ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เผยเจ้าของปอเนาะบำรุงศาสน์วิทยา ไฟเขียวให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบเหตุระเบิด และลอบยิงภายในโรงเรียนได้แล้ว ด้านเจ้าหน้าที่เคลื่อนกำลังกว่า 100 นาย เข้าสู่พื้นที่แล้ว เชื่อสรุปผลการตรวจสอบสาเหตุที่ดำมืดมากว่า 2 วันได้ภายในวันนี้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ว่า ช่วงเวลา 16.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดวิทยาการตำรวจ ได้สนธิกำลังกับ ตชด.และหน่วยชุดเฉพาะกิจในพื้นที่ รวมประมาณ 100 นาย ได้เดินทางจากที่ว่าการ อ.สะบ้าย้อย เข้าสู่พื้นที่บ้านควนหรัน หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในคนร้ายลอบวางระเบิด และซุ่มยิงเด็กนักเรียนปอเนาะ โรงเรียนบำรุงศาสน์วิทยา เป็นเหตุให้นักเรียนเสียชีวิตไป 2 คน และบาดเจ็บอีก 8 คน อีกทั้งยังเผาโรงเรียนบ้านควนหรัน ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันเสียหายไป 2 หลัง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยมีรายงานข่าวว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และให้สามารถสรุปผลของเหตุการณ์ให้ได้ทั้งหมดภายในวันนี้ เพื่อให้ความกระจ่างแก่ประชาชนทุกฝ่าย โดยขณะนี้ นายดลเล๊าะ หะยีเจ๊ะเล๊าะ เจ้าของโรงเรียนปอเนาะบำรุงศาสน์ก็ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้แล้ว ภายหลังจากเจรจากันมาตั้งแต่ช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยังขัดข้องน่าจะอยู่ที่ชาวบ้านที่เป็นหญิงและเด็กที่มาชุมนุมกันมากกว่า
โดยหลังเกิดเหตุในวันที่ 18 มี.ค.ชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวกันภายในหมู่บ้าน เพราะเข้าใจว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และไม่ยอมให้มีการนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายสามารถเจรจากันได้จนเหตุการณ์สงบลงในช่วงเย็น หลังจากที่ได้รวมตัวกันนานกว่า 18 ชม. โดยเบื้องต้นชาวบ้านยอมให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับไปตรวจสอบ และเก็บหลักฐานพื้นที่เกิดเหตุได้ในช่วงเช้าของวันนี้ (19 มี.ค.)
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น.ของวันนี้ (19) นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอสะบ้าย้อย พร้อมด้วย นายวิชระ พันดุสะ ปลัดอาวุโส อ.สะบ้าย้อย นายหามะ ดอเลาะ สมาชิกสภาจังหวัด (ส.อบจ.) สงขลา เขต อ.สะบ้าย้อย นายรีเป็ง มุนิมะ กำนัน ต.เปียน นายเจ๊ะบาเหม ทุยเลาะ กำนัน ต.ทุ่งพอ นายกอยา อิยูโซ๊ะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เปียน พร้อมนายมะแซ มามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา นายอาสัน สะแลมัน กรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา เขต อ.สะบ้าย้อย
รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง และกำลังชุด ฉก.ในพื้นที่ กว่า 100 นาย ได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่บ้านควนหรัน หมู่ 2 ต.เปียนอีกครั้ง เพื่อดูสภาพพื้นที่เกิดเหตุ และให้การช่วยเหลือเยียวยากับครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งเจรจาในเรื่องของการที่จะให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมี นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งได้เดินทางมา ติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเองเป็นวันที่สอง คอยประสานงานและติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ประกอบด้วย พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ธัมมศักดิ์ วาสะสิริ ผกก.สภ.อ.สะบ้าย้อย และกำลังเจ้าหน้าที่วิทยาการ จ.สงขลา และกำลังตำรวจอีกส่วนหนึ่งเตรียมพร้อมอยู่ที่ สภ.อ.สะบ้าย้อย เพื่อรอเข้าไปสมทบ
แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางเข้าไปยังพื้นที่บ้านควนหรัน ได้มีกลุ่มสตรีชาวมุสลิมและเด็กกว่า 200 คน คลุมฮิญาบปกปิดใบหน้ามิดชิด ได้รวมตัวกันที่บริเวณทางแยกปากทางเข้าโรงเรียนบำรุงศาสน์วิทยา ห่างจากโรงเรียนราว 400 เมตร เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ เพราะส่วนใหญ่ยังไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเพราะบางส่วนยังเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และยังมีอารมณ์อยู่
รวมทั้งการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนบางแขนง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประเด็นที่บอกว่า ปอเนาะดังกล่าวเป็นสถานที่ซ่องสุมและผลิตอาวุธ รวมทั้งเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของผู้ประสบเหตุเอง ซึ่งคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจากนักเรียนทั้งหมดถูกซุ่มโจมตี พร้อมกับมีการโห่ร้อง และชูป้ายเขียนข้อความโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ และขับไล่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนให้ออกไปจากพื้นที่
