ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เจ้าหน้าที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้มงวดรับวันถือศีลอด แรงงานไทยในมาเลเซีย ทยอยกลับภูมิลำเนาช่วงเดือนรอมฎอน นับหมื่นคน การจราจรด่านพรมแดน ทั้งสุไหงโก-ลก และตากใบ ติดขัด รถโดยสารเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่พอรองรับ ขณะที่โฆษก คปค.เตือนกลุ่มก่อความไม่สงบยุติทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ทำผิดกฎหมาย ให้หันหน้ามาร่วมพัฒนาชาติ
วันนี้ (24 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้บรรยากาศทั่วไปเงียบเหงาในช่วงเวลากลางวัน แต่จะมีประชาชนหนาแน่นในช่วงเย็น เนื่องจากพี่น้องชาวมุลลิมออกมาจับจ่ายซื้ออาหารเพื่อเตรียมรับประทานในช่วงเวลากลางคืน
สำหรับการดูแลความไม่สงบในพื้นที่ จ.ยะลา นั้น กำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลากลางคืนจะมีประชาชนออกมาหาอาหารรับประทาน และประกอบพิธีทางศาสนากัน โดย พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นในย่านที่มีชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก และด่านบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ว่า มีความคึกคักขึ้นมาก โดยเฉพาะบริเวณหัวสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก–รันตูปันยัง ประเทศมาเลเซีย เต็มไปด้วยรถยนต์ การจราจรติดกันยาวเหยียด เนื่องจากประชาชนจากพื้นที่ต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อมาร่วมถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 24 ก.ย.- 24 ต.ค.2549 โดยประเทศมาเลเซีย ประกาศให้กิจการร้านอาหารมุสลิมหยุดดำเนินการในเวลากลางวัน และอนุญาตให้ลูกจ้างที่มาขายแรงงานจากต่างพื้นที่กลับไปประกอบศาสนกิจทางศาสนา รวมทั้งร่วมฉลองวันฮารีรายอ หรือวันออกบวช คือ ช่วงประมาณวันที่ 31 ต.ค.ก่อนที่แรงงานจะทยอยกันกลับไปทำงานตามปกติ
สำหรับการเดินทางกลับในระยะนี้ ทั้งด่านบ้านตาบา อ.ตากใบ และด่านสุไหงโก-ลก มีประชาชนชาวไทยมุสลิมกลับภูมิลำเนาเฉลี่ยวันละหมื่นคน ส่งผลให้รถโดยสารประจำทางสายสุไหงโก-ลก – ปัตตานี และสุไหงโก-ลก – ยะลา ไม่เพียงพอการรองรับ ขณะเดียวกัน ยังทำให้ผู้ประกอบอาชีพรถรับจ้างต่างๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างนายมะกอเด เจ๊ะสือแม ชาว อ.สุไหงโก-ลก อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีรายได้อย่างน้อยวันละ 500-1,000 บาท รวมถึงอาชีพรถสามล้อถีบมีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปแก้ปัญหา มีคณะกรรมการจากทุกฝ่ายร่วมมือกับประชาชนในการทำงาน การปรับรูปแบบการทำงานบางส่วนต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา โดยยึดหลักเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ ขณะนี้หลายอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เจ้าหน้าที่ทุ่มเททำงานทุกอย่าง
ทั้งนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ มอบนโยบายการทำงานไว้อย่างชัดเจนแล้ว ขอฝากเตือนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบให้ยุติการกระทำที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ กระทำผิดกฎหมาย และขอให้กลับมาร่วมพัฒนาประเทศ ซึ่งในการแก้ปัญหานั้น พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (24 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้บรรยากาศทั่วไปเงียบเหงาในช่วงเวลากลางวัน แต่จะมีประชาชนหนาแน่นในช่วงเย็น เนื่องจากพี่น้องชาวมุลลิมออกมาจับจ่ายซื้ออาหารเพื่อเตรียมรับประทานในช่วงเวลากลางคืน
สำหรับการดูแลความไม่สงบในพื้นที่ จ.ยะลา นั้น กำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลากลางคืนจะมีประชาชนออกมาหาอาหารรับประทาน และประกอบพิธีทางศาสนากัน โดย พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นในย่านที่มีชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก และด่านบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ว่า มีความคึกคักขึ้นมาก โดยเฉพาะบริเวณหัวสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก–รันตูปันยัง ประเทศมาเลเซีย เต็มไปด้วยรถยนต์ การจราจรติดกันยาวเหยียด เนื่องจากประชาชนจากพื้นที่ต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อมาร่วมถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 24 ก.ย.- 24 ต.ค.2549 โดยประเทศมาเลเซีย ประกาศให้กิจการร้านอาหารมุสลิมหยุดดำเนินการในเวลากลางวัน และอนุญาตให้ลูกจ้างที่มาขายแรงงานจากต่างพื้นที่กลับไปประกอบศาสนกิจทางศาสนา รวมทั้งร่วมฉลองวันฮารีรายอ หรือวันออกบวช คือ ช่วงประมาณวันที่ 31 ต.ค.ก่อนที่แรงงานจะทยอยกันกลับไปทำงานตามปกติ
สำหรับการเดินทางกลับในระยะนี้ ทั้งด่านบ้านตาบา อ.ตากใบ และด่านสุไหงโก-ลก มีประชาชนชาวไทยมุสลิมกลับภูมิลำเนาเฉลี่ยวันละหมื่นคน ส่งผลให้รถโดยสารประจำทางสายสุไหงโก-ลก – ปัตตานี และสุไหงโก-ลก – ยะลา ไม่เพียงพอการรองรับ ขณะเดียวกัน ยังทำให้ผู้ประกอบอาชีพรถรับจ้างต่างๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างนายมะกอเด เจ๊ะสือแม ชาว อ.สุไหงโก-ลก อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีรายได้อย่างน้อยวันละ 500-1,000 บาท รวมถึงอาชีพรถสามล้อถีบมีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปแก้ปัญหา มีคณะกรรมการจากทุกฝ่ายร่วมมือกับประชาชนในการทำงาน การปรับรูปแบบการทำงานบางส่วนต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา โดยยึดหลักเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ ขณะนี้หลายอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เจ้าหน้าที่ทุ่มเททำงานทุกอย่าง
ทั้งนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ มอบนโยบายการทำงานไว้อย่างชัดเจนแล้ว ขอฝากเตือนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบให้ยุติการกระทำที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ กระทำผิดกฎหมาย และขอให้กลับมาร่วมพัฒนาประเทศ ซึ่งในการแก้ปัญหานั้น พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย