ชุมพร - ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดชุมพร วิ่งโร่แจ้งความตำรวจหลังถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานของตัวเองเข้าเรียน โดยอ้างสามารถว่าฝากเด็กเข้าเรียนชั้น ม.1
พ.ต.ท.สิทธิพร พุ่มพะเนิน สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งความจาก นายธรรมนิจ ชอุ่มผล ผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร โดยให้ดำเนินคดีกับบุคคลแอบอ้างว่าฝากนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนศรียาภัย ได้ ทำให้โรงเรียนได้รับความเสียหาย ขอให้ช่วยจัดการดำเนินคดีด้วย เพราะพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับโรงเรียนศรียาภัย และบุคลากรในโรงเรียนศรียาภัยอยู่เป็นประจำทุกปี ทำให้สังคมเข้าผิดต่อโรงเรียนมาโดยตลอด
นายธรรมนิจ ให้การว่า เมื่อเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) นายเชน พยุหกฤษ์ อายุ 50 ปี คนขับรถของสำนักงานประมง จ.ชุมพร และ นางสมใจ เมฆพะโยม อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ต.ปากจั่น อ.ปากจั่น จ.ระนอง ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่มาสมัครสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนศรียาภัย ระดับชั้น ม.1 ซึ่งกำลังจะสอบคัดเลือกในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ได้เข้ามาสอบถามว่า บุคคลทั้ง 2 ได้บริจาคเงิน 20,000 บาท ให้กับทางโรงเรียนแล้ว โดยผ่าน นายศิริ หรือ เล็ก ครึกครื้น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234/21 ถ.ประชาอุทิศ อ.เมือง จ.ชุมพร อาชีพค้าขาย ว่า หากบริจาคเงินตามจำนวนดังกล่าวแล้วสามารถฝากนักเรียนให้เข้าเรียนในชั้น ม.1 ของโรงเรียนศรียาภัยได้
จึงไม่ทราบว่า ทางโรงเรียนได้รับเงินหรือยัง เพราะเงินที่มาบริจาคนั้นได้ไปกู้ยืมมาจากบุคคลอื่นมาให้กับโรงเรียน เพื่อให้ลูกเข้าเรียนต่อได้ หลังจากตนทราบข้อเท็จจริงจากบุคคลทั้ง 2 จึงบอกกับบุคคลทั้งสอง ว่า การรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายการรับบริจาค หรือเรียกเก็บเงินใดๆ จากผู้ปกครองทั้งสิ้น คาดว่า น่าจะเป็นแก๊งต้มตุ๋นแน่นอน
หลังรับแจ้งความ พ.ต.ท.สุทธิพร พุ่มพะเนิน สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองชุมพร ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเชิญตัว นายศิริ หรือเล็ก ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมาสอบปากคำ โดยนายศิริ หรือเล็ก ยอมรับว่า ได้รับเงินมาจากบุคคลทั้ง 2 จริง จำนวน 20,000 บาท และได้นำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปบริจาคมอบให้กับครูคนหนึ่งในโรงเรียน ซึ่งเป็นความลับตนไม่สามารถบอกชื่อได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากผู้ปกครองทั้ง 2 ต้องการจะขอเงินคืนตนก็พร้อมที่จะจ่ายคืนให้
จากนั้น พ.ต.ท.สิทธิพร จึงได้ให้ นายศิริ กลับไปเอาเงินมาคืนให้กับบุคคลทั้ง 2 จำนวน 20,000 บาท โดยเจ้าทุกข์ทั้ง 2 คนก็ยินยอมที่จะไม่เอาความกับนายศิริ ด้วยซึ่ง พ.ต.ท.สิทธิพร เห็นว่า เป็นคดีฉ้อโกง ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายสามารถยอมความกันได้ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันกลับบ้านได้
ด้าน นายธรรมนิจ ชอุ่มผล ผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย กล่าวว่า ตนได้สอบถามรายละเอียดชื่อครูที่นายศิริ หรือเล็ก อ้างว่า ได้รับเงินบริจาคไว้ ปรากฏว่า ไม่สามารถบอกชื่อได้ ซึ่งตนคิดว่าเป็นข้ออ้างเท่านั้น และเหตุการณ์ลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทำให้โรงเรียนเสียชื่อมากและปีนี้เพิ่งมาเจอตัวจริงที่ชอบไปแอบอ้างว่าสามารถช่วยฝากนักเรียนได้ จึงอยากให้สื่อมวลชนให้ช่วยประโคมข่าวให้ด้วย เนื่องจากอาจจะมีชาวบ้านที่ถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวอีกมาก
