ผวจ.ยะลายัวะจัดเหตุบึ้มโอเกะกลางเมือง - อัดมาตรการ รปภ.ของโรงแรมหละหลวม

ยะลา – ผู้ว่าฯ ยะลายัวะจัดเหตุคนร้ายวางระเบิดคาราโอเกะในโรงแรมกลางเมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 2 ราย อัดมาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงแรมหละหลวมทั้งที่มีการประชุมไปแล้ว พบระเบิดที่ใช้จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ น้ำหนักไม่น้อยกว่า 15 กิโลกรัม

กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดคาราโอเกะ ในโรงแรมกลางเมืองยะลา โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ซึ่ง ร.ต.ต.วีระกิจ แก้วนวลจริง ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดภายในร้านคาราโอเกะ โรงแรมยะลารามา ถ.ศรีบำรุง ในเขตเทศบาลนครยะลา หลังได้รับแจ้งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จว.ยะลา ชุดเก็บกู้ระเบิด ศปก.ตร.สน.ยะลา และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุพบเป็นห้องวีไอพีของรามาคาราโอเกะ ใต้ถุนโรงแรมยะลารามา ซึ่งอยู่ติดกับถนนใหญ่ ถูกแรงระเบิดเสียหายเป็นแถบ ผนังทะลุเป็นรูโบ๋กว้าง เศษกระจกแตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ มีเศษสะเก็ดระเบิดปลิวออกมาบนถนนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพราะเกรงว่าจะมีระเบิดลูกที่ 2 ซุกซ่อนอยู่

สภาพภายในร้าน พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย ถูกสะเก็ดระเบิดร่างเละ ในสภาพการแต่งกายนุ่งกางเกงขาสั้น ยังไม่ทราบชื่อเป็นใครมาจากไหน ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อนางเครือวัลย์ ยึดมั่น อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 4 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และนางสาวนิชาภา ชนิติภูมิ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/16 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี ทั้งสองถูกสะเก็ดระเบิดตามลำตัวบาดเจ็บสาหัส

โดยจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บเข้าไปใช้บริการก่อนเกิดเหตุประมาณ 30 นาที โดยก่อนใช้บริการ ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องวีไอพี ปิดประตูไว้ โดยพนักงานมาเปิดให้กับผู้ตายเป็นรายแรก จึงเข้าใจว่าคนร้ายลอบวางระเบิดก่อนหน้านี้แล้ว โดยคนร้ายได้ลอบวางระเบิดไว้ใต้เบาะนั่งของผู้ใช้บริการ ตรวจอย่างละเอียดพบชิ้นส่วนของระเบิดชนิดแสวงเครื่อง มีเศษของนาฬิกาแบบดิจิตอลแตกกระจายอยู่ด้วย จึงเชื่อว่าเป็นระเบิดที่ใช้นาฬิกาเป็นเครื่องจุดชนวน น้ำหนักไม่น้อยกว่า 15 กิโลกรัม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เกิดอารมณ์เสียอย่างรุนแรง ถึงกับต่อว่าเจ้าของโรงแรมอย่างหนัก เนื่องจากไม่พอใจระบบการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในการตรวจตราผู้ที่เข้าออก เพราะเพิ่งประชุมผู้ประกอบสถานบริการและเจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเมื่อตอนบ่าย แต่ก็มาเกิดเหตุจากการประมาทไม่ตรวจตราผู้มาใช้บริการในสถานบันเทิงอย่างเข้มงวด