ศูนย์อิศรา - มิใช่รัฐเพียงฝ่ายเดียว ที่พยายามคิดกลวิธี 108 มาจูงใจให้เยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นชายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นเกราะป้องกันมิให้ถูกฝ่ายตรงข้ามรัฐชักจูงเข้าสู่สิ่งที่ไม่ดี แต่ชาวบ้านและวัยรุ่นบ้านเจาะกลาดี เขต อ.ยะหา จ.ยะลา และอีกหลายหมู่บ้านในจังหวัดชายแดนใต้ ใช้เวลาว่างโดยการรวมกลุ่มเล่น “แกแร” กีฬาซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในชุมชนมุสลิมใต้
นอกจากการเลี้ยงนกกรงหัวจุกและนกเขาแล้ว คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมักนิยมเล่นหมากฮอส และเกมที่เรียกกันว่า “แกแร” ตามร้านน้ำชาหรือศาลาที่มีการรวมกลุ่มของชุมชนในหมู่บ้าน
“อับดุลเลาะห์ เลาะมิ” เจ้าของโต๊ะเกมแกแร วัย 43 ปี บ้านเจาะกลาดี ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา เล่าให้ฟังว่า เกมแกแรมีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองเมกกะ ประเทศอาหรับ หรือซาอุดีอาระเบียในปัจจุบัน โดยเกมชนิดนี้จะเป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งมีอายุ 27 ปีขึ้นไป ส่วนกลุ่มเด็กวัยรุ่นไม่ค่อยให้ความสนใจเกมนี้สักเท่าใดนัก
เกมแกแรมักจะถูกนำมาเล่นในงานเลี้ยง งานแต่งงาน เพื่อเป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอฝ่ายเจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาวที่บ้าน ซึ่งในภูมิภาคนี้ประเทศ มาเลเซียเป็นผู้นำ “ แกแร” มาเผยแพร่เป็นแห่งแรก
ต่อมาคนไทยที่เข้าไปรับจ้างทำงานในประเทศมาเลเซีย ได้เห็นและนำเกมแกแรมาเผยแพร่ ในภาคใต้ ซึ่งได้รับความสนใจจากคนใน 3 จังหวัดเป็นอย่างมาก ทั้งในกลุ่มเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ขณะที่ชาวมาเลย์สูงอายุ กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับเกมนี้มากนัก
“อับดุลเลาะห์” เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วเขาและภรรยาได้เดินทางเข้าไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย และเห็นเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมีทั้งเด็กเล็กและวัยรุ่น ตั้งวงล้อมรอบส่งเสียงดังไปทั้งซอย จึงได้เข้าไปดูใกล้ๆ และถามเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มว่า “กำลังเล่นอะไร” ซึ่งเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นตอบว่า กำลังเล่น “ไคโร” ซึ่งก็คือ “แกแร” ซึ่งดูแล้วพบว่า น่าสนใจเพราะเล่นไม่ยาก จึงจำกลับมาเล่นในชุมชนตัวเอง
