบาลราษฎร์ยินดี,โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ทราบรายชื่อเบื้องต้น ประกอบด้วย

โรงพยาบาลหาดใหญ่ จำนวน 7 ราย ประกอด้วย
1.นางสุรีย์ โภคากุล
2.ด.ช.วรวิทย์ แสงทวี
3.นายถาวร แสงทวี
4.นายนิวัฒน์ ชูชาติ
5.น.ส.อัปสร เสนาณรงค์
6.นางเอี้ยงจวง แซ่ตั้ง และ
7.ชายไม่ทราบชื่อ

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ จำนวน 1 ราย
1.นายช้าง แซ่ยาง

โรงพนาบาลราษฎร์ยินดี จำนวน 3 ราย
1.ด.ช. ภฤณ พรานยรัตนวดี อายุ 8 ขวบ
2.นางวนิดา ธรมมรักษา อายุ 45 ปี และ
3.ด.ญ.จิรัญญา นวตการณ์

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายนปี พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดทั่วเมืองหาดใหญ่ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 16 กันยายน จำนวน 5 จุดด้วยกัน ประกอด้วย

จุดที่ 1 บริเวณหน้าห้องน้ำชั้น 5 ของโรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้าไดอาน่า ดีพาร์ทเม้นสโตร์ ตั้งอยู่ถนนศรีภูวนาท แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

จุดที่ 2 บริเวณประตูทางเข้า-ออก ห้างสรรพสินค้าโอเดี้ยน ชอปปิ้งมอลล์ ถนนธรรมนูญวิถี ซึ่งได้รับความเสียหายหนักที่สุด เนื่องจากเกิดเพลิงลุกไหม้ตามมา

จุดที่ 3 บริเวณผับดีพวอร์เนอร์ ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าโอเดี้ยน

จุดที่ 4 บริเวณหน้าเชอร์รี่นวดแผนโบราณ ตั้งอยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้าโอเดี้ยน ประมาณ 100 เมตร และ

จุดที่ 5 บริเวณตู้เอทีเอ็มหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาหาดใหญ่ ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1

จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 67 ราย และเสียชีวิต 2 ราย.
กำลังโหลดความคิดเห็น