ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต เตรียมย้อนรอยประวัติศาสตร์โคกชนะพม่า จัดงานสมโภช ย่ามุก-ย่าจัน สองวีรสตรีภูเก็ตอย่างยิ่งใหญ่ พบการแสดงแสง สี เสียงยิ่งใหญ่ 11 – 13 มีนาคมนี้
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวถึงการจัดงานท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11-13 มี.ค.2549 ว่า การจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเทิดทูนเกียรติและรำลึกถึงคุณงามความดีของท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทรแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูแหล่งประวัติศาสตร์อนุสรณ์สถานถลางชนะศึก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของ จ.ภูเก็ต ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่า จะมีประชาชนชาวภูเก็ต จังหวัดใกล้เคียงตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมชมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กำหนดจัดโครงการท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ระหว่างวันที่ 11 – 13 มี.ค.2549 ณ บริเวณโคกชนะพม่า ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง ในปีนี้จะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการฟื้นฟูแหล่งประวัติศาสตร์ 6 แห่ง โครงการอุปสมบทหมู่ โครงการแข่งขันกีฬาบนเส้นทางประวัติศาสตร์ โครงการบวงสรวงปู่ย่าตายายบรรพชนถลาง โดยในส่วนของ อบจ.ภูเก็ต รับเป็นเจ้าภาพการจัดงานสมโภชจะมีการแสดง แสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร วันละหนึ่งรอบตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป รอบละ 2,000 ที่นั่ง โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชม ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
อาจารย์สาวิตร พงศ์วัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เปิดเผยว่า Hi Light ของงานทั้งสามวัน คือ การแสดง แสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ซึ่งใช้ผู้แสดงกว่า 500 คน โดยใช้ชื่อชุดการแสดงว่าวีรสตรีศรีถลาง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงอีก 2 ชุด คือ ชุดเทิดเกียรติท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และชุดฉลองรัตนโกสินทร์
อาจารย์สาวิตร กล่าวอีกว่า การแสดง แสง สี เสียงในปีนี้จะมีความพิเศษมากกว่าปีที่ผ่านมาๆ ทั้งบทละคร และฉากจำลองเมือง โดยในส่วนของบทละครนั้น จะย้อนประวัติศาสตร์ความสันติสุขของเมืองถลาง ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง พระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสิน จนกระทั่งเข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ซึ่งในครั้งนั้นได้เกิดสงครามเก้าทัพ แต่เมืองถลางก็ยังคงรักษาผืนแผ่นดินไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
นอกจากนี้ ในส่วนของการเตรียมเวทีและการจำลองเมืองนั้น กลุ่มศิลปินภูเก็ตก็พยายามที่จะเนรมิตให้เหมือนสมัยนั้นให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร พระบรมราชวัง วัดพระนางสร้าง ค่ายพม่า และคลองอู่ตะเภา
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวถึงการจัดงานท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11-13 มี.ค.2549 ว่า การจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเทิดทูนเกียรติและรำลึกถึงคุณงามความดีของท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทรแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูแหล่งประวัติศาสตร์อนุสรณ์สถานถลางชนะศึก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของ จ.ภูเก็ต ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่า จะมีประชาชนชาวภูเก็ต จังหวัดใกล้เคียงตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมชมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กำหนดจัดโครงการท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ระหว่างวันที่ 11 – 13 มี.ค.2549 ณ บริเวณโคกชนะพม่า ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง ในปีนี้จะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการฟื้นฟูแหล่งประวัติศาสตร์ 6 แห่ง โครงการอุปสมบทหมู่ โครงการแข่งขันกีฬาบนเส้นทางประวัติศาสตร์ โครงการบวงสรวงปู่ย่าตายายบรรพชนถลาง โดยในส่วนของ อบจ.ภูเก็ต รับเป็นเจ้าภาพการจัดงานสมโภชจะมีการแสดง แสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร วันละหนึ่งรอบตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป รอบละ 2,000 ที่นั่ง โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชม ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
อาจารย์สาวิตร พงศ์วัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เปิดเผยว่า Hi Light ของงานทั้งสามวัน คือ การแสดง แสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ซึ่งใช้ผู้แสดงกว่า 500 คน โดยใช้ชื่อชุดการแสดงว่าวีรสตรีศรีถลาง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงอีก 2 ชุด คือ ชุดเทิดเกียรติท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และชุดฉลองรัตนโกสินทร์
อาจารย์สาวิตร กล่าวอีกว่า การแสดง แสง สี เสียงในปีนี้จะมีความพิเศษมากกว่าปีที่ผ่านมาๆ ทั้งบทละคร และฉากจำลองเมือง โดยในส่วนของบทละครนั้น จะย้อนประวัติศาสตร์ความสันติสุขของเมืองถลาง ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง พระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสิน จนกระทั่งเข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ซึ่งในครั้งนั้นได้เกิดสงครามเก้าทัพ แต่เมืองถลางก็ยังคงรักษาผืนแผ่นดินไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
นอกจากนี้ ในส่วนของการเตรียมเวทีและการจำลองเมืองนั้น กลุ่มศิลปินภูเก็ตก็พยายามที่จะเนรมิตให้เหมือนสมัยนั้นให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร พระบรมราชวัง วัดพระนางสร้าง ค่ายพม่า และคลองอู่ตะเภา