แก้ปัญหาแท็กซี่สนามบินภูเก็ตวนที่เดิม ได้แค่ตั้งกรรมการมาศึกษารายละเอียด

ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ปัญหารถลิมูซีนเรียกร้องไม่ให้มีแท็กซี่มิเตอร์ที่สนามบินและชายหาดไม่คืบหน้า เวทีรับฟังความคิดเห็นสรุปได้แค่จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาจำนวนรถแท็กซี่มิเตอร์ให้เหมาะสมกับสภาพการท่องเที่ยวเท่านั้น ขณะที่กลุ่มลิมูซีนยังยืนยันไม่ให้เพิ่ม ไม่ให้ตั้งเคาน์เตอร์ในบริเวณอาคารสนามบิน และชายหาด ด้านกลุ่มด้านการท่องเที่ยวย้ำ ต้องการให้สร้างทางเลือกให้นักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้าง ที่สนามบินภูเก็ต หรือรถลิมูซีน ประมาณ 200 คน ได้นำรถยนต์ที่ใช้วิ่งรับจ้างที่สนามบินมาจอดไว้บริเวณรอบๆ ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต เพื่อแสดงพลังในการแสดงความคิดเห็นการจัดระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดภูเก็ต ที่เปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประกอบการรถลิมูซีน รถแท็กซี่มิเตอร์ รถแท็กซี่ป้ายดำ รถตุ๊กตุ๊ก สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ขนส่ง ท่าอากาศยาน ปกครอง ทหารเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีนายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต

กลุ่มผู้ประกอบการรถลิมูซีน และรถรับจ้างอื่นๆ ได้ทยอยนำรถเข้ามาประมาณ 100 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยอย่างแน่นหนา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ กำลัง อส. ประมาณ 100 นาย มาอยู่รอบศาลาประชาคม เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น และมีการตรวจสอบผู้เข้าร่วมประชุมทุกทิศทุกทาง และมีการเตรียมรถดับเพลิงเพื่อฉีดน้ำสลายม็อบหากมีการชุมนุมเรียกร้องที่ไม่สงบเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบการรถลิมูซีนและรถรับจ้างอื่นๆ ได้มารวมตัวอย่างสงบในเต็นท์ที่จังหวัดภูเก็ตจัดไว้ให้พร้อมกับมีการถ่ายทอดภาพและเสียงไปให้ชมกันด้วย

การรวมตัวของกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างในวันนี้ ได้ยื่นข้อเรียกร้องถึงผู้ว่าฯ ในนามของสหพันธ์สหกรณ์รถรับจ้างบริการจังหวัดภูเก็ต 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนรถแท็กซี่มิเตอร์เกินจากจำนวนที่มีอยู่เดิม 41 คัน 2.ไม่ให้ตั้งจุดรับแขก (เคาน์เตอร์) ทุกริมชายหาด ที่มีสหกรณ์รถรับจ้างอยู่แล้ว และ 3.ให้ตั้งเคาน์เตอร์รถแท็กซี่มิเตอร์ในจุดเดิม ที่อยู่นอกตัวอาคารผู้โดยสาร (อยู่ห่างจากอาคารสนามบินประมาณ 125 เมตร)

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการรถลิมูซีนที่สนามบิน ระบุว่า ไม่ต้องการให้เพิ่มรถแท็กซี่มิเตอร์อีกแล้ว เพราะปัจจุบันรถลิมูซีนเป็นหนี้อยู่ 50 ล้านบาท รายได้ที่เกิดจากการรับแขก ไม่พอในการผ่อนชำระรถยนต์ สหกรณ์ต้องผลักภาระให้สมาชิกในการผ่อนชำระรถยนต์เอง ทำให้เกิดหนี้นอกระบบขึ้นมา และไม่ต้องการที่ให้รถแท็กซี่มิเตอร์เกิดขึ้นมากกว่านี้ เพราะแท็กซี่มิเตอร์เป็นของนายทุนเพียง 2-3 รายเท่านั้น

กลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้าง ยังยืนยันที่จะไม่ให้มีแท็กซี่มิเตอร์ และยังกล่าวถึงการเรียกเก็บค่าโดยสารไม่เป็นธรรม ว่าที่ค่าโดยสารแพงกว่าความเป็นจริงเพราะในภูเก็ตจะต้องวิ่งรถเพียงขาเดียวเท่านั้น และทุกครั้งก่อนที่จะออกรถได้มีการตกลงกับผู้โดยสารก่อนทุกครั้งว่าต้องจ่ายราคาเท่าไหร่ถ้าผู้โดยสารยอมรับได้ก็จะไปส่ง