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายและรุนแรงมากกว่านี้ เนื่องจากได้มีชาวบ้านเริ่มทยอย เดินทางมาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางกำลังเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ รวมทั้งสื่อมวลชนจึงต้อง ถอนออกจากพื้นที่ เพื่อให้เหตุการณ์สงบลงและความสบายใจของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านได้ยอมให้ นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอสะบ้าย้อย นายวิชระ พันดุสะ ปลัดอาวุโส นายหามะ ดอเลาะ ส.อบจ.เขต อ.สะบ้าย้อย นายรีเป็ง มุนิมะ กำนัน ต.เปียน นายเจ๊ะบาเหม ทุยเลาะ กำนัน ต.ทุ่งพอ นายกอยา อิยูโซ๊ะ นายก อบต.เปียน พร้อมนายมะแซ มามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา นายอาสัน สะแลมัน กรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา เขต อ.สะบ้าย้อย เข้าไปยังโรงเรียนบำรุงศาสน์วิทยาได้
โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เจรจากับ นายดลเล๊าะ หะยีเจ๊ะเลาะ เจ้าของโรงเรียนและญาติๆ ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่โดยรอบพื้นที่ยังคงมีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคอยสังเกตการณ์เพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอสะบ้าย้อย เปิดเผยภายหลังเข้าไปเจรจา ว่า เรื่องที่เข้าไปเจรจากับเจ้าของโรงเรียน ญาติของผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้นคือ การช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดและลอบยิงเด็กนักเรียนปอเนาะ เพื่อความโปร่งใสและความชัดเจนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ใช้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่
นายปรีชา กล่าวว่า ท่าทีของการเจรจาเจ้าของโรงเรียนและครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้ความร่วมมือ และไม่มีท่าทีโกรธแค้นแต่อย่างใด โดยในส่วนของประเด็นการช่วยเหลือเยียวยานั้น ชาวบ้านพร้อมรับการช่วยเหลือ แต่ในประเด็นเรื่องให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่ขอเข้าไปจำนวน 12 คน แต่ชาวบ้านต้องการให้เข้าไปได้แค่ 6 คน และต้องปลอดจากคนในเครื่องแบบ อีกทั้งต้องไม่มีการติดอาวุธ
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน ได้มีกลุ่มชาวไทยพุทธใน อ.สะบ้าย้อย ซึ่งเป็นชาวบ้าน จาก 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.เขาแดง ต.คูหา และ ต.ทุ่งพอ พร้อมด้วยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นกว่า 500 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่ว่าการ อ.สะบ้าย้อย เพื่อยื่นแถลงการณ์ในนามของราษฎรชาวไทยพุทธ เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือและแก้ปัญหา 3 ข้อ ประกอบด้วย
1.ให้รัฐบาลมีความเด็ดขาดกับผู้ไม่หวังดีอย่างจริงจัง 2.ให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยากับผู้ถูกกระทำให้เท่าเทียมกันและชัดเจน และ 3.ให้รัฐบาลหาแนวทางและวิธีการในการรักษาความสงบความปลอดภัยในการประกอบอาชีพ โดยนอกเหนือจากยื่นแถลงการณ์ผ่านอำเภอสะบ้าย้อยแล้ว ชาวบ้านจะยื่นถึง นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการสงขลา และ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ต่อไป
ทั้งนี้ เหตุที่ชาวไทยพุทธในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย รวมตัวกันในครั้งนี้ ชาวบ้านบอกว่าเป็นผลมาจากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอยยิงชาวบ้านเสียชีวิตไป 3 คน และบาดเจ็บอีก 3 คน แต่ปรากฏว่า ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตไม่ได้รับการดูแล หรือช่วยเหลือจากภาครัฐเท่าที่ควร
นายสมชาย ช่วยบำรุง สมาชิก อบต.คูหา หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวไทยพุทธในพื้นที่ไม่สามารถทนกับสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นได้อีกแล้ว หากว่า ภาครัฐไม่สามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้ ทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ รวมทั้งชาวบ้านจะร่วมกันหารือเพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหากันเอง ส่วนจะใช้วิธีใดนั้นต้องรอดู กันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
“เพราะขณะนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความแตกแยกระหว่างชาวไทยพุทธ และมุสลิม และต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงทั้ง 2 ฝ่าย แต่การรวมตัวในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะออกมาสร้างเงื่อนไข หรือกดดันฝ่ายใด โดยเฉพาะกรณีชาวบ้านใน ต.เปียน ที่รวมตัวกันภายในหมู่บ้าน ทั้งนี้ เพื่อความบริสุทธิ์ใจในระหว่างการรวมตัวชาวบ้านได้นำอาวุธปืนที่ใช้ป้องกันตัวจำนวนหลายสิบกระบอกมาวางรวมกันไว้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย” นายสมชาย กล่าว