นครศรีธรรมราช - “CPAC” เปลี่ยน “ลุก” รถบรรทุกปูนจดลิขสิทธิ์ป้องกันคู่แข่งเลียนแบบทำลูกค้าสับสน เผย การเมือง นโยบายรัฐ เมกะโปรเจกต์ทำตลาดคอนกรีตสำเร็จรูปส่อเค้าวูบวางกลยุทธ์ถึงชุมชนรุกทำตลาดโครงการขนาดเล็ก งานชาวบ้าน อานิสงส์ “จตุคาม” ทำตลาดคอนกรีตผสมเสร็จนครศรีธรรมราชขยายตัว
วันนี้ (27 เม.ย.) นายพัฒนรุจน์ นียาพันธ์ ผู้อำนวยการกิจการซีแพคภาคใต้ เป็นประธานในการเปิดตัวรถโม่ซีแพคลายใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในภาคใต้แห่งแรกที่ฐานโรงงานผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปซีแพค ถนนนครศรี-ปากพนัง ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนักธุรกิจ ผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมา เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
จากนั้น นายพัฒนรุจน์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงลายบนรถโม่นั้น ได้ทำไปควบคู่กับการทำตลาด เนื่องจากที่ผ่านมาคำว่า “ซีแพค” ถูกนำไปใช้ในบริษัทอื่นทำให้ลูกค้าสับสนและเข้าใจผิด จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงลวดลายให้ทันสมัย รวมทั้งมีการจดลิขสิทธิ์เพื่อให้ลูกค้าสามารถแยกแยะได้ด้วยรูปแบบกราฟฟิกที่ทันสมัยภายใต้แนวคิด “ที่สุดแห่งมหานคร” หรือ “Cpac Top Of Tawe” โดยจะมีการจัดโรดโชว์ไปทั่วทุกพื้นที่ให้บริการ
นายพัฒนรุจน์ นียาพันธ์ ผู้อำนวยการกิจการซีแพคภาคใต้ เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้ภาพรวมของการตลาดของซีแพคในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ลดต่ำลงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากปัจจัยทางด้านการเมือง นโยบายรัฐบาลโครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจกต์ที่ชะลอตัวลง
ส่วนในภาคใต้มีปัญหาในหลายประเด็นเช่นกัน ทั้งในเรื่องของความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่าง แต่ด้วยราคายางพาราที่ยังดีอยู่ งานเล็กๆ ยังพอไปได้ในระยะยาวโดยเฉพาะจังหวัดที่มีแนวโน้มดีมากในลักษณะของเมืองท่องเที่ยวเช่นภูเก็ต กระบี่ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น สถาบันการเงินผ่อนคลาย ส่วนในสุราษฎร์ธานีโครงการหลายโครงการมีเสียงบ่นออกมาว่าสถาบันการเงินไม่ค่อยปล่อยออกมาให้ลุกค้าในโครงการอสังหาริมทรัพย์
แต่ในส่วนของนครศรีธรรมราช บูมมากในเรื่องของ “จตุคามรามเทพ” และกว้างขวางไปถึงต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ตัวเลขที่บ่งชี้ พบว่า มีชาวมาเลเซียเข้ามาในประเทศมากขึ้น แต่ไม่ใช่ที่หาดใหญ่กลายเป็นที่ จ.นครศรีธรรมราช สายการบินเต็มทุกเที่ยวแนวโน้มของวันทูโก แอร์เอเชีย จะมาบินที่นครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้นด้วย เหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นผลพวงมาถึงธุรกิจการก่อสร้าง เพราะเม็ดเงินที่สะพัดจะก่อให้เกิดการก่อสร้าง ซ่อมแซม เพิ่มเติม สิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากขึ้น
ผู้อำนวยการกิจการซีแพคภาคใต้ กล่าวต่อว่า เราถือว่าคู่แข่งไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการปรับตัว แต่เราเปลี่ยนแปลงแยกตัวออกมาจากภาพรวมของคอนกรีตผสมเสร็จ ตลาดมีหลายเรื่องที่จะต้องทำ ส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งระบบเราอยู่ที่ประมาณ 40% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ภาคใต้จะสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านบาท ทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทต่อปี
ล่าสุด เราปรับกลยุทธได้ใช้จีพีอาร์เอส มาติดยังรถโม่ เพื่อแต่ละฐานโรงงานจะสามารถติดตามและทำให้ได้คำตอบที่ชัดเจนกับลูกค้า ขณะที่พนักงานขับรถโม่ปูนนั้นเราจะปรับปรุงให้มีความรู้ มีเกียรติและศักดิ์ศรี ปรับเพิ่มเงินเดือนให้มากขึ้น เข้าถึงชุมชนมากขึ้นโดยการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วยการมีโครงการต่างๆ คืนสู่ชุมชน จะสามารถขยายตัวได้ในระยะยาว ด้วยความใส่ใจในแต่ละท้องที่แต่ก็ไม่ประมาทคู่แข่ง เราจะเปลี่ยนแปลงหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับพื้นที่นั้นๆ
“อย่าง จ.นครศรีธรรมราช เราได้ออกแบบคิดค้นผลิตปูนซีเมนต์สำหรับสร้างตึกรังนกโดยเฉพาะไม่มีกลิ่น หรือคอนกรีตป้องกันไอทะเล ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่วิศวกรคอยตอบคำถามทุกคำถามที่เกี่ยวกับคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าของเราหรือไม่ก็ตามพร้อมที่จะให้คำปรึกษา” นายพัฒนรุจน์ กล่าว