พ.ต.ท.สิทธิพร พุ่มพะเนิน สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งความจาก นายธรรมนิจ ชอุ่มผล ผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร โดยให้ดำเนินคดีกับบุคคลแอบอ้างว่าฝากนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนศรียาภัย ได้ ทำให้โรงเรียนได้รับความเสียหาย ขอให้ช่วยจัดการดำเนินคดีด้วย เพราะพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับโรงเรียนศรียาภัย และบุคลากรในโรงเรียนศรียาภัยอยู่เป็นประจำทุกปี ทำให้สังคมเข้าผิดต่อโรงเรียนมาโดยตลอด
นายธรรมนิจ ให้การว่า เมื่อเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) นายเชน พยุหกฤษ์ อายุ 50 ปี คนขับรถของสำนักงานประมง จ.ชุมพร และ นางสมใจ เมฆพะโยม อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ต.ปากจั่น อ.ปากจั่น จ.ระนอง ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่มาสมัครสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนศรียาภัย ระดับชั้น ม.1 ซึ่งกำลังจะสอบคัดเลือกในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ได้เข้ามาสอบถามว่า บุคคลทั้ง 2 ได้บริจาคเงิน 20,000 บาท ให้กับทางโรงเรียนแล้ว โดยผ่าน นายศิริ หรือ เล็ก ครึกครื้น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234/21 ถ.ประชาอุทิศ อ.เมือง จ.ชุมพร อาชีพค้าขาย ว่า หากบริจาคเงินตามจำนวนดังกล่าวแล้วสามารถฝากนักเรียนให้เข้าเรียนในชั้น ม.1 ของโรงเรียนศรียาภัยได้
จึงไม่ทราบว่า ทางโรงเรียนได้รับเงินหรือยัง เพราะเงินที่มาบริจาคนั้นได้ไปกู้ยืมมาจากบุคคลอื่นมาให้กับโรงเรียน เพื่อให้ลูกเข้าเรียนต่อได้ หลังจากตนทราบข้อเท็จจริงจากบุคคลทั้ง 2 จึงบอกกับบุคคลทั้งสอง ว่า การรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายการรับบริจาค หรือเรียกเก็บเงินใดๆ จากผู้ปกครองทั้งสิ้น คาดว่า น่าจะเป็นแก๊งต้มตุ๋นแน่นอน
หลังรับแจ้งความ พ.ต.ท.สุทธิพร พุ่มพะเนิน สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองชุมพร ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเชิญตัว นายศิริ หรือเล็ก ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมาสอบปากคำ โดยนายศิริ หรือเล็ก ยอมรับว่า ได้รับเงินมาจากบุคคลทั้ง 2 จริง จำนวน 20,000 บาท และได้นำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปบริจาคมอบให้กับครูคนหนึ่งในโรงเรียน ซึ่งเป็นความลับตนไม่สามารถบอกชื่อได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากผู้ปกครองทั้ง 2 ต้องการจะขอเงินคืนตนก็พร้อมที่จะจ่ายคืนให้
จากนั้น พ.ต.ท.สิทธิพร จึงได้ให้ นายศิริ กลับไปเอาเงินมาคืนให้กับบุคคลทั้ง 2 จำนวน 20,000 บาท โดยเจ้าทุกข์ทั้ง 2 คนก็ยินยอมที่จะไม่เอาความกับนายศิริ ด้วยซึ่ง พ.ต.ท.สิทธิพร เห็นว่า เป็นคดีฉ้อโกง ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายสามารถยอมความกันได้ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันกลับบ้านได้
ด้าน นายธรรมนิจ ชอุ่มผล ผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย กล่าวว่า ตนได้สอบถามรายละเอียดชื่อครูที่นายศิริ หรือเล็ก อ้างว่า ได้รับเงินบริจาคไว้ ปรากฏว่า ไม่สามารถบอกชื่อได้ ซึ่งตนคิดว่าเป็นข้ออ้างเท่านั้น และเหตุการณ์ลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทำให้โรงเรียนเสียชื่อมากและปีนี้เพิ่งมาเจอตัวจริงที่ชอบไปแอบอ้างว่าสามารถช่วยฝากนักเรียนได้ จึงอยากให้สื่อมวลชนให้ช่วยประโคมข่าวให้ด้วย เนื่องจากอาจจะมีชาวบ้านที่ถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวอีกมาก