สุเมธ ปานเพชร
แวดาโอ๊ะ หะไร
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
การเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง 3 ฝ่ายของอำเภอรือเสาะ ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลสามัคคี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้สามารถตรวจยึดอาวุธปืนปลอมทำจากไม้ จำนวน 26 อัน และอาวุธปืนพกสั้นของเล่นพลาสติก จำนวน 4 กระบอก ปุ๋ยยูเรียอีก 1 ถุง และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา
อาวุธปืนปลอมดัดแปลงที่ถูกตรวจค้นพบ เป็นปืนไม้ที่ถูกทำขึ้นลักษณะรูปทรงคล้ายๆอาวุธปืนจริง ปืนจำลองของเล่นพลาสติกอีกจำนวนหนึ่ง และปุ๋ยยูเรีย เป็นอุปกรณ์สำคัญในการฝึกการใช้อาวุธเพื่อก่อเหตุลอบยิง ซุ่มโจมตี ประกอบระเบิดใช้ในการวางระเบิด และยุทธวิธีต่างๆ ในการโจมตี
ทั้งบริเวณสวนมะพร้าวและสวนผลไม้ท้ายหมู่บ้านอยู่ติดกับเชิงเขาบูโด เขตรอยต่อ อำเภอรือเสาะและอำเภอบาเจาะ ถูกปรับและดัดแปลงเป็นสถานที่สำหรับฝึกการใช้อาวุธปืนของแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ
การตรวจค้นยังสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถูกควบคุมตัว ในฐานะผู้สนับสนุนหรือกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1 ) เนื่องจากเป็นเจ้าของบ้านที่มีอาวุธปืนปลอมดังกล่าวเก็บซ่อนอยู่ ทั้งยังมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่า เป็นครูฝึกชุดอาร์เคเค ประจำพื้นที่อำเภอรือเสาะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทราบว่า เคยมีสายสัมพันธ์กับนายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหารายสำคัญที่ทางการต้องการตัว
ก่อนหน้าที่จะมีการเข้าตรวจค้น มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า กำลังทางทางทหารของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอรือเสาะ มีประมาณ 50 – 80 คน ทั้งยังมีกลุ่มแนวร่วมในหมู่บ้านที่มีอยู่ในหมู่บ้าน คอยให้การสนับสนุนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีแผนจะก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ของรัฐและสถานที่ราชการในเขตพื้นที่อำเภอรือเสาะและ อำเภอที่อยู่ใกล้เคียง
พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (รอง ผอ.ศปก.ตร.สน.) กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นและสามารถตรวจยึดอาวุธปืนปลอมเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นกรณีแรก ที่เราสามารถยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จุดดังกล่าวเป็นแหล่งฝึกใหญ่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ผ่านมาเราเคยจับกุมได้เพียงคนที่ยอมรับว่าอยู่ในชุดอาร์เคเค และพบเพียงสถานที่ที่เป็นร่องรอยการฝึก
ทั้งนี้ยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นเจ้าของบ้านหลังที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นพบอาวุธปืนปลอม โดยกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลอยู่ ซึ่งทางผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการขยายผลแต่อย่างใด
รอง ผอ.ศปก.ตร.สน. กล่าวอีกว่า จากหลักฐานที่ตรวจยึดมาได้รวมถึงพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่า จุดดังกล่าวเป็นแหล่งใหญ่ ในการฝึกกำลังที่ใช้ในการออกปฏิบัติการโจมตีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในเขตพื้นที่ดังกล่าว และตัวของผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว มีพฤติกรรมอยู่ในข่ายเป็นครูฝึกชุดอาร์เคเคประจำพื้นที่อำเภอรือเสาะ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มบุคคลที่มีส่วนร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอีกหลายราย มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงอีก ที่เคยก่อเหตุในหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำให้ยืนยันได้ชัดเจนขึ้น ว่า ในพื้นที่อำเภอรือเสาะ มีการลักลอบฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจริง โดยเฉพาะการฝึกของชุดอาร์เคเค (Runda Kumpulam Kecil : RKK) หรือ ชุดจรยุทธขนาดเล็ก ที่เคยถูกระบุอยู่บ่อยครั้งจากทางหน่วยงานความมั่นคงว่า เป็นชุดปฏิบัติทางทหารของผู้ก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุในพื้นที่ อย่างกรณีเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ออกปฏิบัติการลาดตระเวน ในหลายๆเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น
แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคง พบว่า ในการฝึกหลักสูตรอาร์เคเค เป็นการฝึกที่สำหรับสมาชิกที่ได้รับการคัดเลือก และผ่านการฝึกในขั้นต้นมาแล้ว เป็นการฝึกตามหลักสูตรที่มีระบบและผู้เข้ารับการฝึกต้องฝึกติดต่อกันทุกวันจนครบ 1 เดือน เป็นหลักสูตรจรยุทธขนาดเล็ก มีกำลังต่อชุด 6 คน แต่ละคนจะมีหน้าที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย หัวหน้าชุด 1 คน รองหัวหน้าชุด 1 คน ดูต้นทาง 1 คน สื่อสาร/ พยาบาล 1 คน และ ผู้ปฏิบัติการ 2 คน จะฝึกทางด้านภาค ปฏิบัติในช่วงเวลากลางคืนเป็นหลัก ส่วนกลางวัน จะเป็นการสอนทฤษฎีการรบแบบต่างๆ ตลอดจนการฝึกสาธิตการต่อวงจรระเบิด สูตรผสมระเบิดเพลิง ในระหว่างการฝึกจะมีการคัดเลือกหัวหน้าชุดไปในตัว
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้รับการฝึกครบตามหลักสูตร จะถูกส่งไปฝึกร่วมปฏิบัติการจริงกับทางชุดปฏิบัติการ เคยผ่านการฝึกและก่อเหตุมาหลายๆครั้ง เพื่อก่อเหตุลอบยิง วางระเบิด โดยผู้ฝึกจบหลักสูตรใหม่ๆ จะได้รับมอบหน้าที่ง่ายๆอย่าง ดูต้นทาง ขับรถจักรยาน ยนต์ และชี้เป้าหมาย ก่อนจะได้ออกก่อเหตุจริงอยู่เช่นนี้ประมาณ 5 – 6 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อผ่านเกณฑ์ก็จะมาประกอบกันขึ้นเป็นชุดปฏิบัติการอาร์เคเค เพื่อปฏิบัติการจริงในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
การเข้าค้นตรวจยึดอุปกรณ์ในการฝึกและพบสถานที่ฝึก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเห็นรูปเห็นร่าง และโครงสร้างในการฝึกสมาชิกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่เคยเข้าตรวจค้นพบแต่เพียงสถานที่ใช้เป็นสถานที่ฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่หลักฐานต่างๆ ไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้ชัดว่า สถานที่เหล่านั้นเป็นที่ฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจริง ถือว่าเป็นกรณีแรกที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอจะยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มีหลักสูตรในการฝึกทางด้านยุทธวิธีในการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐจริงๆ
แวดาโอ๊ะ หะไร
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
การเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง 3 ฝ่ายของอำเภอรือเสาะ ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลสามัคคี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้สามารถตรวจยึดอาวุธปืนปลอมทำจากไม้ จำนวน 26 อัน และอาวุธปืนพกสั้นของเล่นพลาสติก จำนวน 4 กระบอก ปุ๋ยยูเรียอีก 1 ถุง และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา
อาวุธปืนปลอมดัดแปลงที่ถูกตรวจค้นพบ เป็นปืนไม้ที่ถูกทำขึ้นลักษณะรูปทรงคล้ายๆอาวุธปืนจริง ปืนจำลองของเล่นพลาสติกอีกจำนวนหนึ่ง และปุ๋ยยูเรีย เป็นอุปกรณ์สำคัญในการฝึกการใช้อาวุธเพื่อก่อเหตุลอบยิง ซุ่มโจมตี ประกอบระเบิดใช้ในการวางระเบิด และยุทธวิธีต่างๆ ในการโจมตี
ทั้งบริเวณสวนมะพร้าวและสวนผลไม้ท้ายหมู่บ้านอยู่ติดกับเชิงเขาบูโด เขตรอยต่อ อำเภอรือเสาะและอำเภอบาเจาะ ถูกปรับและดัดแปลงเป็นสถานที่สำหรับฝึกการใช้อาวุธปืนของแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ
การตรวจค้นยังสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถูกควบคุมตัว ในฐานะผู้สนับสนุนหรือกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1 ) เนื่องจากเป็นเจ้าของบ้านที่มีอาวุธปืนปลอมดังกล่าวเก็บซ่อนอยู่ ทั้งยังมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่า เป็นครูฝึกชุดอาร์เคเค ประจำพื้นที่อำเภอรือเสาะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทราบว่า เคยมีสายสัมพันธ์กับนายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหารายสำคัญที่ทางการต้องการตัว
ก่อนหน้าที่จะมีการเข้าตรวจค้น มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า กำลังทางทางทหารของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอรือเสาะ มีประมาณ 50 – 80 คน ทั้งยังมีกลุ่มแนวร่วมในหมู่บ้านที่มีอยู่ในหมู่บ้าน คอยให้การสนับสนุนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีแผนจะก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ของรัฐและสถานที่ราชการในเขตพื้นที่อำเภอรือเสาะและ อำเภอที่อยู่ใกล้เคียง
พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (รอง ผอ.ศปก.ตร.สน.) กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นและสามารถตรวจยึดอาวุธปืนปลอมเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นกรณีแรก ที่เราสามารถยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จุดดังกล่าวเป็นแหล่งฝึกใหญ่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ผ่านมาเราเคยจับกุมได้เพียงคนที่ยอมรับว่าอยู่ในชุดอาร์เคเค และพบเพียงสถานที่ที่เป็นร่องรอยการฝึก
ทั้งนี้ยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นเจ้าของบ้านหลังที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นพบอาวุธปืนปลอม โดยกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลอยู่ ซึ่งทางผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการขยายผลแต่อย่างใด
รอง ผอ.ศปก.ตร.สน. กล่าวอีกว่า จากหลักฐานที่ตรวจยึดมาได้รวมถึงพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่า จุดดังกล่าวเป็นแหล่งใหญ่ ในการฝึกกำลังที่ใช้ในการออกปฏิบัติการโจมตีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในเขตพื้นที่ดังกล่าว และตัวของผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว มีพฤติกรรมอยู่ในข่ายเป็นครูฝึกชุดอาร์เคเคประจำพื้นที่อำเภอรือเสาะ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มบุคคลที่มีส่วนร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอีกหลายราย มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงอีก ที่เคยก่อเหตุในหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำให้ยืนยันได้ชัดเจนขึ้น ว่า ในพื้นที่อำเภอรือเสาะ มีการลักลอบฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจริง โดยเฉพาะการฝึกของชุดอาร์เคเค (Runda Kumpulam Kecil : RKK) หรือ ชุดจรยุทธขนาดเล็ก ที่เคยถูกระบุอยู่บ่อยครั้งจากทางหน่วยงานความมั่นคงว่า เป็นชุดปฏิบัติทางทหารของผู้ก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุในพื้นที่ อย่างกรณีเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ออกปฏิบัติการลาดตระเวน ในหลายๆเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น
แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคง พบว่า ในการฝึกหลักสูตรอาร์เคเค เป็นการฝึกที่สำหรับสมาชิกที่ได้รับการคัดเลือก และผ่านการฝึกในขั้นต้นมาแล้ว เป็นการฝึกตามหลักสูตรที่มีระบบและผู้เข้ารับการฝึกต้องฝึกติดต่อกันทุกวันจนครบ 1 เดือน เป็นหลักสูตรจรยุทธขนาดเล็ก มีกำลังต่อชุด 6 คน แต่ละคนจะมีหน้าที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย หัวหน้าชุด 1 คน รองหัวหน้าชุด 1 คน ดูต้นทาง 1 คน สื่อสาร/ พยาบาล 1 คน และ ผู้ปฏิบัติการ 2 คน จะฝึกทางด้านภาค ปฏิบัติในช่วงเวลากลางคืนเป็นหลัก ส่วนกลางวัน จะเป็นการสอนทฤษฎีการรบแบบต่างๆ ตลอดจนการฝึกสาธิตการต่อวงจรระเบิด สูตรผสมระเบิดเพลิง ในระหว่างการฝึกจะมีการคัดเลือกหัวหน้าชุดไปในตัว
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้รับการฝึกครบตามหลักสูตร จะถูกส่งไปฝึกร่วมปฏิบัติการจริงกับทางชุดปฏิบัติการ เคยผ่านการฝึกและก่อเหตุมาหลายๆครั้ง เพื่อก่อเหตุลอบยิง วางระเบิด โดยผู้ฝึกจบหลักสูตรใหม่ๆ จะได้รับมอบหน้าที่ง่ายๆอย่าง ดูต้นทาง ขับรถจักรยาน ยนต์ และชี้เป้าหมาย ก่อนจะได้ออกก่อเหตุจริงอยู่เช่นนี้ประมาณ 5 – 6 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อผ่านเกณฑ์ก็จะมาประกอบกันขึ้นเป็นชุดปฏิบัติการอาร์เคเค เพื่อปฏิบัติการจริงในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
การเข้าค้นตรวจยึดอุปกรณ์ในการฝึกและพบสถานที่ฝึก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเห็นรูปเห็นร่าง และโครงสร้างในการฝึกสมาชิกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่เคยเข้าตรวจค้นพบแต่เพียงสถานที่ใช้เป็นสถานที่ฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่หลักฐานต่างๆ ไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้ชัดว่า สถานที่เหล่านั้นเป็นที่ฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจริง ถือว่าเป็นกรณีแรกที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอจะยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มีหลักสูตรในการฝึกทางด้านยุทธวิธีในการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐจริงๆ