นครศรีธรรมราช - งานศพ 2 ทหารกล้านครศรีฯสุดเศร้า ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมอัญเชิญพวงมาลาพระราชทานเคารพศพคืนนี้
บรรยากาศงานศพของ จ.ส.อ.วีระชน ศรีเกิด และ จ.ส.ต.สมเกียรติ จงจิตร 2 ทหารที่ถูกผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิด และสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยศพของนายทหารทั้ง 2 นาย ยังตั้งศพอยู่ที่ศาลาในวัดชะเมา โดยมีเพื่อนทหาร ผู้บังคับบัญชาไปร่วมงาน และให้กำลังใจญาติของทั้ง 2 ทหารที่เสียชีวิตอย่างคับคั่งท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติสนิทและครอบครัวของนายทหารทั้งสองนาย
สำหรับกำหนดการนั้นในเวลา 19.00 น.ของวันนี้ (11 พ.ค.50)นายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จะอัญเชิญพวงมาลาพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมงกุฎราชกุมาร มาวางเคารพศพนายทหารทั้ง 2 นายขณะเดียวกันจะมีกลุ่มโรงเรียน และนักเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ทหารทั้ง 7 นายเคยไปฝึกอบรมเดินทางมาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพในคืนนี้ด้วย
โดยญาตินายทหารทั้งสองนายจะตั้งศพไว้ที่ศาลาวัดชะเมาคืนนี้เป็นสุดท้าย และในวันรุ่งขึ้นกองทัพภาคที่ 4 และญาติจะเคลื่อนย้ายศพกลับบ้านเกิด โดย จ.ส.อ.วีระชน ศรีเกิด จะเคลื่อนศพไปที่วัดสวนขัน หมู่ที่ 1 ต.สวนขัน กิ่งอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช และจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลภายในวัดสวนขัน 3 วัน โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 14 พ.ค.2550 เวลา 14.00 น.ที่ฌาปนสถานวัดสวนขัน
ส่วนศพ จ.ส.ต.สมเกียรติ จงจิตร ทางญาติจะนำศพไปตั้งที่บ้านเกิดบริเวณหลังที่ว่าการอำเภอพิปูน ม.1 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช โดยตั้งบำเพ็ญกุศล 3 วัน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 14 พ.ค.2550 เวลา 14.00 น.เช่นกัน ที่ฌาปณสถาน วัดมังคลาราม อ.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
นายละออง จงจิตอายุ74ปี บิดาของจ.ส.อ.สมเกียรติ เปิดเผยว่า ลูกชายรักอาชีพทหารและเป็นทหารกว่า20ปีแล้วลูกชายมีภรรยาสองคนคนแรกมีลูกด้วยกัน3คนและคน
“ปัจจุบันไม่มีลูก ที่ผ่านมาลูกชายจะกลับมาบ้านบ่อย ภูมิใจที่ลูกชายตายในหน้าที่ที่ผ่านมาลูกชายมักจะพูดคุยให้ฟังตลอดว่าเมื่อออกไปปฎิบัติหน้าที่นั้นจะไม่สวมใส่เสื้อเกราะ โดยมีเหตุผลก็คือหากจะตายก็ขอให้ตายเลยไม่ต้องทรมานพิการ ลูกชายจึงไม่ใส่เสื้อเกราะ ส่วนการเรียกร้องครอบครัวเราไม่ขอเรียกร้องอะไรแล้วแต่ทางการจะช่วย แต่ภูมิใจแล้วที่ลูกตายในหน้าที่” นายละอองกล่าว
ขณะที่นางสุวรรณา ศรีเกิด ภรรยาของ จ.ส .อ.วีระชน เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยและ ครอบครัวของเราด้วยกัน4คนคือบุตรสาวและหลานชายซึ่งสามีนำมาเลี้ยง สามีเป็นคนดีรักครอบครัวโดยถูกส่งไปทำงานที่ 3 จังหวัด3 ปีแล้ว และที่ผ่านมาสามีก็จะโทรศัพท์มาหาลูกตลอด
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 9 มี.ค.ตนได้โทรศัพท์ไปหาสามีซึ่งสามีก็บอกว่ากำลังทำงานเดี๋ยวจะโทรกลับมาหาเอง ตนจึงวางหูและเมื่อช่วงเย็นตนโทรหาก็ไม่รับสาย โดยตนไม่ทราบว่าตอนนั้นสามีเสียชีวิตแล้วเพราะไม่ได้ดูทีวีมาทราบก็มีเพื่อนทหารของสามีจากลพบุรีโทรมาบอกจึงทราบ ตนเสียใจมากเพราะขาดสามีก็ขาดเสาหลักเราไม่รู้จะอยู่กันอย่างไรลำพังครอบครัวรายได้ที่ใช้จ่ายก็มาจากสามีตนทำงานเสริมสวยก็ได้ไม่มากมาย เมื่อสามีเสียชีวิตเช่นนี้เราจะอยู่กันอย่างไร อยากจะให้ทางราชการช่วยเหลือด้วย
