นครศรีธรรมราช - “หมึก ชุมพร” มือปืน 80 ศพ แฉ ถูกทีมสังหารล่าตัดตอน สารภาพคดีฆ่า “โกน้อย” นายกเล็กท่าศาลารับค่าหัวแค่ 6 หมื่น
วันนี้ (27 ก.พ.) เวลา 14.30 น. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ ฤทธิ์แผลง ผกก.สภ.อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรเพื่อทำการสอบสวน นายชูศักดิ์ นุ่มลืมคิด อายุ 38 ปี หรือ “เสือหมึก” เจ้าของฉายา “หมึก ชุมพร” หรือ “หมึก 80 ศพ” บ้านเดิมอยู่ ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อหลายวันก่อน โดยมีหมายจับและคดีที่ก่อไว้ต้องดำเนินการยาวเป็นหางว่าว โดยหนึ่งในหลายสิบคดีนั้น คือ การก่อเหตุยิง นายไพรัช จินดาฤกษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าศาลา ขณะร่วมงานศพที่บ้านริมถนนสายศาลาน้ำในเขตเทศบาลเสียชีวิตต่อหน้าผู้คนร่วมงานนับร้อย
โดยสาเหตุมาจากความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น โดยการลงมือฆ่าครั้งนี้เสือหมึก เป็นคนลั่นไกยิงนายไพรัตน์หรือนายกน้อย และนายประไพ หงส์ทอง หรือเสือยิบ มือปืนยิงคุ้มกัน จากนั้นทั้งหมดได้หลบออกไป ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายสมพงษ์ สุวรรณมณี คนขับรถยนต์ปิกอัพพาเสือหมึกหลบหนี และนายวุฒิศักดิ์ ชูขาว ผู้ชี้เป้าให้เสือหมึก ควบคุมตัวไปดำเนินคดีการจ้างวานฆ่าครั้งนี้ แท้ที่จริงแล้วมีความประสงค์จะฆ่านายสมพงษ์ หรือกำนันมืด กำนันตำบลท่าศาลา
แต่ขณะเสือหมึก เข้าไปไม่พบตัวกำนันมืดจึงได้ฆ่า นายไพรัตน์ คนสนิทของกำนัน และเตรียมที่จะย้อนกลับมาก่อเหตุยิงกำนันมืดอีกครั้ง แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวนายสมพงศ์ สุวรรณมณี ไว้ได้รวมทั้งนายวุฒิศักดิ์ หรือ นิว ชูขาว ผู้ชี้เป้าในขณะที่นายชูศักดิ์ และนายประไพสองคู่หูสามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างหวุดหวิดเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางปี 2548 และผู้ที่ร่วมขบวนการรวม 11 คนนำ โดย ส.อบจ.คนดังผู้กว้างขวางได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไว้ได้และอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล ซึ่งยังคงเหลือเพียงนายประไพ หงษ์ทอง หรือเสือยิบที่ยังหลบหนีอยู่อีกเพียง 1 คนเท่านั้น
พ.ต.อ.วิศิษฐ์ ฤทธิ์แผลง ผกก.สภ.อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้เดินทางไปสอบสวนนายชูศักดิ์ หรือเสือหมึก นุ่มลืมคิด ซึ่งถูกควบคุมตัวในระหว่างการสอบสวนอยู่ที่ บก.ภ.ชุมพร โดยภายหลังจากการสอบสวน พ.ต.อ.วิศิษฐ์ เปิดเผยว่าผลจากการสอบสวนนั้นนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีมาก ซึ่งกระบวนการสอบนั้นได้มีทนายขอนายชูศักดิ์ร่วมรับฟังอยู่ตลอดเวลา
“รายละเอียดเท่าที่สามารถเปิดเผยได้นั้น สรุปได้ว่าในคดีฆ่า นายไพรัช จินดาฤกษ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา นายชูศักดิ์ ได้รับสารภาพว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายไพรัช ร่วมกับทีมงานจริง แต่ขอสงวนที่ไม่เปิดเผยผู้จ้างวานเนื่องจากเกรงว่าครอบครัวจะได้รับอันตราย ส่วนวงเงินที่ได้นั้นไม่ทราบว่าใครเป็นคนโอนเงินมาให้ผ่านบัญชีธนาคาร ได้เงินรวม 60,000 บาทเท่านั้น ไม่ได้ถึงหลักแสนบาทตามที่เป็นข่าวและเส้นทางการเงินนั้นเรากำลังติดตามเพื่อทำสำนวนเพิ่มเติมส่งให้กับพนักงานอัยการนำรวมกับสำนวนที่ถูกส่งไปก่อนแล้ว”
พ.ต.อ.วิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่เขายอมให้ตำรวจจับนั้น เท่าที่ได้พูดคุบทราบว่าเขากำลังถูกล่าสังหารเพื่อตัดตอนไม่ให้ถึงตัวผู้จ้างวาน และในคดีที่ยิงนายไพรัช นายชูศักดิ์เพียงแค่สารภาพแต่ขอไม่นำชี้ที่เกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย และเขายังบอกอีกว่าได้รับงานจ้างสังหารมาแล้วประมาณ 80 ศพ
ส่วนกระบวนการในการดำเนินคดีนั้นจะต้องเข้าคิวกับหลายจังหวัดที่นายชูศักดิ์ได้ก่อคดีไว้เช่นที่ชุมพร พังงา พัทลุง ประจวบคีรีขันธ์ และในอีกหลายจังหวัดรวมถึงนครศรีธรรมราช ซึ่งจะต้องพิจารณาไปตามเขตอำนาจศาลเป็นรายๆไปต่างกรรมต่างวาระกันคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 5 ปี
