นครศรีธรรมราช – สลด 6 นักเรียนชายชั้น ม.1 รุมข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงภายในห้องเรียนยับ ก่อนอาจารย์เข้าไปพบขณะกำลังข่มขืนแจ้งตำรวจบุกจับกุมตัวได้ยกทีม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ (18 ธ.ค.) พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ยี่รง สารวัตรเวร สภ.อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุนักเรียนชายชั้น ม.1 จำนวน 6 คนรุมข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงในห้องกิจกรรม อาคารชั้น 3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.พระพรหม นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจที่โรงเรียนดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบว่ากลุ่มนักเรียนทั้ง 6 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.1 อายุ 13 ปีทั้งหมด ส่วนนักเรียนหญิงเป็นเพื่อนห้องเรียนเดียวกันกับนักเรียนชาย ถูกครูอาจารย์ควบคุมตัวไว้ในห้องฝ่ายปกครอง ทางโรงเรียนจึงแจ้งผู้ปกครองของนักเรียนทั้งหญิงและชายให้มารับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนดังกล่าว
โดยเมื่อมารดาของเด็กหญิงทราบข่าวก็ได้เดินทางมาดูลูกและพยายามต่อว่ากลุ่มนักเรียนชาย พร้อมกับร้องห่มร้องให้ด้วยความเสียใจที่มาเกิดเหตุการณ์กับลูกของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่จึงกันให้ออกมาอยู่ด้านนอก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวเด็กชายทั้ง 6 คนซึ่งยังอยู่ในชุดนักเรียนพาไปขึ้นรถตำรวจเพื่อทำการสอบปากคำที่ สภ.อ.พระพรหม ระหว่างนั้นมารดาของเด็กหญิงก็พยายามเข้าไปต่อว่าและกันตัวให้ออกห่าง ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายได้ถูกนำตัวไปตรวจร่างกายหาร่องรอยถูกข่มขืนที่ รพ.มหาราช และนำตัวมาสอบปากคำต่อหน้าอัยการ ทนายความ นักสังคมสงเคราะห์ และผู้ปกครอง
นักเรียนหญิงผู้เสียหายเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากเลิกเรียนแล้ว เพื่อนนักเรียนทั้ง 6 คนซึ่งเรียนอยู่ห้องเดียวกันได้ชักชวนพาไปที่ห้องกิจกรรมบนชั้น 3 ของอาคารเรียน บอกว่าจะพาไปดูของดี และช่วงดังกล่าวนักเรียนชั้นอื่นกลับกันหมดแล้ว มีเพียงอาจารย์ไม่กี่คนอยู่ชั้นล่าง ปรากฏว่าขณะที่ตนอยู่ในห้องดังกล่าวกับกลุ่มเพื่อนนักเรียนชาย เพื่อนนักเรียนชายทั้งหมดก็ได้แสดงความป่าเถื่อนโดยเข้ามาจับตน ช่วยกันมัดมือมัดเท้า และจับขึงพืดถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะผลัดกันรุมโทรมอย่างเมามัน ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ถูกเอามือมาปิดปาก
ระหว่างที่กลุ่มเพื่อนนักเรียนชายกำลังข่มขืนตนอยู่นั้นมีอาจารย์คนหนึ่งขึ้นมาเจอพอดี ขณะที่อาจารย์ที่เข้าไปเจอเหตุการณ์และช่วยเหลือนักเรียนหญิงคนนี้ไว้ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังเลิกเรียนแล้วก็ปล่อยให้เด็กเดินทางกลับบ้านตามปกติทุกวัน ช่วงเกิดเหตุการณ์ไม่ได้เอะใจอะไรแต่ได้ขึ้นไปหยิบเอกสารบนชั้น 3 กลับได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายของนักเรียนหญิงอยู่ภายในห้องจึงเปิดประตูห้องเข้าไปดู พบมีเด็กนักเรียนชาย 3 คนอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่างล่อนจ้อนกำลังจับเด็กหญิงขึงพืดรุมโทรมนักเรียนหญิงคนนี้
ขณะที่อีก 3 คนกำลังช่วยกันจับมือและเท้ารวมทั้งปิดปากเด็กหญิงคนนี้ไว้ จึงร้องตะโกนให้อาจารย์ที่ยังอยู่ที่สนามด้านล่างให้มาช่วยเด็กหญิงและจับกุมเด็กชายทั้ง 6 คนไว้ ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับเด็กชายทั้ง 6 คนได้ยอมรับสารภาพต่อหน้าครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งผู้ปกครองของเด็กหญิงคนดังกล่าว ว่าได้ร่วมกันข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงจริง โดยหลังจากเวียนเทียนจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง และเตรียมข่มขืนต่ออีกรอบแต่ครูมาเจอเสียก่อน โดยยอมรับว่าเหตุที่ได้ร่วมกันข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงในครั้งนี้เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันจึงคิดว่าเด็กหญิงชอบเพื่อนชายในกลุ่ม จึงออกอุบายชักชวนไปที่ห้องกิจกรรมบนชั้น 3 ของอาคารเรียนดังกล่าวก่อนจะร่วมกันรุมข่มขืนเพราะเข้าใจว่าเพื่อนยอม
