ตรัง – ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิเกา จังหวัดตรัง เผย ขณะนี้ประสบปัญหาแพทย์ขาดแคลนในสาขาศัลยแพทย์ทั่วไป ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่ในการรับบริการทางการแพทย์ ซึ่งหลายครั้งต้องมีการส่งผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินที่นครศรีธรรมราชแทน
นายแพทย์ ไพศาล เกื้ออรุณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิเกา จังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลตรัง เป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 555 เตียง และเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งทะเลอันดามัน แต่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนศัลยแพทย์ทั่วไป (หมอผ่าตัดทั่วไป) เนื่องจากมีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น และต้องทำงานตลอด 30 วัน โดยไม่มีวันหยุด
ทั้งนี้ หากวันใดที่แพทย์ท่านนี้จำเป็นต้องหยุดพัก ทางโรงพยาบาลตรังก็จะแจ้งไปให้ทางโรงพยาบาลอำเภอต่างๆ รับทราบว่า วันนั้นทางโรงพยาบาลตรังจะงดรับคนไข้ที่ต้องผ่าตัด ส่วนกรณีที่มีคนไข้ฉุกเฉินจะต้องทำการผ่าตัด ให้ทางโรงพยาบาลอำเภอส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช แทน
นายแพทย์ ไพศาล กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นมานานประมาณ 2 เดือน ทำให้ทางโรงพยาบาลสิเกาต้องส่งคนไข้ฉุกเฉินไปรับการผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลมหาราช แล้ว 2 ราย ทั้งนี้ เดิมทีทางโรงพยาบาลตรังจะมีศัลยแพทย์ทั่วไป จำนวน 5 คน แต่ที่ผ่านมาได้ลาออกไปบ้าง ขอย้ายไปบ้าง จึงขณะนี้เหลือเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น จึงทำให้ต้องทำงานหนักแบบไม่มีวันพัก และส่งผลกระทบต่อประชาชนที่จะต้องไปรับการรักษาไกลถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช และบางคนก็ตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแทน ซึ่งตามความเหมาะสมแล้ว ทางโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ควรจะมีศัลยแพทย์ทั่วไปอย่างน้อย 5 คน
นายแพทย์ ไพศาล กล่าวด้วยว่า ตนพูดเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นคนตรังคนหนึ่ง ซึ่งมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และของโรงพยาบาลตรัง ฉะนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้จะต้องจ่ายเงินเดือนให้ศัลยแพทย์ เดือนละ 5 คน แต่เมื่อไม่มีแพทย์ในส่วนนี้แล้วเงินไปอยู่ที่ไหน ซึ่งควรที่จะต้องเร่งจ้างศัลยแพทย์มาให้ครบตามจำนวนที่ขาดแคลน เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และการที่ตนเองออกมาพูดในเรื่องนี้ ก็มิได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดเลย
นายแพทย์ สมนึก เชื้อทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลกำลังประสบปัญหาขาดแคลนศัลยแพทย์ โดยเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ตนมารับตำแหน่งยังมีอยู่ 3 คน จากนั้น ก็มีการลาออกไป 1 คน ขอย้ายกลับภูมิลำเนา 1 คน จึงเหลือเพียง 1 คนเท่านั้น คือ นายแพทย์ ปัญจพล แก้วอุบล แต่ก็มีข่าวดีว่าในเร็วๆ นี้ นายแพทย์สมพงษ์ ทองใส ศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็จะย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลตรัง
นอกจากนั้น นายแพทย์ ประยุทธ์ แสนเชียร ซึ่งได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ได้ขอกลับเข้ามารับราชการต่อ ขณะเดียวกัน ก็ยังมีศัลยแพทย์ที่กำลังอยู่ระหว่างศึกษาอีก 3 คน ซึ่งจะทยอยกันจบการศึกษาในช่วงปี 2552-2554 สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของทางโรงพยาบาลตรังขณะนี้ ก็คือ หากทางโรงพยาบาลอำเภอต่างๆ มีคนไข้ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน และตรงกับช่วงที่นายแพทย์ปัญจพล ลาพัก ก็ขอให้ส่งคนไข้ไปรับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
นายแพทย์ สมนึก กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลตรังเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งควรจะมีศัลยแพทย์ทุกด้าน โดยในส่วนของศัลยกรรมกระดูกนั้นมี 5 คน ถือว่าไม่ขาดแคลน ศัลยกรรมสมองมี 3 คน แต่ลาไปต่างประเทศ 1 คน ซึ่งจะกลับมาในปี 2551 และศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะมี 1 คน คือ นายแพทย์ สมภพ ธีระกิตไพศาล
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลตรัง ควรจะมีศัลยแพทย์ 8-10 คน เพื่อจะได้เพียงพอกับความต้องการ แม้ว่าในปีนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขให้โควตาผลิตศัลยแพทย์มา 2 ตำแหน่ง แต่กลับไม่มีคนไปเรียน
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้พยายามหาทางแก้ไขกันมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมองเห็นทางออกบ้างแล้ว ซึ่งยอมรับว่า ที่ผ่านมา และปัจจุบันนี้ ทุกคนในโรงพยาบาลตรังต้องทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมาก เพราะมีแพทย์จำนวนทั้งหมด 52 คน แต่ต้องรับคนไข้ต่อวันละ 1,300 คน ซึ่งทุกๆ คนก็พยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว