ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จฯเยี่ยมอาการ “ครูจูหลิง” ที่ รพ.สงขลานครินทร์ “รศ.นพ.สุเมธ พีรวุฒิ” ถวายรายงานอาการป่วย และการรักษาพยาบาล ยังทรงตัว ระบุ ทาง รพ.ได้จัดทีมแพทย์เพื่อวินิจฉัยการทำงานของสมองตามเกณฑ์ของแพทยสภา จนขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า “สมองของครูจูหลิง ตาย” แต่ต้องอยู่ในสภาพไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดๆ ตลอดไป “พ่อ-แม่ ครูจูหลิง” ปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมบอกบุตรสาวร่วมรับเสด็จฯด้วย
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (10 ก.ย.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมอาการป่วยของ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จ.สงขลา ท่ามกลางการรอรับเสด็จฯของคณะแพทย์ พยาบาล นิสิต นักศึกษา รวมทั้งบุคลากรของโรงพยาบาล ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่ากว่า 1,000 คน
รศ.นพ.สุเมธ พีรวุฒิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้กล่าวถวายบังคมทูลถวายรายงานเกี่ยวกับอาการป่วย และการรักษาพยาบาลครูจูหลิง ซึ่งทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้จัดทีมแพทย์ เพื่อวินิจฉัยการทำงานของสมองตามเกณฑ์ของแพทยสภา จนขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า สมองของครูจูหลิง ตาย แต่ ครูจูหลิง ต้องอยู่ในสภาพไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดๆ ตลอดไป
สำหรับผู้ป่วยในรายอื่นๆ ที่สมองได้รับบาดเจ็บขณะนี้ เกือบทั้งหมดต้องเสียชีวิตในระยะเวลาอันสั้น แต่ครูจูหลิง สามารถอยู่ได้ คงเป็นเพราะบุญบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงคุ้มครองให้ครูจูหลิง มีชีวิตอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้
ส่วน นายสูน และ นางคำมี ปงกันมูล บิดามารดาตลอดจนญาติของครูของครูจูหลิงนั้น โรงพยาบาลได้จัดห้องพักรับรองพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสภาพจิตใจ ทำความเข้าใจให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการ และการพยากรณ์โรคของครูจูหลิงให้ทราบเป็นระยะ และตลอดเวลาที่ครูจูหลิง เข้ารับการรักษา ได้มีประชาชน นักเรียน เพื่อนครู ตลอดจนองค์กรภาครัฐและเอกชนเข้าเยี่ยมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจบิดามารดาของครูจูหลิง เป็นจำนวนมาก มาโดยตลอด
ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และครอบครัวปงกันมูล รู้สึกซาบซึ้ง ปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อช่วยเป็นค่าใช้จ่ายให้โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ดูแลรักษาครูจูหลิง และครอบครัวให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ จะทรงเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมอาการป่วยของ น.ส.จูหลิง นายสูน และนางคำมี ปงกันมูล บิดาและมาตรดาของ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล เปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมบุตรสาว ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลของครอบครัว โดยตนได้พยายามพูดคุยกับบุตรสาวให้ร่วมรับเสด็จฯในครั้งนี้ด้วย แม้ว่าจะยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม
สำหรับ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล หรือ “ครูจุ้ย” เป็นชาว จ.เชียงราย ได้ถูกกลุ่มชาวบ้านในละแวกโรงเรียนกูจิงลือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ น.ส.จูหลิง สอนหนังสืออยู่จับไปเป็นตัวประกัน และรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และถูกนำตัวมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จนถึงขณะนี้กว่า 3 เดือนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เวลา 15.30 น.ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้ออกแถลงการณ์อาการบาดเจ็บ น.ส.จูหลิง ฉบับที่ 114 ระบุว่า ครูจูหลิง ยังไม่รู้สึกตัว ไม่มีการตอบสนองของสมอง และก้านสมอง ม่านตาขยายกว้างไม่ตอบสนองต่อแสง สัญญาณชีพคงที่ ความดันโลหิตปกติ ชีพจรปกติ ไม่มีไข้ มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดจากการติดเชื้อ ครูจูหลิง ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตนเอง จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจควบคุมการหายใจทั้งหมด การแลกเปลี่ยนก๊าซปกติ สามารถรับอาหารทางสายยางได้เป็นปกติ ขับถ่ายปกติ ระดับเกลือแร่ในร่างกายปกติ
อาการโดยรวมคงที่ แต่แพทย์ต้องเคาะปอดเพื่อระบายเสมหะ และลดการอุดตันของปอด ให้ยาปฏิชีวนะรักษาภาวะปอดติดเชื้อ ใส่สายระบายน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด ที่สำคัญคือ แพทย์พยายามประคับประคองสัญญาณชีพของผู้ป่วยให้อยู่ในภาวะปกติ เพื่อรอการตอบสนองของสมองและก้านสมองต่อไป


