กระบี่ - หนุ่มใจเด็ด เหยียบจมูกตำรวจ บุกปล้นร้านทองห้างจากหน้าโรงพักประมาณ 50 เมตร ตำรวจรวบทันควัน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2549 พ.ต.ต.ประจักร รอดการทุกข์ สาวัตรเวร สภ.อ.เขาพนม จ.กระบี่ ได้รับแจ้งมีเหตุปล้นร้านทองบริเวณ ม.5 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ บุญนัดดา ผกก.สภ.อ.เขาพนม และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวชั้นเดียวอยู่ใจกลางชุมชน พบเจ้าของร้านทอง และพลเมืองดี กำลังปลุกปล้ำกับคนร้ายกันอย่างชุลมุน จึงได้เข้าไปช่วยจับคนร้ายไว้ได้ พร้อมด้วยของกลางทองรูปพรรณจำนวนมาก และอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุหลายรายการ
จากการสอบสวน นางสาวนฤมล แพรกปาน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.5 ต.เขาพนม อ.เขาพนม เจ้าของร้านทองศรีสุข ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายจำนวน 1 คน ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แบบผู้ชายสีดำ-เขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่ข้างร้าน พร้อมกับพรางใบหน้าด้วยการใส่หมวกไหมพรมสีเขียว ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ พร้อมกับถือค้อนลักษณะคล้ายคนงานก่อสร้างไว้ที่มือซ้าย เมื่อจอดรถก็วิ่งเข้ามาภายในร้านพร้อมกับชักอาวุธปืนออกมา และขู่ให้ตนอยู่เฉยๆ พร้อมกับใช้ค้อนที่ถือมาทุบกระจกที่อยู่ข้างขวา ซึ่งข้างในมีสร้อยทองรูปพรรณห้อยโชว์อยู่เป็นจำนวนมาก
หลังจากที่ทุบกระจกแตกคนร้ายก็ได้กวาดทองใส่ในกระเป๋าเตรียมมาอย่างใจเย็น เมื่อเต็มกระเป๋าคนร้ายก็ได้วิ่งออกจากร้าน ก็ได้เรียกให้เพื่อนบ้านช่วยพร้อมวิ่งตามคนร้าย ขณะที่คนร้ายกำลังขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างร้าน เพื่อหลบหนี นางสาวนฤมล ก็ได้กระโดดผลักคนร้ายจนตกจากรถ ปลุกปล้ำกับคนร้ายเพื่อแย่งทองกลับคืนมา โดยมี นายวันชัย ทองเกลี้ยง เจ้าของร้านถ่ายรูปที่อยู่ติดกันได้เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้คนร้ายก็ได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกันเล็งมาที่ นางนฤมล พร้อมลั่นกระสุน แต่ถูกนายวันชัย จับปืนไว้ได้ทันทำให้วิถีกระสุนเปลี่ยนทางจึงไม่ได้ทำให้ผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้กรูกันเข้าไปช่วยแย่งปืนจนสามารถจับตัวคนร้ายไว้ได้ พร้อมด้วยทองรูปพรรณที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าสะพาย หนักประมาณ 1 กิโลกรัม ค้อน ถุงมือ กระสุนปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 นัด ทราบชื่อคนร้ายต่อมา นายชวน คำแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 8 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม โดยคนร้ายได้สารภาพว่า สาเหตุที่ต้องบุกปล้นร้านทองในครั้งนี้ ก็เนื่องจากว่าที่ผ่านมาตนและพ่อแม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนข้างเคียงมาตลอด โดยที่ผ่านมาตนถูกจับคดีฆ่าคนตาย และพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต พ่อแม่ตนก็ได้วิ่งเต้นกับบุคคลต่างๆ ที่อ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนต้องขายสวนยางพาราหลายสิบไร่ เพื่อหาเงินมาประกันตน แต่สุดท้ายตนก็ต้องติดคุก และเงินที่ได้ขายที่ดินไปก็ถูกโกงไปจนหมด ทำให้ตนคับแค้นใจ จึงต้องมาปล้นร้านทองดังกล่าว เพื่อนำทองที่ได้จากการปล้นไปขายแล้วนำเงินมาคืนพ่อแม่
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ และอีกหลายข้อหา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ต่อมา ทาง พล.ต.ต.เสริมพันธ์ สิงห์ทอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ ได้เดินทางมาสอบสวนคนร้ายด้วยตนเอง พร้อมกับสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มความเข้มงวดกวดขัน การออกตรวจเวรยาม โดยเฉพาะตามร้านทองซึ่งเป็นสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร้านทองดังกล่าวอยู่ในเขตชุมชน และอยู่กันคนละฟากถนนกับ สภ.อ.เขาพนม ขณะที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าประชุมประจำเดือนอยู่บนโรงพัก มีเพียงตำรวจสายตรวจเท่านั้นที่ออกปฏิบัติหน้าที่ แต่ขณะที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลิกประชุมพอดี จึงได้กรูกันเข้ามาช่วยจนสามารถจับคนร้ายไว้ได้