ทั้งนี้ การเล่นไคโร หรือ แกแร ใช้อุปกรณ์ คือ ลูกแกแร ซึ่งมีลักษณะเป็นกลมแบนทำด้วยพลาสติก เล่นบนกระดานไม้อัดสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง 100 คูณ 100 เป็นสนามประลอง แต่ละมุมมีหนึ่งหลุม ซึ่งกระดานไม้ดังกล่าวจะมีการเขียนพื้นด้วยลวดลายสวยงาม ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมีลูกแกแรฝ่ายละ 9 ลูก แบ่งข้างกันชัดเจนระหว่างสีดำและเหลือง ส่วนตัวแม่จะมีสีแดงเพียงหนึ่งตัว และลูกแกแรสีน้ำเงิน หรือ โกล จะถือเป็นลูกที่ให้คะแนน
ส่วนวิธีเล่นมี 2 ประเภท คือ เล่นเป็นทีม หรือ ภาษาแกแรเรียกว่า เล่นคู่ จะมีผู้เล่นฝ่ายละ 4 คน แบ่งเป็น 2 คนต่อหนึ่งหลุม รวมผู้เล่นทั้งหมด 8 คน มีหลุมอยู่ 4 ข้าง การเล่นจะสลับกันดีดตามหลุมที่อยู่ สลับกันไป โดยผู้เล่นจะดีดสีของทีมตัวเองก่อนไปโดนตัวโกสีน้ำเงินเพื่อให้ไปโดนสีแดงอีกทีหนึ่งซึ่งเป็นตัวแม่ เมื่อดีดจนตัวแม่สีแดงเข้าหลุมแล้ว จึงจะเอาตัวโกสีน้ำเงินดีดสีของทีมตัวเองเข้าในหลุมจนลูกหมดแล้วจึงเป็นผู้ชนะไป หากทีมใดสามารถดีดตัวโกสีน้ำเงินไปชนสีแดงให้เข้าหลุมก่อน ก็จะมีโอกาสชนะกว่าที่ดีดสีของทีมสีเดียวลงรูโดยไม่ได้ดีดตัวแม่สีแดง
วิธีที่สอง เล่นโดยนับคะแนน กล่าวคือ หากใครดีดตัวแกแรลงมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งสีดำมี 1 คะแนน สีเหลือง 2 คะแนน และสีแดง 5 คะแนน โดยจะแบ่งเป็น 4 ฝ่าย ฝ่ายละ 1 คน หากใครสามารถดีดตัวแม่สีแดงลงหลุมก่อนจะมีโอกาสชนะมากกว่า เพราะมีคะแนนสูง ซึ่งการเล่นแบบที่สองนี้ ไม่จำกัดว่าจะใช้ลูกสีอะไรดีด สามารถใช้ทุกลูกดีดลูกใดเข้าหลุมก็ได้
“อับดุลเลาะห์” ได้ทดลองดัดแปลงความยาวและความกว้าง ของสนามจาก 60 ×60 ม.ม มาเป็น 100 ×100 มม ตามแบบที่คนในประเทศมาเลเซียนิยม ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายในการเพิ่มพื้นที่กระดานเพียง 300 บาทก็ได้สนามแกแรที่มีขนาดใหญ่ขึ้น น่าเล่นกว่าสนามเล็ก
การเล่นแกแรจะมีความต่างกับกีฬาสนุกเกอร์ ตรงที่การเล่นสนุกเกอร์นั้น ใช้ไม้สนุกเกอร์แทงลูกให้เคลื่อนไหว ขณะที่ลูกสนุกเกอร์เป็นลูกกลม ส่วนแกแรใช้นิ้วกลางและหัวแม่มือดีดลูกแกแรซึ่งมีลักษณะแบนๆ
ปัจจุบันวัยรุ่นในหมู่บ้าน เจาะกลาดีจะใช้เวลาในการเล่นแกแรมากกว่าออกไปกินน้ำชาในตลาด ทั้งนี้สนามแกแรจะถูกตั้งไว้บนศาลาหน้าบ้าน ทุกคนมีสิทธิที่จะเล่นก็ได้ แต่มีข้อแม้ห้ามเล่นการพนัน หากพบว่า มีใครเล่นการพนัน สนามแกแรจะถูกเก็บทันที ปัจจุบันโต๊ะเกมแกแรได้เปิดให้เล่นมา 3 ปีแล้วยังไม่พบว่ามีใครกล้าเล่นการพนัน
“อับดุลเลาะห์” กล่าวว่า การเปิดโต๊ะเกมแกแร นอกจากจะช่วยให้เด็กๆ ในหมู่บ้าน ไม่ออกไปกินน้ำชาในตลาดแล้วยังช่วยให้ร้านของเขาขายน้ำชาได้ดีกว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมาด้วย
เด็กเล่นได้-ผู้ใหญ่ก็เล่น
“มะนูจิ สุหลง” เด็กชายบ้านกัมปง กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีเวลาว่างตนจะมาเล่น แกแร การเล่นแกแร ทำให้ตัวเราไม่เครียด วิธีการเล่นก็ง่าย มีความรู้สึกเพลินมากกว่าที่จะรู้สึกเสียเวลา
“อิสมะแอ โต๊โยะ” พนักงานขับรถเก็บขยะของ อบต. อ.ยะหา วัย 55 ปี ได้กล่าวว่า ตนจะหยุดเล่น แกแร ทุกครั้งที่มาเก็บขยะในหมู่บ้านเจาะกลาดี มักใช้เวลากลางคืนเก็บขยะ ประมาณ 2 – 3 ทุ่ม เมื่อเก็บขยะเสร็จแล้วใช้เวลาเล่นแกแร เพราะแกแรที่เจาะกลาดีมีความใหญ่กว่าที่อื่นที่ตนเคยเล่นมา ทุกครั้งที่เข้ามาเล่น แกแรจะเล่นติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมงบ้างครั้งจนถึง ตีสาม ตีสี่
“มารูวัน วาเด็ง” เยาวชนในหมู่บ้านเจาะกลาดี กล่าวว่า ตนอายุแค่ 6 ปี ฝีมือในการเล่นแกแร สามารถเทียบกับรุ่นพี่ได้ แรกๆ ตนเล่นไม่เป็น อาศัยตรงที่ว่า ชอบสังเกตเวลาที่พี่ๆ เล่นแล้วจะมาหัดเล่นคนเดียว ในช่วงที่ไม่มีใครเล่นปัจจุบันตนสามารถเข้าร่วมเล่นแกแรกับรุ่นพี่ได้ทุกคนแล้ว
การเล่นแกแรรู้สึกว่าได้พัฒนาสมองอยู่ทุกเวลา ไม่เครียดเล่นสบายๆ ในการเล่นแต่ละครั้ง มักจะต้องใช้เวลาเล่นนานๆ เพราะเล่นจนเพลินหากไม่ดูนาฬิกาก็จะไม่สามารถกะเวลาได้เลยว่าเล่นมากี่ชั่วโมงแล้ว
ขณะที่ “มาซือนะ มะนาหิง” วัย 35 ปี แม่ของมารูวัน เห็นว่า เกมแกแรเป็นเกมที่ดี น่าส่งเสริมให้มีการพัฒนาการไปสู่หมู่บ้านใกล้เคียงบ้าง เพราะเห็นได้ชัดว่า เยาวชนที่หมู่บ้านที่ใกล้เคียงนั้นเยาวชนมักใช้เวลาว่างรวมตัวมั่วสุมกันไม่รู้คุณค่าของเวลาปล่อยเวลาให้ผ่านไปวันๆ เกมแกแร นอกจากจะสอนให้เด็กได้รู้จักคุณค่าของเวลาแล้วยังช่วยให้เด็กได้พัฒนาสมองไปด้วย
การที่ลูกได้ใช้เวลาว่างมาเล่นแกแร คิดว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย ทำให้ลูกได้รู้จักแบ่งเวลาและได้พัฒนาสมองอยู่ตลอดเวลา
แกแรซึ่งเป็นเกมที่น่าส่งเสริมมากที่สุดในช่วงเวลานี้และสามารถมาปรับใช้กับช่วงสถานการณ์ 3 จังหวัดได้ดีไนบางส่วน เพราะช่วงสถานการณ์เช่นนี้เด็กไม่ควรรวมตัวอยู่ร้านน้ำชาข้างถนน ควรจะส่งเสริมให้เด็กอยู่แต่ในบ้านมากกว่าและจะเห็นได้ชัดที่ อ.ยะหา ปัจจุบันนี้ ในช่วงเวลากลางคืน ไม่มีกลุ่มวัยรุ่นที่มาจากในหมู่บ้านเข้ามานั่งที่ร้านน้ำชาเหมือนอย่างหลายปีก่อนแล้ว
มาซือนะ ยังกล่าวอีกว่า เกมแกแร นอกจากมีเล่นกันในบ้านเจาะกลาดีแล้วตนยังเคยผ่านไปแถว อ.โคกโพธิ์ และ อ.เมือง จ.ปัตตานี และ อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เห็นเยาวชนเล่นกันทั้งกลุ่มวัยรุนและเด็กๆ มีการเข็งประชันฝีมือกันและไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ศุภญัฐ สิรันทวิเนติ” นายอำเภอยะหา กล่าวว่า ตนพอจะได้ทราบชื่อเกมแกแรมาบ้าง โดยส่วนตัวเห็นว่า เกมแกแรเปรียบเสมือนดาบสองคม มีทั้งดีและไม่ดี เป็นข้อดีที่สามารถดึงเยาวชนในหมู่บ้านมาเล่นเกมชนิดนี้มากกว่าที่จะออกไปกินน้ำชาในตลาด
และมันจะกลายเป็นเกมที่อันตรายเป็นภัยสังคมถ้ามีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าเกมอะไรก็ตามมันจะกลายเป็นผลเสียทันทีถ้าเราไม่รู้จักเล่นกับมัน