วันนี้ (27 เม.ย.) นายพัฒนรุจน์ นียาพันธ์ ผู้อำนวยการกิจการซีแพคภาคใต้ เป็นประธานในการเปิดตัวรถโม่ซีแพคลายใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในภาคใต้แห่งแรกที่ฐานโรงงานผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปซีแพค ถนนนครศรี-ปากพนัง ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนักธุรกิจ ผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมา เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
จากนั้น นายพัฒนรุจน์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงลายบนรถโม่นั้น ได้ทำไปควบคู่กับการทำตลาด เนื่องจากที่ผ่านมาคำว่า “ซีแพค” ถูกนำไปใช้ในบริษัทอื่นทำให้ลูกค้าสับสนและเข้าใจผิด จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงลวดลายให้ทันสมัย รวมทั้งมีการจดลิขสิทธิ์เพื่อให้ลูกค้าสามารถแยกแยะได้ด้วยรูปแบบกราฟฟิกที่ทันสมัยภายใต้แนวคิด “ที่สุดแห่งมหานคร” หรือ “Cpac Top Of Tawe” โดยจะมีการจัดโรดโชว์ไปทั่วทุกพื้นที่ให้บริการ
นายพัฒนรุจน์ นียาพันธ์ ผู้อำนวยการกิจการซีแพคภาคใต้ เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้ภาพรวมของการตลาดของซีแพคในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ลดต่ำลงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากปัจจัยทางด้านการเมือง นโยบายรัฐบาลโครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจกต์ที่ชะลอตัวลง
ส่วนในภาคใต้มีปัญหาในหลายประเด็นเช่นกัน ทั้งในเรื่องของความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่าง แต่ด้วยราคายางพาราที่ยังดีอยู่ งานเล็กๆ ยังพอไปได้ในระยะยาวโดยเฉพาะจังหวัดที่มีแนวโน้มดีมากในลักษณะของเมืองท่องเที่ยวเช่นภูเก็ต กระบี่ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น สถาบันการเงินผ่อนคลาย ส่วนในสุราษฎร์ธานีโครงการหลายโครงการมีเสียงบ่นออกมาว่าสถาบันการเงินไม่ค่อยปล่อยออกมาให้ลุกค้าในโครงการอสังหาริมทรัพย์
แต่ในส่วนของนครศรีธรรมราช บูมมากในเรื่องของ “จตุคามรามเทพ” และกว้างขวางไปถึงต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ตัวเลขที่บ่งชี้ พบว่า มีชาวมาเลเซียเข้ามาในประเทศมากขึ้น แต่ไม่ใช่ที่หาดใหญ่กลายเป็นที่ จ.นครศรีธรรมราช สายการบินเต็มทุกเที่ยวแนวโน้มของวันทูโก แอร์เอเชีย จะมาบินที่นครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้นด้วย เหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นผลพวงมาถึงธุรกิจการก่อสร้าง เพราะเม็ดเงินที่สะพัดจะก่อให้เกิดการก่อสร้าง ซ่อมแซม เพิ่มเติม สิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากขึ้น
ผู้อำนวยการกิจการซีแพคภาคใต้ กล่าวต่อว่า เราถือว่าคู่แข่งไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการปรับตัว แต่เราเปลี่ยนแปลงแยกตัวออกมาจากภาพรวมของคอนกรีตผสมเสร็จ ตลาดมีหลายเรื่องที่จะต้องทำ ส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งระบบเราอยู่ที่ประมาณ 40% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ภาคใต้จะสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านบาท ทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทต่อปี
ล่าสุด เราปรับกลยุทธได้ใช้จีพีอาร์เอส มาติดยังรถโม่ เพื่อแต่ละฐานโรงงานจะสามารถติดตามและทำให้ได้คำตอบที่ชัดเจนกับลูกค้า ขณะที่พนักงานขับรถโม่ปูนนั้นเราจะปรับปรุงให้มีความรู้ มีเกียรติและศักดิ์ศรี ปรับเพิ่มเงินเดือนให้มากขึ้น เข้าถึงชุมชนมากขึ้นโดยการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วยการมีโครงการต่างๆ คืนสู่ชุมชน จะสามารถขยายตัวได้ในระยะยาว ด้วยความใส่ใจในแต่ละท้องที่แต่ก็ไม่ประมาทคู่แข่ง เราจะเปลี่ยนแปลงหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับพื้นที่นั้นๆ
“อย่าง จ.นครศรีธรรมราช เราได้ออกแบบคิดค้นผลิตปูนซีเมนต์สำหรับสร้างตึกรังนกโดยเฉพาะไม่มีกลิ่น หรือคอนกรีตป้องกันไอทะเล ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่วิศวกรคอยตอบคำถามทุกคำถามที่เกี่ยวกับคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าของเราหรือไม่ก็ตามพร้อมที่จะให้คำปรึกษา” นายพัฒนรุจน์ กล่าว