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทางผู้ปกครองของนักเรียนชายทั้งหมดให้มารับทราบถึงพฤติกรรมของเด็ก และควบคุมตัวส่งสถานพินิจเด็กและเยาวชนเพื่อรอการสอบสวนอย่างเป็นทางการตามกระบวนการดำเนินคดีกับเด็กและเยาวชนต่อไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ (18 ธ.ค.) พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ยี่รง สารวัตรเวร สภ.อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุนักเรียนชายชั้น ม.1 จำนวน 6 คนรุมข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงในห้องกิจกรรม อาคารชั้น 3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.พระพรหม นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจที่โรงเรียนดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบว่ากลุ่มนักเรียนทั้ง 6 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.1 อายุ 13 ปีทั้งหมด ส่วนนักเรียนหญิงเป็นเพื่อนห้องเรียนเดียวกันกับนักเรียนชาย ถูกครูอาจารย์ควบคุมตัวไว้ในห้องฝ่ายปกครอง ทางโรงเรียนจึงแจ้งผู้ปกครองของนักเรียนทั้งหญิงและชายให้มารับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนดังกล่าว
โดยเมื่อมารดาของเด็กหญิงทราบข่าวก็ได้เดินทางมาดูลูกและพยายามต่อว่ากลุ่มนักเรียนชาย พร้อมกับร้องห่มร้องให้ด้วยความเสียใจที่มาเกิดเหตุการณ์กับลูกของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่จึงกันให้ออกมาอยู่ด้านนอก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวเด็กชายทั้ง 6 คนซึ่งยังอยู่ในชุดนักเรียนพาไปขึ้นรถตำรวจเพื่อทำการสอบปากคำที่ สภ.อ.พระพรหม ระหว่างนั้นมารดาของเด็กหญิงก็พยายามเข้าไปต่อว่าและกันตัวให้ออกห่าง ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายได้ถูกนำตัวไปตรวจร่างกายหาร่องรอยถูกข่มขืนที่ รพ.มหาราช และนำตัวมาสอบปากคำต่อหน้าอัยการ ทนายความ นักสังคมสงเคราะห์ และผู้ปกครอง
นักเรียนหญิงผู้เสียหายเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากเลิกเรียนแล้ว เพื่อนนักเรียนทั้ง 6 คนซึ่งเรียนอยู่ห้องเดียวกันได้ชักชวนพาไปที่ห้องกิจกรรมบนชั้น 3 ของอาคารเรียน บอกว่าจะพาไปดูของดี และช่วงดังกล่าวนักเรียนชั้นอื่นกลับกันหมดแล้ว มีเพียงอาจารย์ไม่กี่คนอยู่ชั้นล่าง ปรากฏว่าขณะที่ตนอยู่ในห้องดังกล่าวกับกลุ่มเพื่อนนักเรียนชาย เพื่อนนักเรียนชายทั้งหมดก็ได้แสดงความป่าเถื่อนโดยเข้ามาจับตน ช่วยกันมัดมือมัดเท้า และจับขึงพืดถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะผลัดกันรุมโทรมอย่างเมามัน ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ถูกเอามือมาปิดปาก
ระหว่างที่กลุ่มเพื่อนนักเรียนชายกำลังข่มขืนตนอยู่นั้นมีอาจารย์คนหนึ่งขึ้นมาเจอพอดี ขณะที่อาจารย์ที่เข้าไปเจอเหตุการณ์และช่วยเหลือนักเรียนหญิงคนนี้ไว้ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังเลิกเรียนแล้วก็ปล่อยให้เด็กเดินทางกลับบ้านตามปกติทุกวัน ช่วงเกิดเหตุการณ์ไม่ได้เอะใจอะไรแต่ได้ขึ้นไปหยิบเอกสารบนชั้น 3 กลับได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายของนักเรียนหญิงอยู่ภายในห้องจึงเปิดประตูห้องเข้าไปดู พบมีเด็กนักเรียนชาย 3 คนอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่างล่อนจ้อนกำลังจับเด็กหญิงขึงพืดรุมโทรมนักเรียนหญิงคนนี้
ขณะที่อีก 3 คนกำลังช่วยกันจับมือและเท้ารวมทั้งปิดปากเด็กหญิงคนนี้ไว้ จึงร้องตะโกนให้อาจารย์ที่ยังอยู่ที่สนามด้านล่างให้มาช่วยเด็กหญิงและจับกุมเด็กชายทั้ง 6 คนไว้ ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับเด็กชายทั้ง 6 คนได้ยอมรับสารภาพต่อหน้าครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งผู้ปกครองของเด็กหญิงคนดังกล่าว ว่าได้ร่วมกันข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงจริง โดยหลังจากเวียนเทียนจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง และเตรียมข่มขืนต่ออีกรอบแต่ครูมาเจอเสียก่อน โดยยอมรับว่าเหตุที่ได้ร่วมกันข่มขืนเพื่อนนักเรียนหญิงในครั้งนี้เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันจึงคิดว่าเด็กหญิงชอบเพื่อนชายในกลุ่ม จึงออกอุบายชักชวนไปที่ห้องกิจกรรมบนชั้น 3 ของอาคารเรียนดังกล่าวก่อนจะร่วมกันรุมข่มขืนเพราะเข้าใจว่าเพื่อนยอม
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทางผู้ปกครองของนักเรียนชายทั้งหมดให้มารับทราบถึงพฤติกรรมของเด็ก และควบคุมตัวส่งสถานพินิจเด็กและเยาวชนเพื่อรอการสอบสวนอย่างเป็นทางการตามกระบวนการดำเนินคดีกับเด็กและเยาวชนต่อไปแล้ว