ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โรงแรม-รีสอร์ต ในกลุ่ม “เดอะ บริษา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา” ทั้งที่ภูเก็ตและเกาะสมุย นักท่องเที่ยวตอบรับดีเกินคาด เปิดบริการปีแรก อัตราเข้าพักดี ที่ภูเก็ตแม้ไม่อยู่ริมหาดแต่ได้กลุ่มสแกนดิเนียเวียอัตราเข้าพักสูงถึง 40% ขณะที่วิลล่าระดับ 5 ดาวที่สมุย ยุโรปเข้าพักอัตราพักสูงถึง 60% ปีหน้าวางแผนตลาดดึงคนพักมากขึ้น ขณะที่รีสอร์ตหรูที่เขาหลักชะลอการลงทุนไปก่อน ไม่มั่นใจนักท่องเที่ยวกลับ คาดลงทุนปลายปี 2550 เงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท
นายนิจจพร มาประเสริฐ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่ม เดอะ บริษา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา เปิดเผยถึงการดำเนินการของโรงแรมในกลุ่มเดอะ บริษา บีช รีสอร์ท แอนด์สปา ซึ่งมีโรงแรมในขณะนี้ คือ โรงแรมภูรินทร์ รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่กะรน อ.เมืองภูเก็ต และโรงแรมเดอะ บริษา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า
โรงแรมภูรินทร์ รีสอร์ท ถือเป็นโรงแรมแรกของเดอะ บริษาฯ ที่เปิดให้บริการ ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นโรงแรมไม่อยู่ติดหาดกะรน มีห้องพักทั้งหมด 79 ห้อง เปิดให้บริการครบ 1 ปีแล้ว ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวที่ดีมาก เนื่องจากอยู่ไม่ติดชายหาด ทำให้ราคาต่ำกว่าโรงแรมที่อยู่ติดริมหาด ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 30-40% ในปีแรก
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มคาดว่า ในปีที่ 2 อัตราเข้าพักจะขยับเป็น 50-60% เนื่องจากโรงแรมเป็นที่รู้จักของเอเยนต์ทัวร์ และนักท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับการท่องเที่ยวของภูเก็ต มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มขยายตัวที่สูงขึ้นอีก จากการที่ภูเก็ตได้ฟื้นตัวจากเหตุการณ์สึนามิ จนไม่เหลือร่องรอยของความเสียหายให้เห็น
กลุ่มลูกค้านั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ช่วงไฮซีซัน ลูกค้ากลุ่มหลักจะมาจากสแกนดิเนเวีย ส่วนโลว์ซีซันเป็นกลุ่มจากเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เป็นต้น
นายนิจจพร ยังกล่าวถึงเดอะบริษา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่เกาะสมุย ว่า ทางกลุ่มใช้เงินลงทุนไป 400 ล้านบาท ก่อสร้างเป็นวิลล่าทั้งหมด 57 ห้อง ตั้งอยู่ที่หาดเฉวง เป็นรีสอร์ตระดับ 5 ดาว โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของเกาะสมุย ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวยุโรป ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 40% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ดีมากที่เปิดให้บริการในปีแรก และคาดว่า ในปีที่ 2 จะได้รับการตอบรับดีกว่านี้มาก เนื่องจากทางกลุ่มได้ทำประชาสัมพันธ์ออกไปอย่างกว้างขวาง และการท่องเที่ยวของเกาะสมุยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากมีการลงทุนโรงแรมระดับ 5 ดาวที่บริหารโดยอินเตอร์เชนเกิดขึ้นหลายแห่ง
นายนิจจพร ยังกล่าวถึงการลงทุนรีสอร์ตที่บริเวณเขาหลัก จ.พังงา ภายหลังจากได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ว่า โครงการรีสอร์ตที่เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ตอนนี้ทางกลุ่มได้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน เนื่องจากไม่มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาเขาหลักหรือไม่ในอีก 1-2 ปีนี้
ทั้งนี้ เพราะเท่าที่ทราบในขณะนี้ โรงแรม รีสอร์ต ที่มีการลงทุนใหม่และซ่อมแซม บางแห่งก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก บางแห่งก็น้อย ทางกลุ่มจึงอยากรอดูสถานการณ์การท่องเที่ยวของเขาหลัก ไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน โดยคาดว่าประมาณปลายปี 2550 น่าที่จะกลับไปลงทุนก่อสร้างใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพราะรีสอร์ตดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ยังมีโครงสร้างและชั้น 3 ได้รับความเสียหายไม่มาก คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างไม่เกิน 8 เดือน มีที่เป็นวิลล่า 10 หลัง และเป็นตึก 59 ห้อง ใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท