ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – กอ.สสส.จชต.ร่วมกับจังหวัดสงขลาเรียกประชุมหน่วยกำลัง 4 อำเภอของสงขลารับมือสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังมีการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ “สะบ้าย้อย-เทพา-จะนะ-นาทวี” พบว่ามีแนวโน้มที่น่าจะรุนแรงมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (6 พ.ย.) ที่โรงแรมบีพีแกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุเทพ โกมลภมร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมหน่วยกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 4 อำเภอของ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา อ.จะนะ และ อ.นาทวี ซึ่งกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ได้จัดขึ้น โดยมีหน่วยกำลังในพื้นที่ 4 อำเภอเข้าร่วมจำนวน 166 คน
สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการจัดขึ้นเพื่อทบทวนการปฏิบัติหน้าที่และวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ในปีงบประมาณ 2550 ทั้งนี้ ได้มีการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ว่ามีแนวโน้มที่น่าจะรุนแรงมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการเตรียมบุคลากรให้พร้อม ทั้งตำรวจภูธร ตชด. ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เข้าร่วมในการปฏิบัติหน้าที่
โดยได้เน้นย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม เพราะอาจตกหลุมพราง ให้เน้นใช้ความอดทน อดกลั้น และระมัดระวังตนเอง ไม่ประมาทในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งขอให้มีการเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมของท้องถิ่น เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับชุมชนในแต่ละท้องที่ที่เข้าไปปฏิบัติการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (6 พ.ย.) ที่โรงแรมบีพีแกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุเทพ โกมลภมร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมหน่วยกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 4 อำเภอของ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา อ.จะนะ และ อ.นาทวี ซึ่งกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ได้จัดขึ้น โดยมีหน่วยกำลังในพื้นที่ 4 อำเภอเข้าร่วมจำนวน 166 คน
สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการจัดขึ้นเพื่อทบทวนการปฏิบัติหน้าที่และวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ในปีงบประมาณ 2550 ทั้งนี้ ได้มีการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ว่ามีแนวโน้มที่น่าจะรุนแรงมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการเตรียมบุคลากรให้พร้อม ทั้งตำรวจภูธร ตชด. ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เข้าร่วมในการปฏิบัติหน้าที่
โดยได้เน้นย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม เพราะอาจตกหลุมพราง ให้เน้นใช้ความอดทน อดกลั้น และระมัดระวังตนเอง ไม่ประมาทในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งขอให้มีการเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมของท้องถิ่น เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับชุมชนในแต่ละท้องที่ที่เข้าไปปฏิบัติการ