xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยนับหมื่นปักหลักอาลัย “ขุนพันธ์” เผาร่างจนเหลือเพียงธุลี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านนับหมื่นปักหลักรอไว้อาลัยจนนาทีสุดท้ายจนร่าง “ขุนพันธ์” กลายเป็นเถ้าธุลี ขณะเดียวกัน กลุ่มหาประโยชน์ได้นำเหรียญที่ระลึกและรูปภาพออกมาเร่ขายทันที เผยเป็นประวัติศาสตร์ปูชนียบุคคลแห่งประเทศไทย

วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดเหตุวุ่นวายหวิดกลายเป็นเหตุการณ์จลาจลย่อยๆ ในระหว่างการแจกจ่ายของที่ระลึกเหรียญรูปเหมือน พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ในช่วงกลางดึกของวันที่ 22 ก.พ.จนทางบรรดาบุตรหลานต้องหยุดการแจกชั่วคราวจนเกิดความปั่นป่วนสร้างความไม่พอใจกับกลุ่มประชาชนที่ต้องการเก็บเหรียญไว้เป็นที่ระลึก และแนวของฝูงชนได้บีบตัวเข้ามาในบริเวณเมรุชั่วคราวจนทางเจ้าหน้าที่ จนคณะเจ้าภาพต้องประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงถึงระเบียบในการรับของที่ระลึกและมีการจัดตั้งจุดแจกของที่ระลึกโดยใช้รถบรรทุกน้ำดับเพลิงเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นจุดทยอยแจกตามถนนราชดำเนินที่มีประชาชนเป็นหลายหมื่นคนปักหลักรออย่างไม่ย่อท้อ ตามที่ “ผู้จัดการออนไลน์” ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จนกระทั่งเวลา 23.00 น.ของวันที่ 22 ก.พ. เจ้าพนักงานกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ได้ทำการเชิญหีบทองสลักลายพระราชทาน ซึ่งเป็นหีบชั้นนอกออกจากหีบที่บรรจุศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เปิดหีบศพที่มีการปิดผนึกอย่างดีและเปิดโอกาสให้บรรดาลูกหลานและศิษย์คนใกล้ชิดจำนวนหลายสิบคนขึ้นไปเคารพศพและดูศพเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเจ้าพนักงานกองพระราชพิธีได้เชิญตะเกียงหลวงเพลิงพระราชทาน ขึ้นบนเมรุชั่วคราว แล้วจึงเชิญเพลิงสู่ร่างของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชท่ามกลางประชาชนนับหมื่นคนพร้อมใจกันพนมมือและมีเสียงโห่ร้องเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำเมรุได้ควบคุมเปลวเพลิงให้อยู่ภายในหีบไม้จนเผาไหม้ร่างของขุนพันธรักษ์ราชเดช เสร็จสมบูรณ์เมื่อเวลา 04.00 น. บุตรหลาน และพระราชธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานทำพิธีดับธาตุและเก็บอัฐิตามประเพณี โดยบุตรหลานจะได้นำอัฐิของขุนพันธรักษ์ราชเดชไปเก็บไว้ในศาลาบัว หน้าบ้านพักที่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชอาศัยอยู่จนวาระสุดท้าย ในซอยราชเดช ถ.ราชดำเนิน ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงระหว่างที่มีการเชิญเพลิงนั้นเวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าภาพได้มีการแจกเหรียญให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้าพิธีที่ยังคงปักหลักจำนวนมากปรากฏว่าอีกส่วนหนึ่งไม่ยอมรับการแจกเหรียญที่ระลึกโดยบอกว่าที่มาเฝ้ารอนั้นเพื่อที่จะมาร่วมไว้อาลัยและส่ง พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นครั้งสุดท้าย และจะติดตามว่าร่างของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์จะไหม้หรือไม่ และเพื่อต้องการพิสูจน์ว่าคำของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ที่บอกกล่าวเล่ากันว่าร่างของท่านจะมอดไหม้อย่างแน่นอนและพบว่าเป็นจริงตามนั้น

ทั้งยังถือว่ามาด้วยความศรัทธาและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ว่าชีวิตหนึ่งได้มาร่วมในพิธีศพของบุคคลธรรมดาที่มีประชาชนให้ความเคารพศรัทธาทั่วประเทศ และเชื่อว่าไม่มีพิธีศพสามัญชนใดจะยิ่งใหญ่ได้อย่างนี้อีกแล้ว และไม่ได้หวังของที่ระลึกแม้ว่าจะเป็นที่ต้องการมากก็ตาม และได้มีการรอจนร่างของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์มอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน ขณะเดียวกันยังได้มีการร่ำลือว่ามีการถ่ายภาพเมรุในขณะที่มีการเชิญเพลิงพระราชทานลงบนร่างของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ ปรากฏว่ามีภาพดวงตราจตุคามรามเทพลอยอยู่เหนือเมรุจำนวน 2 ดวงอีกด้วย

ส่วนบรรยากาศช่วงเช้าของวันนี้ (23 ก.พ.) หลังจากเสร็จพิธีทั้งหมดแล้ว บริเวณหน้าศาลา 100 ปี วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารปรากฏว่าได้มีกลุ่มคนจำนวนมากฉกฉวยเอาโอกาสนี้ในการหาประโยชน์โดยการนำเหรียญที่ระลึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหรียญ 2 ด้านหน้าหน้าเป็นหลวงปู่ทวด ด้านหลังเป็นขุนพันธรักษ์ราชเดช และเหรียญรูปไข่ภาพถ่ายในหลากหลายอิริยาบถของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ ทั้งเป็นภาพเก่าและภาพเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งภาพที่กล่าวขานกันว่าเป็นภาพวิญญาณของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ ต่างก็เดินเตร่ขายกันในราคา 99 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท

กำลังโหลดความคิดเห็น