นายอุทัย สุขสิริสัมพันธ์ ที่ปรึกษาสหพันธ์สหกรณ์รถรับจ้างบริการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะต้องมาดูว่าปัญหาเกิดขึ้นจากอะไร และจะต้องมาหามาตรการในการแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อให้เกิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และจะต้องฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคเช่นนักท่องเที่ยว

สำหรับปัญหาการร้องเรียนที่เกิดขึ้นจากการบริการของลิมูซีน เมื่อเปรียบเทียบแล้วถือว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และคนที่ร้องเรียนส่วนใหญ่จะเป็นแขกที่ใช้บริการรถตู้มากกว่ารถเก๋ง สิ่งสำคัญผู้ประกอบการลิมูซีนไม่ได้รังเกียจรถแท็กซีมิเตอร์ แต่จะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจ

ขณะที่ นายพัฒนพงษ์ เอกวานิช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนอยากให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพราะที่ผ่านมาภูเก็ตเกิดวิกฤตหลายอย่าง ที่เกิดผลกระทบกับจังหวัดภูเก็ต

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบการขนส่งบริการ เป็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเที่ยวหลายครั้ง เกี่ยวกับเรื่องของการให้บริการรถยนต์ขนส่ง ซึ่งจะไม่ระบุว่าเป็นรถชนิดใด บางครั้งเมื่อรับนักท่องเที่ยวมาแล้ว มักจะพานักท่องเที่ยวไปยังบริษัทนำเที่ยว เพื่อให้ซื้อทัวร์ หรือโน้มน้าวให้ไปพักโรงแรมอื่นแทนโรงแรมที่นักท่องเที่ยวจองมา นอกจากนั้น สิ่งที่นักท่องเที่ยวร้องมาอีกอย่าง คือ เรื่องของการเก็บราคาค่าบริการที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้การแก้ไขปัญหา คิดว่าจะต้องเปิดให้มีการบริการที่กว้างขึ้น ไม่จำกัดอยู่เฉพาะรายใดรายหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้บริการใดในการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนแท็กซี่มิเตอร์ให้ชะลอไว้ก่อนการเพิ่มแท็กซี่ ควรจะเป็นคนในท้องถิ่น และรถที่วิ่งอยู่แล้วในปัจจุบัน และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเป็นแท็กซี่มิเตอร์ ส่วนการจะเพิ่มจำนวนแท็กซี่มิเตอร์ให้เริ่มที่สนามบินก่อน

ด้านขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รถที่เข้ามาจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่มิเตอร์ มีบริษัทที่จดทะเบียนที่เป็นนิติบุคคลเพียง 4 ราย มีรถประมาณ 20 คัน ส่วนที่เหลือเป็นรถของส่วนบุคคล ซึ่งบางส่วนยังไม่ได้เข้ามาจดทะเบียน โดยขณะนี้มีจดทะเบียนถูกต้องเพียง 41 คันเท่านั้น

นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต 4 (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนมาก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ล่าสุดเป็นการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวคนไทย ซึ่งได้ซื้อตั๋วรถลิมูซีนจากสนามบิน เพื่อเดินทางไปที่พัก และได้มีการสอบถามก่อนที่จะเดินทางแล้ว ว่าจะเดินทางไปที่พักเลย ซึ่งลีมูซีนยืนว่าไปที่พักเลย แต่สุดท้ายกลับพานักท่องเที่ยวไปทิ้งที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่งที่บริเวณถนนบายพาสนานกว่า 1ชั่วโมง เพื่อให้บริษัทดังกล่าวขายทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอมซื้อ เมื่อเดินทางกลับ นักท่องเที่ยวได้ร้องเรียนมายัง ททท.และสื่อมวลชน

นอกจากนี้ จากการสอบถามความคิดเห็นนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พบว่า ปัญหาแรกที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนมากที่สุด คือ เรื่องรถรับจ้างที่ฉ้อโกงนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม การรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาพิจารณาความเหมาะสมในการเพิ่มลดแท็กซี่มิเตอร์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยให้มีตัวแทนทั้งจากกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างทั้ง 10 สหกรณ์ ตัวแทนจากภาคราชการ ททท. สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวและบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ร่วมเป็นกรรมการ