ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ครูจูหลิงยังอยู่ไอซียูหลังผ่าตัดสมองเพื่อระบายฝีหนองในสมองออก พ่อแม่ห่วงอาการทรุดหนักเห็นด้วยกับแพทย์ที่แนะนำเลื่อนกลับเชียงรายไม่มีกำหนด
ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของครูจูหลิง ปงกันมูล ซึ่งย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 ของการ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) และอาการทรุดหนักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดฝีในสมอง และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมาแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองเพื่อระบายฝีหนองในสมองออก โดยได้ย้ายจากห้องรับรองพิเศษมาอยู่ในห้องไอซียูเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ
ล่าสุดทางคณะแพทย์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 220 จากการประเมินสถานการณ์ของแพทย์วัน ที่ 4 หลังการผ่าตัดสมอง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่ตามพยากรณ์โรคทางสมองไม่ดีนักยัง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และจนถึงขณะนี้ครูจูหลิงยังไม่รู้สึกตัว ไม่มีการตอบสนองของ สมองและก้านสมอง มีไข้ต่ำ ๆ จากการติดเชื้อในสมอง โดยแพทย์ยังคงใช้ยาควบคุมความ ดันโลหิต ยากันชัก และยาป้องกันลิ่มเลือดที่ขาด พร้อมกับจัดทีมแพทย์ด้านจิตวิทยา ดูแลสภาพจิตใจของพ่อแม่ควบคู่กันไปด้วยเนื่องจากทั้งสองคนยังเชื่อว่าครูจูหลิงจะต้อง รอดชีวิต
ทั้งนี้ นางคำมี ปงกันมูล แม่ของครูจูหลิง กล่าวว่า พ่อกับแม่เป็นห่วงลูกสาวมากหลังจากที่ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองอีกครั้ง เพราะเกรงว่าอาการจะทรุดหนักลงไปกว่าเดิมเพราะ หลังการผ่าตัดสมองบวม แต่ตนทั้งสองยังมีกำลังใจและพร้อมที่จะดูแลลูกสาวต่อไป
ส่วนเรื่องของการย้ายกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายราชประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย บ้านเกิดนั้น แม้ว่าจะอยากกลับโดยเร็วตามกำหนดการณ์เดิมคือต้นปีหน้า แต่เมื่อลูกสาวอาการไม่ดีขึ้นก็ จำเป็นต้องอยู่ต่อตามคำแนะนำของแพทย์จนกว่าอาการจะดีขึ้นกว่านี้จากนั้นแพทย์ทั้งสองโรงพยาบาลจะหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของครูจูหลิง ปงกันมูล ซึ่งย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 ของการ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) และอาการทรุดหนักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดฝีในสมอง และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมาแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองเพื่อระบายฝีหนองในสมองออก โดยได้ย้ายจากห้องรับรองพิเศษมาอยู่ในห้องไอซียูเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ
ล่าสุดทางคณะแพทย์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 220 จากการประเมินสถานการณ์ของแพทย์วัน ที่ 4 หลังการผ่าตัดสมอง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่ตามพยากรณ์โรคทางสมองไม่ดีนักยัง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และจนถึงขณะนี้ครูจูหลิงยังไม่รู้สึกตัว ไม่มีการตอบสนองของ สมองและก้านสมอง มีไข้ต่ำ ๆ จากการติดเชื้อในสมอง โดยแพทย์ยังคงใช้ยาควบคุมความ ดันโลหิต ยากันชัก และยาป้องกันลิ่มเลือดที่ขาด พร้อมกับจัดทีมแพทย์ด้านจิตวิทยา ดูแลสภาพจิตใจของพ่อแม่ควบคู่กันไปด้วยเนื่องจากทั้งสองคนยังเชื่อว่าครูจูหลิงจะต้อง รอดชีวิต
ทั้งนี้ นางคำมี ปงกันมูล แม่ของครูจูหลิง กล่าวว่า พ่อกับแม่เป็นห่วงลูกสาวมากหลังจากที่ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองอีกครั้ง เพราะเกรงว่าอาการจะทรุดหนักลงไปกว่าเดิมเพราะ หลังการผ่าตัดสมองบวม แต่ตนทั้งสองยังมีกำลังใจและพร้อมที่จะดูแลลูกสาวต่อไป
ส่วนเรื่องของการย้ายกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายราชประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย บ้านเกิดนั้น แม้ว่าจะอยากกลับโดยเร็วตามกำหนดการณ์เดิมคือต้นปีหน้า แต่เมื่อลูกสาวอาการไม่ดีขึ้นก็ จำเป็นต้องอยู่ต่อตามคำแนะนำของแพทย์จนกว่าอาการจะดีขึ้นกว่านี้จากนั้นแพทย์ทั้งสองโรงพยาบาลจะหารือกันอีกครั้งหนึ่ง