วันนี้ (27 ก.พ.) เวลา 14.30 น. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ ฤทธิ์แผลง ผกก.สภ.อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรเพื่อทำการสอบสวน นายชูศักดิ์ นุ่มลืมคิด อายุ 38 ปี หรือ “เสือหมึก” เจ้าของฉายา “หมึก ชุมพร” หรือ “หมึก 80 ศพ” บ้านเดิมอยู่ ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อหลายวันก่อน โดยมีหมายจับและคดีที่ก่อไว้ต้องดำเนินการยาวเป็นหางว่าว โดยหนึ่งในหลายสิบคดีนั้น คือ การก่อเหตุยิง นายไพรัช จินดาฤกษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าศาลา ขณะร่วมงานศพที่บ้านริมถนนสายศาลาน้ำในเขตเทศบาลเสียชีวิตต่อหน้าผู้คนร่วมงานนับร้อย
โดยสาเหตุมาจากความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น โดยการลงมือฆ่าครั้งนี้เสือหมึก เป็นคนลั่นไกยิงนายไพรัตน์หรือนายกน้อย และนายประไพ หงส์ทอง หรือเสือยิบ มือปืนยิงคุ้มกัน จากนั้นทั้งหมดได้หลบออกไป ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายสมพงษ์ สุวรรณมณี คนขับรถยนต์ปิกอัพพาเสือหมึกหลบหนี และนายวุฒิศักดิ์ ชูขาว ผู้ชี้เป้าให้เสือหมึก ควบคุมตัวไปดำเนินคดีการจ้างวานฆ่าครั้งนี้ แท้ที่จริงแล้วมีความประสงค์จะฆ่านายสมพงษ์ หรือกำนันมืด กำนันตำบลท่าศาลา
แต่ขณะเสือหมึก เข้าไปไม่พบตัวกำนันมืดจึงได้ฆ่า นายไพรัตน์ คนสนิทของกำนัน และเตรียมที่จะย้อนกลับมาก่อเหตุยิงกำนันมืดอีกครั้ง แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวนายสมพงศ์ สุวรรณมณี ไว้ได้รวมทั้งนายวุฒิศักดิ์ หรือ นิว ชูขาว ผู้ชี้เป้าในขณะที่นายชูศักดิ์ และนายประไพสองคู่หูสามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างหวุดหวิดเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางปี 2548 และผู้ที่ร่วมขบวนการรวม 11 คนนำ โดย ส.อบจ.คนดังผู้กว้างขวางได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไว้ได้และอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล ซึ่งยังคงเหลือเพียงนายประไพ หงษ์ทอง หรือเสือยิบที่ยังหลบหนีอยู่อีกเพียง 1 คนเท่านั้น
พ.ต.อ.วิศิษฐ์ ฤทธิ์แผลง ผกก.สภ.อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้เดินทางไปสอบสวนนายชูศักดิ์ หรือเสือหมึก นุ่มลืมคิด ซึ่งถูกควบคุมตัวในระหว่างการสอบสวนอยู่ที่ บก.ภ.ชุมพร โดยภายหลังจากการสอบสวน พ.ต.อ.วิศิษฐ์ เปิดเผยว่าผลจากการสอบสวนนั้นนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีมาก ซึ่งกระบวนการสอบนั้นได้มีทนายขอนายชูศักดิ์ร่วมรับฟังอยู่ตลอดเวลา
“รายละเอียดเท่าที่สามารถเปิดเผยได้นั้น สรุปได้ว่าในคดีฆ่า นายไพรัช จินดาฤกษ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา นายชูศักดิ์ ได้รับสารภาพว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายไพรัช ร่วมกับทีมงานจริง แต่ขอสงวนที่ไม่เปิดเผยผู้จ้างวานเนื่องจากเกรงว่าครอบครัวจะได้รับอันตราย ส่วนวงเงินที่ได้นั้นไม่ทราบว่าใครเป็นคนโอนเงินมาให้ผ่านบัญชีธนาคาร ได้เงินรวม 60,000 บาทเท่านั้น ไม่ได้ถึงหลักแสนบาทตามที่เป็นข่าวและเส้นทางการเงินนั้นเรากำลังติดตามเพื่อทำสำนวนเพิ่มเติมส่งให้กับพนักงานอัยการนำรวมกับสำนวนที่ถูกส่งไปก่อนแล้ว”
พ.ต.อ.วิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่เขายอมให้ตำรวจจับนั้น เท่าที่ได้พูดคุบทราบว่าเขากำลังถูกล่าสังหารเพื่อตัดตอนไม่ให้ถึงตัวผู้จ้างวาน และในคดีที่ยิงนายไพรัช นายชูศักดิ์เพียงแค่สารภาพแต่ขอไม่นำชี้ที่เกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย และเขายังบอกอีกว่าได้รับงานจ้างสังหารมาแล้วประมาณ 80 ศพ
ส่วนกระบวนการในการดำเนินคดีนั้นจะต้องเข้าคิวกับหลายจังหวัดที่นายชูศักดิ์ได้ก่อคดีไว้เช่นที่ชุมพร พังงา พัทลุง ประจวบคีรีขันธ์ และในอีกหลายจังหวัดรวมถึงนครศรีธรรมราช ซึ่งจะต้องพิจารณาไปตามเขตอำนาจศาลเป็นรายๆไปต่างกรรมต่างวาระกันคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 5 ปี