บรรยากาศงานศพของ จ.ส.อ.วีระชน ศรีเกิด และ จ.ส.ต.สมเกียรติ จงจิตร 2 ทหารที่ถูกผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิด และสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยศพของนายทหารทั้ง 2 นาย ยังตั้งศพอยู่ที่ศาลาในวัดชะเมา โดยมีเพื่อนทหาร ผู้บังคับบัญชาไปร่วมงาน และให้กำลังใจญาติของทั้ง 2 ทหารที่เสียชีวิตอย่างคับคั่งท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติสนิทและครอบครัวของนายทหารทั้งสองนาย
สำหรับกำหนดการนั้นในเวลา 19.00 น.ของวันนี้ (11 พ.ค.50)นายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จะอัญเชิญพวงมาลาพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมงกุฎราชกุมาร มาวางเคารพศพนายทหารทั้ง 2 นายขณะเดียวกันจะมีกลุ่มโรงเรียน และนักเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ทหารทั้ง 7 นายเคยไปฝึกอบรมเดินทางมาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพในคืนนี้ด้วย
โดยญาตินายทหารทั้งสองนายจะตั้งศพไว้ที่ศาลาวัดชะเมาคืนนี้เป็นสุดท้าย และในวันรุ่งขึ้นกองทัพภาคที่ 4 และญาติจะเคลื่อนย้ายศพกลับบ้านเกิด โดย จ.ส.อ.วีระชน ศรีเกิด จะเคลื่อนศพไปที่วัดสวนขัน หมู่ที่ 1 ต.สวนขัน กิ่งอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช และจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลภายในวัดสวนขัน 3 วัน โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 14 พ.ค.2550 เวลา 14.00 น.ที่ฌาปนสถานวัดสวนขัน
ส่วนศพ จ.ส.ต.สมเกียรติ จงจิตร ทางญาติจะนำศพไปตั้งที่บ้านเกิดบริเวณหลังที่ว่าการอำเภอพิปูน ม.1 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช โดยตั้งบำเพ็ญกุศล 3 วัน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 14 พ.ค.2550 เวลา 14.00 น.เช่นกัน ที่ฌาปณสถาน วัดมังคลาราม อ.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
นายละออง จงจิตอายุ74ปี บิดาของจ.ส.อ.สมเกียรติ เปิดเผยว่า ลูกชายรักอาชีพทหารและเป็นทหารกว่า20ปีแล้วลูกชายมีภรรยาสองคนคนแรกมีลูกด้วยกัน3คนและคน
“ปัจจุบันไม่มีลูก ที่ผ่านมาลูกชายจะกลับมาบ้านบ่อย ภูมิใจที่ลูกชายตายในหน้าที่ที่ผ่านมาลูกชายมักจะพูดคุยให้ฟังตลอดว่าเมื่อออกไปปฎิบัติหน้าที่นั้นจะไม่สวมใส่เสื้อเกราะ โดยมีเหตุผลก็คือหากจะตายก็ขอให้ตายเลยไม่ต้องทรมานพิการ ลูกชายจึงไม่ใส่เสื้อเกราะ ส่วนการเรียกร้องครอบครัวเราไม่ขอเรียกร้องอะไรแล้วแต่ทางการจะช่วย แต่ภูมิใจแล้วที่ลูกตายในหน้าที่” นายละอองกล่าว
ขณะที่นางสุวรรณา ศรีเกิด ภรรยาของ จ.ส .อ.วีระชน เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยและ ครอบครัวของเราด้วยกัน4คนคือบุตรสาวและหลานชายซึ่งสามีนำมาเลี้ยง สามีเป็นคนดีรักครอบครัวโดยถูกส่งไปทำงานที่ 3 จังหวัด3 ปีแล้ว และที่ผ่านมาสามีก็จะโทรศัพท์มาหาลูกตลอด
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 9 มี.ค.ตนได้โทรศัพท์ไปหาสามีซึ่งสามีก็บอกว่ากำลังทำงานเดี๋ยวจะโทรกลับมาหาเอง ตนจึงวางหูและเมื่อช่วงเย็นตนโทรหาก็ไม่รับสาย โดยตนไม่ทราบว่าตอนนั้นสามีเสียชีวิตแล้วเพราะไม่ได้ดูทีวีมาทราบก็มีเพื่อนทหารของสามีจากลพบุรีโทรมาบอกจึงทราบ ตนเสียใจมากเพราะขาดสามีก็ขาดเสาหลักเราไม่รู้จะอยู่กันอย่างไรลำพังครอบครัวรายได้ที่ใช้จ่ายก็มาจากสามีตนทำงานเสริมสวยก็ได้ไม่มากมาย เมื่อสามีเสียชีวิตเช่นนี้เราจะอยู่กันอย่างไร อยากจะให้ทางราชการช่วยเหลือด้วย