ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “พีพี ปริ๊นเซส” โรงแรมหรูระดับ 4 ดาว บนเกาะพีพี ที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิ พร้อมทุ่มเงินลงทุน 500 ล้าน ก่อสร้างโรงแรมใหม่ขนาด 79 ห้อง หลัง “สุวัจน์” ไฟเขียวให้โรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายบนพีพีก่อสร้างได้แล้ว เร่ง อบต.อ่าวนาง ออกใบอนุญาตก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ทันรับนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน มีนาคมปีหน้า
นายชาญณรงค์ เตชะรัชต์กิจ กรรมการผู้จัดการ โรงแรม พีพี ปริ๊นเซส รีสอร์ท และโรงแรม พีพี ชาลี บีช รีสอร์ท เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยถึงแผนการลงทุนฟื้นฟูโรงแรมทั้งสองแห่งที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สึนามิถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้การซ่อมแซมและก่อสร้างโรงแรมบนเกาะพีพี ที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิมีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว
ภายหลังจากที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลพื้นที่อันดามัน ได้ลงมาประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น เพื่อขจัดปัญหาที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการซ่อมแซม และก่อสร้างโรงแรมบนเกาะพีพี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2549 ได้ข้อสรุปว่า โรงแรมที่ประกอบการอยู่แล้วก่อนเกิดสึนามิ และมีใบอนุญาตประกอบการโรงแรม ที่ถูกต้องตามกฎหมายสามารถที่จะทำการก่อสร้างได้เลย
ในส่วนของโรงแรมพีพี ปริ๊นเซส และโรงแรมพีพี ชาลี บีช รีสอร์ท ทั้งสองแห่งนั้นมีความพร้อมในการก่อสร้างหมดแล้ว ทั้งในเรื่องของแบบการก่อสร้าง ที่ได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว และเงินลงทุนก็มีความพร้อมทั้งหมดแล้ว รอเพียงการอนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง และจังหวัดกระบี่ พิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างให้เท่านั้น ก็สามารถที่จะลงทุนก่อสร้างได้ทันที
นายชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนก่อสร้างโรงแรมนั้น ได้แบ่งการลงทุนก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส คือ เฟสแรกเป็นการก่อสร้างโรงแรมพีพี ปริ๊นเซส เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 79 ห้อง มี 2 อาคาร เป็นอาคาร 2 ชั้น สูง 9 เมตร เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างจากแนวถอยร่นในระยะ 30-50 เมตร ตามกฎหมายผังเมืองที่เกาะพีพีก่อสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 9 เมตร และก่อสร้างอาคารได้แค่ 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 75% ต้องเป็นพื้นที่สีเขียว ส่วนอาคารที่ 2 ซึ่งอยู่ในระยะถอยร่นเกิน 50 เมตร สร้างอาคารสูงได้ 12 เมตร หรือ 3 ชั้น มีพื้นที่ก่อสร้างได้ 40% และพื้นที่สีเขียว 60% ซึ่งอาคารที่ก่อสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้เกิดความแข็งแรง และความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นอีก
“การก่อสร้างเฟสแรกตามที่ออกไว้นั้น เมื่อรวมกับที่ดินแล้วจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งหากได้รับอนุญาตก่อสร้างจาก อบต.อ่าวนาง ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทางเราจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม-เมษายน 2550 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเมื่อโรงแรมแล้วเสร็จจะทำให้เกาะพีพีมีโรงแรมในระดับ 4 ดาว รองรับนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บนได้”
ส่วนเฟส 2 คือ การก่อสร้างโรงแรมพีพี ชาลี บีช รีสอร์ท นั้น ตามแบบที่ออกไปมีทั้งหมด 75 ห้อง ซึ่งขณะนี้ยังไม่กำหนดว่าจะก่อสร้างเมื่อใด จะต้องรอนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการโรงแรมพีพี ปริ๊นเซส ว่า มากน้อยแค่ไหน หากได้รับการตอบรับที่ดีจะก่อสร้างตามมาทันที ซึ่งคาดว่าในส่วนของพีพี ชาลี นี้ น่าที่จะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาทเช่นกัน เพราะจำนวนห้องพักใกล้เคียงกัน และโรงแรมทั้งสองแห่งตั้งอยู่ที่อ่าวโล๊ะดาลัมที่ดินมีราคาสูงมาก
“ขณะนี้ปัญหาต่างๆ ของเกาะพีพี ได้รับการแก้ไขไปแล้วกว่า 90% จากที่นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ มีนโยบายชัดเจนให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ดำเนินการก่อสร้างโรงแรมถูกต้องตามกฎหมายสามารถที่จะก่อสร้างโรงแรมได้เลย หลังจากนี้ ผู้ประกอบการจะได้ซ่อมแซมและก่อสร้างเร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับทาง อบต.อ่าวนาง และจังหวัดกระบี่ ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการนั้นพร้อมแล้วที่จะลงทุนฟื้นฟู เพราะที่ผ่านมาได้เสียโอกาสไปมากแล้ว และผู้ประกอบการรายอื่นก็เคลื่อนไหวที่จะลงทุนใหม่เช่นกันหากทางพีพี ปริ๊นเซสได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง” นายชาญณรงค์ กล่าวและว่า
นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการโรงแรมพีพี ปริ๊นเซสส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน จากกลุ่มสแกนดิเนเวีย อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เซาท์แอฟริกา ญี่ปุ่น และอิสราเอล เป็นต้น ซึ่งภายหลังจากที่ก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จทางโรงแรมจะทำตลาดในกลุ่มตลาดเดิม และคาดว่า ในช่วงปลายปีนี้นักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน จะเข้ามาท่องเที่ยวบนเกาะพีพีมากขึ้น
จากที่เมื่อปีที่แล้วนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน ที่มาพีพีน้อยมาก จากที่ไม่มีความพร้อมในเรื่องของโรงแรมระดับ 4-5 ดาวไว้รองรับ ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวระดับบนเข้ามาจะส่งผลดีต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของเกาะพีพีทั้งระบบ
สำหรับโรงแรมบนเกาะพีพี ที่เปิดให้บริการแล้วในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1,700 ห้อง ส่วนที่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมและก่อสร้างมีประมาณ 500-600 แห่ง