xs
xsm
sm
md
lg

ยิงเศรษฐินีเงินกู้ดับคาถนน - ถล่มหนุ่มรถพรุนคนรอดตายหวุดหวิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช – ประกบยิงสาวใหญ่เศรษฐินีเงินกู้ดับคาถนน อีกรายถล่มหนุ่ม 9 นัดซ้อน กลางย่านการค้าเมืองคอนเที่ยงวัน ตะลึงคนแค่เลือดออกซิบๆ แต่ปิกอัพพรุน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.ท.โสภณ วีระสกุล สว.เวรสอบสวน สภ.อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบนถนนสายน้ำน้อย-ร่อนพิบูลย์ หน้าการประปาเทศบาลเขาชุมทอง ม.1 ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จึงเข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุขเกษม ธรรมประกอบ ผกก.พ.ต.ท.เชิดชาย โมสิกะ รอง ผกก.ป.กำลังชุดสืบสวน แพทย์เวรชันสูตรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต๊กตึ๊ง

ในที่เกิดเหตุบนถนนพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ ไม่ติดแผ่นป้าย ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ห่างออกไปบริเวณไหล่ถนนลาดลงไปติดกับคูน้ำพบศพหญิงสภาพศพศีรษะจมอยู่ในน้ำ ท่อนลำตัวเกยอยู่บนตลิ่ง ทราบชื่อต่อมา คือ นางสุณีย์ พลศิริ อายุ 37 ปี อยู่ 50 ม.1 ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพอยู่ในชุดเสื้อยืดน้ำตาล กางเกงขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณท้ายทอยทะลุกลางศีรษะ 1 นัด ราวนมซ้ายทะลุหลัง 1 นัด

พยานที่เห็นเหตุการณ์แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสุณีย์ ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาตามถนน โดยมีรถยนต์เก๋งสีบรอนซ์โหลดเตี้ย แต่งท่อสูตร มีคนในรถประมาณ 3 คน ขับตามหลังมาแล้วเร่งเครื่องขึ้นมาประกบ ก่อนคนในรถใช้อาวุธปืนยิงใส่นางสุณีย์ 1 นัดจนตกจากรถจากนั้นคนร้ายได้ลงไปยิงซ้ำอีก 1 นัด ก่อนที่จะหลบหนีมุ่งหน้าไปยัง อ.จุฬาภรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามวิทยุสกัด พบว่า รถคันดังกล่าวได้หายไปในเขต จ.พัทลุง

พ.ต.ท.เชิดชาย โมสิกะ รอง ผกก.ป.เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มีรายได้เสริมโดยการปล่อยเงินกู้รายย่อย และเป็นเท้าแชร์ สำหรับสาเหตุนั้นเรามุ่งปมไปที่เรื่องเก่าที่เพื่อนสนิทของนางสุณีย์ได้ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา และนางสุณีย์เป็นพยานรายหนึ่งที่เจ้าหน้าที่สอบสวนไว้แล้ว

“คนร้ายที่ก่อเหตุนั้นน่าจะเป็นคนๆ เดียวกับที่ยิงเพื่อนของนางสุณีย์เสียชีวิต ใช้ปืนลักษณะเดียวกันเป็นปืนลูกโม่ อาจจะเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเรื่องของแชร์หรือเงินๆ ทองๆ ลักษณะนี้ส่วนหนึ่งซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวน”

อีกรายที่สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่ถูกยิงถึง 9 นัด แต่กระสุนทำได้เพียงสร้างรอยบาดแผลเล็กน้อย ส่วนรถยนต์นั้นพรุน เพราะแรงกระสุน โดยเมื่อเวลา 13.20 น.ของวันเดียวกัน ร.ต.ท.บรรจง สิทธิศักดิ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันบริเวณสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.พ.ต.ท.ปรีชาญ เต็งรัง รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สถาพร พัฒนรักษ์ สวป. พ.ต.ต.วิจักขณ์ ตารมย์ สว.สส.รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

พบผู้คนจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์ โดยมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บ-8484 นครศรีธรรมราช จอดอยู่บนลานจอดรถของสถานีรถไฟ ติดกับสามแยกวงเวียน ถนนยมราช ต.คลัง จอดอยู่ด้านกระจกด้านคนขับและตัวถังถูกยิงเป็นรูพรุน 9 รู ส่วนคนในรถจำนวน 3 คน ได้วิ่งลงจากรถรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ

โดยถูกยิงเข้าที่ศีรษะหลายนัดได้รับบาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต๊กตึ้ง รีบนำส่ง รพ.มหาราช ทราบชื่อผู้บาดเจ็บในเวลาต่อมา คือ นายไกรสร ตะลึงเพชร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285 หมู่ 9 บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีอาการเพียงเลือดออกจากบาดแผลไม่มาก ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 9 มม.ตกอยู่จำนวนหนึ่งจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่ รพ.มหาราช โดยทางแพทย์ได้นำ นายไกรสร เข้าห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจสอบบาดแผล และมี นางจินดา ตลึงเพชร อายุ 40 ปี ภรรยาของนายไกรสร และนายนันทภักดิ์ หรือนก คันธะ อายุ 40 ปี เพื่อนของนายไกรสร ซึ่งร่วมอยู่ในเหตุการณ์ขณะคนร้ายยิงถล่มคอยเฝ้าดูแล นายไกรสร อย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง จากการตรวจสอบพบว่ากระสุนที่ถูกศีรษะหลายนัดเพียงแค่หนังศรีษะถลอกเล็กน้อยเท่านั้น และมีอยู่เพียงนัดเดียวที่กระสุนเจาะหนังศีรษะลึกประมาณไม่เกิน 1 ซม.เป็นบาดแผลที่ทำให้เลือดไหลโชกอาบใบหน้าดังกล่าว

นายไกรสร ผู้บาดเจ็บซึ่งยังมีสติเป็นปกติ ได้เล่าเหตุการณ์นาทีระทึกถึงเหตุการณ์ ว่า เดิมทีตนมีอาชีพขับรถกระบะบรรทุกรับจ้างประจำอยู่ในตลาดหัวอิฐ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แต่ในปัจจุบันได้หันมาประกอบอาชีพค้าขายและทำสวนใน อ.ลานสกา

ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วย นางจินดา ตลึงเพชร ภรรยา และนายนันทภักดิ์ หรือนก คันธะ ได้ขับรถยนต์มาส่งหลานของ นายนันทภักดิ์ ที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เพื่อโดยสารรถไฟเข้ากรุงเทพฯ หลังจากส่งหลานของ นายนันทภักดิ์ ขึ้นรถไฟเรียบร้อยแล้วจึงพากันเดินกลับมาที่รถยนต์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถริมถนนนายนันทภักดิ์ ขึ้นนั่งประจำที่นั่งคนขับ

ในขณะที่ นางจินดา ภรรยาของตนนั่งกลาง และตนนั่งด้านสุด ในช่วงที่ นายนันทภักดิ์ สตาร์ทเครื่องยนต์ และเตรียมจะขับออกไปก็มีคนร้ายจำนวน 1 คนเดินเข้ามายืนข้างรถก่อนจะชักปืนน่าจะเป็นปืนขนาด 9 มม.ออกมาและรัวยิงใส่กลุ่มของตน 3 นัดซ้อน ในขณะที่ทุกคนก้มหัวหลบ มือปืนยิงใส่อีก 3 นัดก่อนจะเดินวนไปทางด้านซ้ายจ่อยิงที่ศีรษะของตนอีก 3 นัด รวมคนร้ายยิงถล่มมากถึง 9 นัด จนแน่ใจว่าคนในรถไม่รอดแน่แล้ว จึงวิ่งไปขับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่ตนรู้สึกเจ็บแปลบที่ศีรษะและตัดสินใจเปิดประตูรถ และทั้ง 3 คนได้วิ่งหนีเข้าไปในสถานีรถไฟ ส่วนมือปืนขับหลบหนีไปทางวัดศรีทวี

นายไกรสร กล่าวว่า ที่ตนรอดตายทั้งๆ ที่คนร้ายระดมยิงใส่และยังเข้ามาจ่อยิงที่ศีรษะอีกหลายนัด น่าจะมาจากบารมีของจตุคามรามเทพ รุ่นหนึ่งที่สร้างเมื่อปี 2547 ทราบว่า คนใกล้ชิดของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ฯ เป็นคนจัดสร้าง โดยในครั้งนั้นมี นายเยื้อง แสงแก้ว กรรมการจัดสร้างขอให้ตนช่วยขับรถบรรทุกวัตถุมงคลรุ่นนี้ไปเข้าพิธีปลุกเสกที่วิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช หลังเสร็จพิธี นายเยื้อง แสงแก้ว จึงมอบ จตุคามรามเทพ องค์นี้ให้ตนและตนได้นำมาใส่กรอบห้อยคอเดี่ยวๆ ด้วยสร้อยกะลาตาเดียว ติดตัวมาตลอด

ขณะที่ พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.สภ.อ.เมือง สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสกัดจับกุมมือปืนแต่ยังไร้วี่แวว ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่ามาจากเรื่องชู้สาว หรือเรื่องส่วนตัว โดยจะเชิญ นายไกรสร นายนันทภักดิ์ และนางจินดา มาสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประมวลเหตุการณ์ว่ามือปืนมีเป้าหมายที่จะสังหาร นายนันทภักดิ์ หรือนายไกรสร กันแน่ เนื่องจากการยิง 3 นัดแรกมือปืนยิงใส่นายนันทภักดิ์ แต่กระสุนไม่โดน คนร้ายเข้าใจว่ากระสุนถูกนายนันทภักดิ์ ฟุบเสียชีวิตคาพวงมาลัย จึงหันไปยิงถล่มใส่ นายไกรสร เพื่อปิดปาก เนื่องจาก นายไกรสร เห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อสาวโยงไปสู่ประเด็นและเป้าหมายการสังหาร และนำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น