เมืองคอนคึกคึกรับงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ “ขุนพันธ์”

นครศรีธรรมราช – กองงานพระราชพิธีสำรวจพื้นที่เตรียมแผนพร้อมรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ “ขุนพันธ์” 22 ก.พ.โรงแรมเต็มเอี้ยดแขกจองร่วมงาน ปิดถนนราชดำเนินรับคลื่นมหาชนร่วมพิธีระดมตำรวจ - ทหารนับพันคุมเข้ม

หลังจากมีกำหนดการในวันที่ 22 ก.พ.2550 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในการพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ณ เมรุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในส่วนของการรับเสด็จฯและรองรับคลื่นมหาชนที่จะมาร่วมงานพิธีได้มีการเตรียมการมาเป็นลำดับแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 10.00 น. พล.อ.อ.เกษม อยู่สุข หัวหน้าคณะราชเลขาธิการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยคณะข้าราชการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เดินทางลงพื้นที่สำรวจความพร้อมและร่วมประชุมวางแผนในการเตรียมพิธีรับเสด็จฯ โดยมี นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พระราชธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

โดยมี นางจินตปาฏี ทับทิมทอง (พันธรักษ์ราชเดช) นายณสรรณ์ พันธรักษ์ราชเดช และนายฉันทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรสาวและบุตรชายของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เข้าร่วมประชุมเตรียมการรับเสด็จอย่างพร้อมเพรียง

โดยก่อนการประชุมนั้น พล.อ.อ.เกษม อยู่สุข หัวหน้าคณะราชเลขาธิการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยนายตำรวจวัง นายทหารราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ร่วมกันสำรวจพื้นที่พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องในบริเวณลานพิธีหน้าศาลาร้อยปี วัดพระมหาธาตุ ซึ่งเป็นจุดในการจัดสร้างเมรุชั่วคราวขนาดใหญ่ที่นำมาจาก จ.เพชรบุรี

รวมทั้งวางผังจุดที่จะมีการสร้างพลับพลาที่ประทับชั่วคราว และเต็นท์ที่พักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อย่างละเอียด รวมทั้งมีการประชุมแผนในการถวายความปลอดภัย และแผนในการประชาสัมพันธ์กับประชาชนที่จะมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย

สำหรับการจัดเตรียมสถานที่ที่จะรองรับประชาชน คาดว่า จะมีการเดินทางมาร่วมพิธีนับหลายหมื่นคนนั้นจะมีการปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นเส้นทางหลักหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อรองรับประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุก สภ.อ.ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกำลังเข้าร่วมกำลังผลจาก ตชด.42 และกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 4 เข้าสนธิกำลังเข้ามารักษาความเรียบรอยอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่ากำลังพลที่จะนำมารักษาความปลอดภัยในการพิธีพระราชทานเพลิงครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 4,000 นาย

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในพิธีจะมีข้าราชการตำรวจทั่วประเทศมาร่วมพิธี รวมทั้งผู้ที่ให้ความเคารพนับถือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จากทั่วประเทศและชาวนครศรีธรรมราช ทราบว่าขณะนี้มีการจองโรงแรมในจังหวัดนครศรีธรรมราชเต็มแล้วทุกแห่ง ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ.

“สิ่งที่อยากจะบอกชาวนครศรีธรรมราช คือ ขณะนี้ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นทรัพยากรบุคคลและเป็นปูชนียบุคคลที่ประชาชนทั่วประเทศให้ความเคารพนับถือทั้งในด้านการประกอบอาชีพตำรวจที่มุ่งมั่น และตั้งอยู่ในความซื่อสัตย์ ครองตนอยู่ในศีลในธรรม จวบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิตและได้กลายเป็นบุคคลที่ถูกประชาชนเคารพบูชาไปแล้ว จะต้องช่วยกันรักษาชื่อเสียงของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ฯ รวมทั้งชื่อเสียงของชาวนครศรีธรรมราช ให้พิธีลุล่วงไปด้วยดี”

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงของที่ระลึก ซึ่งมีทั้งเหรียญรูปเหมือนพระเครื่องจตุคามรามเทพ และหนังสือที่ระลึกในงานพิธี ซึ่งมีการเกรงว่าจะไม่เพียงพอนั้นขอยืนยันว่าจะมีอย่างเพียงพอ และในพิธีนั้นได้มีการตกลงกันแล้วว่าจะให้ประชาชนทุกคนตั้งแต่คนแรกจนถึงคนสุดท้ายได้ขึ้นเคารพศพและวางดอกไม้จันท์ทุกคน จึงจะทำพิธีประชุมเพลิงพระราชทานจริง ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่ได้รับของที่ระลึกอาจจะมีการจัดระเบียบในการเดินขึ้นไปเป็นแถว หลังจากที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชการ เสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว

สำหรับ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2549 ด้วยอายุ 108 ปี เป็นนายตำรวจชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักและยอมรับของคนในภาคใต้ ในด้านการปราบปรามโจรผู้ร้าย จนเป็นที่เกรงกลัวของขุนโจรภาคใต้ในสมัยนั้น

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สนใจในด้านประวัติศาสตร์ คติชนวิทยาและไสยศาสตร์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็นเจ้าพิธีกรรมต่างๆ และเป็นเจ้าพิธีกรรมหลักในการจัดสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นผู้ที่เปิดเผยในเรื่องราวของ “องค์จตุคามรามเทพ” จนเป็นที่เคารพศรัทธาของมหาชนทั่วประเทศ