นครศรีธรรมราช – เมืองคอนเตรียมระดมทุกภาคส่วนในสังคม ร่วมกันสร้าง “ฝายแม้ว” ตามแนวพระราชดำริ หวังช่วยเหลือเกษตรการในการเพาะปลูก แก้ปัญหาภัยแล้งและป้องกันน้ำท่วม
น.ส.อรุณี กูลณรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงการจัดทำฝายแม้ว หรือฝายต้นน้ำลำธารขนาดเล็ก ของนครศรีธรรมราชตามแนวพระราชดำริว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบันต้องประสบ ทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และภาวะน้ำท่วมในฤดูฝน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร และต่อสาธารณูปโภคของชุมชน
สาเหตุที่เกิดภัยธรรมชาติทั้งสองอย่าง เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลาย โดยเฉพาะป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธาร ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา และสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ สภาพลำน้ำมักจะตื้นเขิน ซึ่งเกิดจากการชะล้างพังทลายของดินช่วงฤดูฝน เมื่อปริมาณน้ำฝนมาก ทำให้เกิดน้ำท่วม ขณะเดียวกันในฤดูแล้งปริมาณน้ำในลำน้ำมีปริมาณน้อย ไม่มีน้ำไหลเพียงพอตลอดปี ทั้งนี้เพราะป่าไม่สามาจะอุ้มน้ำไว้ในฤดูฝน และชะลอการไหลไว้ถึงฤดูแล้ง
ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระราชดำริ ให้พิจารณาสร้างฝายต้นน้ำลำธาร เพื่อกักเก็บน้ำสาขาไว้เป็นฝายง่ายๆ ใช้ภูมิปัญญาแบบชาวบ้าน เป็นสิ่งก่อสร้างขวาง หรือกั้นน้ำ ลำห้วย ลำธารขนาดเล็กในบริเวณต้นน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง สามารถชะลอการไหลของน้ำให้ช้าลง และยังบรรเทาการกัดเซาะทลายของดินบริเวณสองฝั่งของลำธาร อีกทั้งกักเก็บตะกอนอยู่ได้ ไม่ให้ไหลลงไปทับถมลำน้ำตอนล่าง
“เป็นฝายที่เพิ่มความชุ่มชื้น ให้คงเหลืออยู่ในลำห้วยลำธาร อันเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำได้ดีมากวิธีหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ และให้ส่วนราชการรับไปพิจารณาดำเนินการ” น.ส.อรุณีกล่าวและว่า
นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดหนึ่งที่ต้องประสบปัญหาธรรมชาติดังกล่าว จึงได้นำแนวพระราชดำริและนโยบายรัฐบาลมาดำเนินการ เพื่อจัดทำฝายต้นน้ำลำธารขนาดเล็กขึ้น โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้รับทราบปัญหา และร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน รวมถึงร่วมกันจัดทำให้เป็นรูปธรรม เพื่อนำความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา ขณะเดียวกันจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอีกด้วย โดยจะมีการประสานงานในเรื่องการจัดทำตามหน่วยงานต่างๆ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องด้วย
น.ส.อรุณี กูลณรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงการจัดทำฝายแม้ว หรือฝายต้นน้ำลำธารขนาดเล็ก ของนครศรีธรรมราชตามแนวพระราชดำริว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบันต้องประสบ ทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และภาวะน้ำท่วมในฤดูฝน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร และต่อสาธารณูปโภคของชุมชน
สาเหตุที่เกิดภัยธรรมชาติทั้งสองอย่าง เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลาย โดยเฉพาะป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธาร ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา และสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ สภาพลำน้ำมักจะตื้นเขิน ซึ่งเกิดจากการชะล้างพังทลายของดินช่วงฤดูฝน เมื่อปริมาณน้ำฝนมาก ทำให้เกิดน้ำท่วม ขณะเดียวกันในฤดูแล้งปริมาณน้ำในลำน้ำมีปริมาณน้อย ไม่มีน้ำไหลเพียงพอตลอดปี ทั้งนี้เพราะป่าไม่สามาจะอุ้มน้ำไว้ในฤดูฝน และชะลอการไหลไว้ถึงฤดูแล้ง
ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระราชดำริ ให้พิจารณาสร้างฝายต้นน้ำลำธาร เพื่อกักเก็บน้ำสาขาไว้เป็นฝายง่ายๆ ใช้ภูมิปัญญาแบบชาวบ้าน เป็นสิ่งก่อสร้างขวาง หรือกั้นน้ำ ลำห้วย ลำธารขนาดเล็กในบริเวณต้นน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง สามารถชะลอการไหลของน้ำให้ช้าลง และยังบรรเทาการกัดเซาะทลายของดินบริเวณสองฝั่งของลำธาร อีกทั้งกักเก็บตะกอนอยู่ได้ ไม่ให้ไหลลงไปทับถมลำน้ำตอนล่าง
“เป็นฝายที่เพิ่มความชุ่มชื้น ให้คงเหลืออยู่ในลำห้วยลำธาร อันเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำได้ดีมากวิธีหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ และให้ส่วนราชการรับไปพิจารณาดำเนินการ” น.ส.อรุณีกล่าวและว่า
นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดหนึ่งที่ต้องประสบปัญหาธรรมชาติดังกล่าว จึงได้นำแนวพระราชดำริและนโยบายรัฐบาลมาดำเนินการ เพื่อจัดทำฝายต้นน้ำลำธารขนาดเล็กขึ้น โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้รับทราบปัญหา และร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน รวมถึงร่วมกันจัดทำให้เป็นรูปธรรม เพื่อนำความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา ขณะเดียวกันจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอีกด้วย โดยจะมีการประสานงานในเรื่องการจัดทำตามหน่วยงานต่างๆ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องด้วย