xs
xsm
sm
md
lg

ไฟใต้ไม่กระทบพระบวชใหม่ครบ 88 วัดปัตตานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

“เข้าพรรษา” แปลว่า “พักฝน” วันเข้าพรรษาจึงเป็นวันที่พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน ทั้งนี้ ตามพุทธประวัติระบุว่า ภิกษุในสมัยพุทธกาลจาริกโปรดสัตว์ เผยแผ่พระธรรมแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำแม้ในฤดูฝน จึงถูกชาวบ้านตำหนิว่าไปเหยียบพืชผลเสียหาย พระพุทธองค์จึงทรงกำหนดให้ภิกษุจำพรรษาประจำที่ตลอด 3 เดือนในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี

แต่ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระจำเป็นไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ในวันเดียว ก็อนุญาตให้ค้างแรมได้ แต่คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืนเรียกว่า สัตตาหะ หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา โดยถือว่าพรรษาขาด

เรื่องราวในวันเข้าพรรษาเป็นที่มาของ การสร้างที่อยู่ของสงฆ์ คือ วิหาร และอาราม กล่าวคือ เมื่อพระสงฆ์เดินก่อนเข้าพรรษาแล้วไม่ทันเข้าชุมชน ก็ต้องใช้โคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นภิกษุได้รับความลำบาก จึงช่วยกันปลูกเพิงพักเพื่อให้พระได้อาศัยหลบฝนรวมกันหลายๆ องค์ ซึ่งเรียกว่า “วิหาร” และบางแห่งมีศรัทธาชนก็จะสร้างที่อยู่ของสงฆ์ซึ่งเรียกว่า “อาราม”

สำหรับพื้นที่จังหวัดปัตตานี จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีวัดวาอารามกระจายตามอำเภอต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุความไม่สงบ ทั้งยังเคยมีเหตุทำร้ายพระภิกษุและวัดมาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีพระบวชใหม่ในวันเข้าพรรษาเช่นทุกปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ สื่อมวลชนรายงานข่าวโดยระบุว่า 88 วัดในจังหวัดปัตตานี มีพระจำพรรษาครบทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นพระในพื้นที่

พระครูบุญสารโสภิต เจ้าอาวาสวัดมะปริงวารีราม ต.จะรัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี กล่าวถึงพระที่บวชใหม่ในวันเข้าพรรษาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับวัดและพระที่บวชใหม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับวัด ซึ่งเหตุที่เกิดนั้นมักจะเกิดขึ้นบริเวณรอบนอกของวัด

“เหตุการณ์มันก็คือเหตุการณ์ อย่าไปวิตกอะไรมากนัก เพราะถ้าวิตกมากไปมันก็เครียด และทำให้ไม่สบายเปล่าๆ ซึ่งถ้ามีความวิตกมากเท่าไหร่ก็เครียดมากเท่านั้น”

ในช่วงเข้าพรรษาในแต่ละปีนั้น พระที่เข้ามาบวชใหม่นั้นก็มีบ้าง ไม่มีบ้าง ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ที่ทำให้ไม่มีคนมาบวช เพียงแต่ผู้ที่จะมาบวชนั้นอาจจะไม่ยังไม่สะดวกบวชก็เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันในวัดมีพระทั้งสิ้น 2 รูป และมีพระมาอยู่จำพรรษาอีก 2 รูป และพระใหม่ 1 รูป รวมเป็นทั้งหมด 5 รูป โดยที่พระที่มาบวชใหม่นั้นก็เป็นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกวัดเองไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าอาวาสองค์เดิมกล่าว

เรื่องของการที่มีพระใหม่เข้ามาบวชนั้นคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นในเรื่องการมาวัดของชาวบ้านที่อยู่ในเมือง ในเรื่องของการทำบุญ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นส่งผลกระทบในเรื่องของการถวายเทียนพรรษาต่างหาก เพราะปัจจุบันนั้นน้อยนักที่จะมีญาติโยมมาทำบุญจากพื้นที่ไกลๆ แต่ก็ยังดีที่มีชาวบ้านในอยู่ในพื้นที่เป็นผู้ดูแลแทบทุกเรื่องในวัด

“ก็ได้ชาวบ้านในหมู่บ้านเข้ามาดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เพราะทุกวันนี้ไม่ได้ออกบิณฑบาต ส่วนหนึ่งคงเกิดจากเรื่องของเหตุการณ์ด้วย และชาวบ้านก็กลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยในตัวของพระเองด้วย”

ด้านพระครูสมุห์ภิรมณ์ เจ้าอาวาสวัด วัดสันติการาม ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันนี้มีพระใหม่มาจำพรรษาทั้งหมด 3 รูป แต่มีพระที่ประจำอยู่แล้ว 2 รูป และคิดว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ใช่เหตุผลใหญ่ในการอุปสมบทของพระใหม่ในวันเข้าพรรษา

“คงไม่มีอะไรผิดไปจากช่วงเข้าพรรษา เราก็มีพระบวชใหม่มาประจำวัด และก็มีการปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างปกติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงมีผลกระทบบ้างในบางเรื่อง แต่เรื่องของความเลื่อมใสของผู้ที่เข้ามาบวชเพื่อจำพรรษานั้นคงไม่มีผลกระทบ”

แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ ทำบุญรักษาศีลและชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่นๆ พอถึงวันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรมและรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคนอาจตั้งใจงดเว้น อบายมุขต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลาน ของตนโดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์อย่างสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น