ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ภูเก็ตได้ 103 ล้านบาท เวนคืนที่ดินสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะแล้ว ส่วนงบฯก่อสร้าง 450 ล้านบาทคาดได้หลังเวนคืนที่ดินแล้วเสร็จ ขณะที่การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำคืบหน้ากว่า 40% คาดเสร็จภายในปี 2551 แน่นอน หลังสองอ่างสร้างเสร็จภูเก็ตไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำไปถึง 10 ปี
นายพรเทพ บุณยะผลึก หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการชลประทานจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ที่ ต.ศรีสุนทร ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของภูเก็ตในอนาคต ว่า ภายหลังจากที่กรมชลประทานได้รับงบประมาณในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จำนวน 500 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2549 กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำมาโดยตลอด จนถึงขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 40% ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2551 ตามแผนที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน
อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำนี้ ก่อสร้างขึ้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของภูเก็ตในช่วงหน้าแล้ง ที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำในทุกปี ซึ่งจะรองรับการใช้น้ำในพื้นที่ตอนบนของเกาะภูเก็ตในเขตอำเภอถลาง และหากน้ำเหลือใช้ก็สามารถที่จะส่งมาชัปพอร์ตในพื้นที่ตอนล่างของเกาะด้วย เนื่องจากอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำสามารถบรรจุน้ำได้ 7.2 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)
นายพรเทพ กล่าวอีกว่า จากการที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำสามารถบรรจุน้ำได้ 7.2 ล้านลบ.ม. แต่น้ำจากธรรมชาติสามารถเข้าอ่างได้เพียง 5.4 ล้านลบ.ม.เท่านั้น จำเป็นที่จะต้องสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในบริเวณแหล่งน้ำโคกโตนอดซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงมาก เข้าอ่างให้เต็ม 7.2 ล้านลบ.ม. โครงการชลประทานจังหวัดภูเก็ตจึงได้เสนอของบประมาณที่จะก่อสร้างระบบสูบน้ำเติมให้เต็มอ่าง
ขณะนี้ได้มีการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบโครงการแล้วเสร็จ พร้อมทั้งเสนอของบประมาณผ่านทางจังหวัดภูเก็ต จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวทางจังหวัดภูเก็ตเห็นชอบแล้ว เพราะเป็นโครงการที่จำเป็นจริงๆ ในการที่จะกักเก็บน้ำให้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง คาดว่าโครงการดังกล่าวจะของบประมาณมาก่อสร้างประมาณปี 2552 ภายหลังจากที่สร้างอ่างเก็บน้ำแล้วเสร็จ
นายพรเทพ ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ว่า ขณะนี้ทางโครงการชลประทานภูเก็ตได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในปีงบประมาณ 2550 จำนวน 103 ล้านบาท เพื่อเวนคืนที่ดินที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ จากงบประมาณทั้งหมด 300 ล้านบาท และต้องเวนคืนที่ดินให้แล้วเสร็จภายในปี 2551-2552
ส่วนงบประมาณการก่อสร้างจำนวน 450 ล้านบาท จังหวัดภูเก็ตได้ของบประมาณไปแล้วในปี 2549-2550 แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ทั้งนี้เนื่องจากยังไม่ได้เวนคืนที่ดินทั้งหมด ซึ่งคาดว่าภายหลังจากที่สิ้นสุดขั้นตอนการเวนคืนที่ดินแล้ว รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการก่อสร้างอย่างแน่นอน เพราะอ่างเก็บน้ำคลองกะทะถือว่าจำเป็นจะต้องก่อสร้างในการรองรับการใช้น้ำในพื้นที่ตอนล่างของเกาะภูเก็ต โดยสามารถบรรจุน้ำได้ 5.7 ล้านลบ.ม.
"เมื่อการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้งบางเหนียวดำและคลองกะทะแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับการใช้น้ำในภูเก็ตได้ในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นก็จะมีโครงการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำระยะยาวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการนำน้ำจากเขื่อนรัชชประภาเข้ามาในพื้นที่ แต่ในระยะ 10 ปี ภูเก็ตไม่ขาดแคลนน้ำแน่นอนเมื่อทั้ง 2 อ่างก่อสร้างแล้วเสร็จ" นายพรเทพ กล่าวและว่า
สำหรับอ่างเก็บน้ำบางวาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญที่สุดในการผลิตน้ำประปาของภูเก็ต ขณะนี้มีน้ำอยู่ทั้งหมด 2.56 ล้านลบ.ม. หากฝนไม่ตกลงมาน้ำที่มีอยู่จะสามารถรองรับได้จนถึงเดือนมิถุนายน 2550 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีฝนตกในภูเก็ตเกือบทุกวัน ซึ่งทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ภูเก็ตจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน
นายพรเทพ บุณยะผลึก หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการชลประทานจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ที่ ต.ศรีสุนทร ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของภูเก็ตในอนาคต ว่า ภายหลังจากที่กรมชลประทานได้รับงบประมาณในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จำนวน 500 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2549 กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำมาโดยตลอด จนถึงขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 40% ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2551 ตามแผนที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน
อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำนี้ ก่อสร้างขึ้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของภูเก็ตในช่วงหน้าแล้ง ที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำในทุกปี ซึ่งจะรองรับการใช้น้ำในพื้นที่ตอนบนของเกาะภูเก็ตในเขตอำเภอถลาง และหากน้ำเหลือใช้ก็สามารถที่จะส่งมาชัปพอร์ตในพื้นที่ตอนล่างของเกาะด้วย เนื่องจากอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำสามารถบรรจุน้ำได้ 7.2 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)
นายพรเทพ กล่าวอีกว่า จากการที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำสามารถบรรจุน้ำได้ 7.2 ล้านลบ.ม. แต่น้ำจากธรรมชาติสามารถเข้าอ่างได้เพียง 5.4 ล้านลบ.ม.เท่านั้น จำเป็นที่จะต้องสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในบริเวณแหล่งน้ำโคกโตนอดซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงมาก เข้าอ่างให้เต็ม 7.2 ล้านลบ.ม. โครงการชลประทานจังหวัดภูเก็ตจึงได้เสนอของบประมาณที่จะก่อสร้างระบบสูบน้ำเติมให้เต็มอ่าง
ขณะนี้ได้มีการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบโครงการแล้วเสร็จ พร้อมทั้งเสนอของบประมาณผ่านทางจังหวัดภูเก็ต จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวทางจังหวัดภูเก็ตเห็นชอบแล้ว เพราะเป็นโครงการที่จำเป็นจริงๆ ในการที่จะกักเก็บน้ำให้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง คาดว่าโครงการดังกล่าวจะของบประมาณมาก่อสร้างประมาณปี 2552 ภายหลังจากที่สร้างอ่างเก็บน้ำแล้วเสร็จ
นายพรเทพ ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ว่า ขณะนี้ทางโครงการชลประทานภูเก็ตได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในปีงบประมาณ 2550 จำนวน 103 ล้านบาท เพื่อเวนคืนที่ดินที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ จากงบประมาณทั้งหมด 300 ล้านบาท และต้องเวนคืนที่ดินให้แล้วเสร็จภายในปี 2551-2552
ส่วนงบประมาณการก่อสร้างจำนวน 450 ล้านบาท จังหวัดภูเก็ตได้ของบประมาณไปแล้วในปี 2549-2550 แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ทั้งนี้เนื่องจากยังไม่ได้เวนคืนที่ดินทั้งหมด ซึ่งคาดว่าภายหลังจากที่สิ้นสุดขั้นตอนการเวนคืนที่ดินแล้ว รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการก่อสร้างอย่างแน่นอน เพราะอ่างเก็บน้ำคลองกะทะถือว่าจำเป็นจะต้องก่อสร้างในการรองรับการใช้น้ำในพื้นที่ตอนล่างของเกาะภูเก็ต โดยสามารถบรรจุน้ำได้ 5.7 ล้านลบ.ม.
"เมื่อการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้งบางเหนียวดำและคลองกะทะแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับการใช้น้ำในภูเก็ตได้ในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นก็จะมีโครงการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำระยะยาวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการนำน้ำจากเขื่อนรัชชประภาเข้ามาในพื้นที่ แต่ในระยะ 10 ปี ภูเก็ตไม่ขาดแคลนน้ำแน่นอนเมื่อทั้ง 2 อ่างก่อสร้างแล้วเสร็จ" นายพรเทพ กล่าวและว่า
สำหรับอ่างเก็บน้ำบางวาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญที่สุดในการผลิตน้ำประปาของภูเก็ต ขณะนี้มีน้ำอยู่ทั้งหมด 2.56 ล้านลบ.ม. หากฝนไม่ตกลงมาน้ำที่มีอยู่จะสามารถรองรับได้จนถึงเดือนมิถุนายน 2550 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีฝนตกในภูเก็ตเกือบทุกวัน ซึ่งทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ภูเก็ตจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน