ปัตตานี – “กลุ่มอิมพีเรียล-แบงก์ไทยพาณิชย์” จัดฉากหรูให้ “ทักษิณ” เป็นประธานพิธีรับมอบโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส หลังตกลงซื้อขายกันมาก่อนแล้วในราคา 70 ล้านบาท ชี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขนาดกลุ่มทุนใหญ่นอกพื้นที่ยังกล้าขนเงินมาลงทุนท่ามกลางไฟใต้ที่ยากจะดับมอด เตรียมเปิดให้บริหารในชื่อใหม่ “อิมพีเรียล นราธิวาส” อย่างช้าภายใน ก.ย.นี้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (19 ส.ค.) ที่โรงแรมซี.เอส. อ.เมือง จ.ปัตตานี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีลงนามรับมอบโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ระหว่าง นายประพันธ์ศักดิ์ แพทยานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการรองผู้จัดการอาวุโส และนางชลกานต์ บุปผเวส ประธานคณะจัดการ บริษัทกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล จำกัด กับนายเสกสม ศรีรุ่งเรืองเดชา ผู้จัดการบริหารทรัพย์สิน และนายเพิ่มพูน ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มจัดการทรัพย์สิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่มีการตกลงซื้อขายกันมาก่อนหน้านี้ในราคา 70 ล้านบาท
นายประพันธ์ศักดิ์ แพทยานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการรองผู้จัดการอาวุโสกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล จำกัด เปิดเผยภายหลังลงนามรับมอบโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.นราธิวาสว่า การซื้อกิจการโรงแรมในครั้งนี้เป็นเพราะทางกลุ่มอิมพีเรียลต้องการขยายตลาดมายังภาคใต้ตอนล่าง และก็สอดรับกับนโยบายของกลุ่มที่ต้องการขยายกิจการไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ
โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้นั้น ทางกลุ่มอิมพีเรียลมีประสบการณ์ดำเนินงานที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีมานานแล้ว จึงมีความคุ้นเคยกับพนักงานทั้งที่นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม เราจึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายงานมายังภาคใต้ตอนล่างได้ และการประกอบการต่างๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ทางกลุ่มอิมพีเรียลถือว่ายังเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเสริมการจ้างงานในพื้นที่อีกด้วย โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดเพื่อสนองพระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถด้วย” นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว
ต่อข้อถามถึงความคุ้มทุนทางธุรกิจของกลุ่มอิมพีเรียลในการลงทุนซื้อโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเวลานี้ นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า การรับซื้อโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ในมูลค่าราคา 70 ล้านบาท ทางกลุ่มอิมพีเรียลได้พิจารณาถึงความคุ้มค่าต่อการลงทุนแล้วเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะมีลูกค้ารองรับในปริมาณที่วาดหวังไว้แน่นอน
ทั้งนี้ กลุ่มอิมพีเรียลเชื่อว่าในทุกจังหวัดของประเทศไทยจำเป็นต้องมีโรงแรมอันดับหนึ่งไว้ให้บริการ ในส่วนของโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ถือเป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของ จ.นราธิวาส ดังนั้น จุดขายอันดับหนึ่งคือ เป็นสถานที่รองรับการประชุมและรองรับแขกที่เข้าพัก โดยเฉพาะข้าราชการ นักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
“เราเชื่อว่านักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากมาเลเซียยังจำเป็นต้องเดินทางเข้าสู่ จ.นราธิวาส และเขาคงไม่ไปพักที่ จ.ยะลาหรือ จ.ปัตตานี แล้วเดินทางมายัง จ.นราธิวาส เพื่อทำธุรกิจหรือท่องเที่ยวเท่านั้น” นายประพันธ์ศักดิ์กล่าวและเสริมว่า
สำหรับโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ที่เพิ่มซื้อมาใหม่นั้น กลุ่มอิมพีเรียลจะเน้นจุดขายที่สำคัญที่สุดคือ งานด้านบริการที่สอดคล้องกับความเป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของจังหวัด ตามด้วยจุดขายในเรื่องของอาหารที่จะมีความหลากหลายไว้รองรับได้ทุกกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบันนั้น การบริหารโรงแรมแห่งนี้ก็ต้องรัดกุมในเรื่องนโยบายต้นทุน ซึ่งจะต้องพยายามควบคุมต้นทุนให้ดีที่สุด
“ความสำคัญที่หนึ่งคือ โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งโรงแรมเดียวในจังหวัดที่สามารถรับผู้ใหญ่ได้ ที่สองคือเรื่องอาหารแปลกๆ ก็จะเป็นจุดขายอีกอันหนึ่ง และก็ไม่ไกลจากชายแดนมาเลเซีย ซึ่งชาวมาเลเซียจะข้ามแดนมาได้ง่าย”
นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากการเซ็นสัญญาวันนี้แล้วกลุ่มอิมพีเรียลจะเร่งให้เปิดให้บริการเร็วที่สุด หรืออย่างช้าภายในต้นเดือนหน้า โดยจะเปลี่ยนชื่อใหม่จากโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส เป็นโรงแรมอิมพีเรียลนราธิวาส ในส่วนของห้องพักมีทั้งสิ้น 117 ห้อง เปิดให้บริการแบบสากลทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ส่วนบุคลากรก็จะใช้คนในพื้นที่เป็นหลัก โดยเปิดกว้างทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม
ส่วน นายเสกสม ศรีรุ่งเรืองเดชา ผู้จัดการบริหารทรัพย์สิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาขายโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ให้กับกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลที่ 70 ล้านบาทนั้น ถือว่าอยู่ในจุดที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำเกินไป เพราะปัจจุบันสภาพโรงแรมพร้อมใช้งานได้ทันที
เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ปิดกิจการมาประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ พนักงานและวิศวกรดูแล ซึ่งแต่ละเดือนทางธนาคารต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลกว่า 200,000 บาท เพื่อให้สภาพอาคารพร้อมใช้การได้ตลอด ซึ่งในความเป็นจริงศักยภาพของโรงแรมยังมีสูง แต่ทางผู้บริหารเดิมขาดสภาพคล่อง และไม่สามรถสู้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารได้ จึงต้องหยุดกิจการไป
ต่อข้อถามถึงก่อนหน้านี้รัฐบาล โดยธนาคารแห่งประเทศไทย จัดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอัตรา 1.5% ให้นักธุรกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รีไฟแนนซ์แล้ว ทำไมจึงยังช่วยผู้ประกอบการรายเดิมไม่ได้ นายเสกสม กล่าวว่า โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาช้าเกินไป เพราะขณะนั้นทางผู้บริหารขาดสภาพคล่องไปแล้ว ซึ่งหากมาเร็วกว่านี้ก็อาจจะช่วยให้สถานการณ์โรงแรมดีขึ้นได้บ้าง
ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนามรับมอบโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นราธิวาส ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนจากภายนอกยังสนใจมาลงทุนในพื้นที่ และยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพื้นที่ เพราะฉะนั้น คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เองก็ควรที่จะช่วยเหลือกันทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดียิ่งขึ้น
