ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ‘ทักษิณ’ ยอมลงตรวจปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ก่อนกำหนด พร้อมเรียกประชุมผู้ว่าฯ ภาคใต้ตอนล่างทันที ด้าน ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือชี้แจงความเสียหายของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (23 ธ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง หัวหน้าส่วนราชการ และ ส.ส.ในพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาน้ำท่วม และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
โดยในการประชุมครั้งนี้ นายวินัย เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการติดตามผลการปฏิบัติตามมติของสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือที่แสดงรายละเอียดถึงความเดือดร้อนของราษฎรในจังหวัดสงขลา และขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าวได้ชี้แจงว่า ตามที่ได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.จนถึงเดือนธันวาคม อันเนื่องมาจากฝนตกหนัก แม้ฝนจะทิ้งช่วงไปในบางวันนั้นปรากฏว่าได้สร้างความเสียหายให้แก่ราษฎรในพื้นที่โดยรวมในหลายจังหวัดซึ่งได้เกิดความเสียหายประกอบด้วย
1.เกิดน้ำท่วมขังนาข้าว นากุ้งได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง เช่น ใน อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอำเภออื่นๆ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ
2.สัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย สุกร เป็ด หรือสัตว์ปีกอื่นๆ ทยอยล้มตายเนื่องจากขาดอาหาร ไม่มีที่อยู่ เนื่องจากเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานานในหลายจังหวัด
3.เกษตรกรผู้ทำอาชีพสวนยาง และสวนอื่นๆ ได้รับความเสียหาย ต้นยางล้ม ปลูกแทนหรือนำมาใช้ประโยชน์ไม่ได้ ขาดการกรีดยางในช่วงพายุฝน ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีเงินที่จะนำมาเลี้ยงครอบครัวได้เป็นระยะเวลานานร่วม 1 เดือนมาแล้ว และยังไม่แน่ใจว่าจะกลับมากรีดยางได้เมื่อใด
4.ราษฎรที่ค้าขายในเมือง เช่น หาดใหญ่ หรือในเขตเมืองอื่นๆ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้
5.ปัญหาอื่นๆ ที่ตามมาหลังน้ำลด เช่น ในบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังยาวนานโดยเฉพาะบริเวณอำเภอ และจังหวัดโดยรอบทะเลสาบสงขลา บางพื้นที่น้ำจะลดภายใน 10 วัน แต่บางพื้นที่ เช่น อ.ระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ หรือสิงหนคร คาดว่า ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 20 วัน ถึง 1 เดือน
โดยประธานกรรมาธิการติดตามผลการปฏิบัติตามมติของสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดการแก้ปัญหาในเบื้องต้นและระยะยาว เช่น การให้ความช่วยเหลือในเรื่องอาหารสัตว์ โดยเฉพาะหญ้าแห้งที่ต้องจัดหามาให้อย่างเพียงพอจนกว่าประชาชนจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลจัดซื้อโค-กระบือ และสุกร ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด หรือแล้วแต่ความสมัครใจของราษฎรว่าจะขายหรือไม่ เพราะจากการดูจากสภาพในขณะนี้พบว่าเกษตรกรบางรายไม่อยู่ในความสามารถที่จะดูแลสัตว์เหล่านั้นได้
ส่วนในการช่วยเหลือเรื่องนากุ้ง บ่อปลานาข้าว และชาวสวนยาง หรืออาชีพอื่นๆ ที่ยังมีการใช้กฎเกณฑ์เดิม เช่น เรื่องการจ่ายค่าชดเชยที่มีราคาถูกมาก เช่น นากุ้ง ช่วยเหลือไร่ละประมาณ 3,500–3,700 บาท และไม่เกิน 5 ไร่ ซึ่งนับว่าถูกมาก รวมทั้งในบางกรณีรัฐบาลควรมีการช่วยเหลือเป็นเงินสด เพื่อความสะดวกและรวดเร็วทันต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งควรมีการจัดเตรียมงานหรืออาชีพไว้รองรับหลังน้ำลดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ในขณะนี้ระดับน้ำในหลายพื้นที่ได้ลดลงแล้ว แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังในระดับสูง เช่น จ.พัทลุง ส่วนความเสียหายอื่นๆ เช่น บ้านเรือนประชาชน พบว่า เสียหาย 750,000 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 24 ราย และพบว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มทยอยตายเพราะขาดอาหาร
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้รีบให้ความช่วยเหลือกับประชาชนในเรื่องเฉพาะหน้าก่อน และหลังจากที่น้ำลดลงแล้ว จะต้องมีการเข้าไปดุแลในเรื่องของสุขอนามัย โดยเฉพาะการจัดหาห้องสุขาให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ส่วนการซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน หากพบว่ามีความเสียหาย ก็อาจให้ใช้บ้านแบบน็อกดาวน์ไปก่อนได้ ส่วนการซ่อมแซมถนนภายหลังน้ำลดให้รีบดำเนินการทันที
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับเรื่องการขุดคลอง ร.1 ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่ยังคงล่าช้า หากยังไม่แล้วเสร็จจะให้มีการใช้กำลังทหารเข้ามาช่วยขุดเปิดทางน้ำ ทั้งนี้หลังจากที่ประชุมเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะจะเดินทางไปที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์การแก้ปัญหาน้ำท่วมต่อไป