ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “ศุลกากรภูมิภาค 4” โกยเงินเข้ากระเป๋ารัฐได้อีกกว่า 200 ล้านบาท หลังเปิดประมูลรถยนต์หรูที่ยึดได้จากด่านทั่วภาคใต้แค่ช่วง 5 เดือน 324 คัน เผย “ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์” ยังแซงโค้งทำยอดได้ถึง 139 คัน ระบุการประมูลหนนี้เศรษฐีสวนยางขนเงินมาเกทับกันสนุก
สำนักงานศุลกากรภูมิภาคที่ 4 ได้ทำการขายทอดตลาดรถยนต์ของกลาง โดยวิธีการประมูลจำนวน 324 คัน ตั้งแต่วันที่ 25-26 กรกฎาคม ณ ค่ายเสนาณรงค์ มณฑลทหารบกที่ 42 กรมทหารราบที่ 5 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งนับเป็นการเปิดประมูลรถยนต์ของกลางครั้งที่ 2 ในรอบปี ซึ่งการเปิดประมูลรถยนต์ของกลางที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศมาเลเซียครั้งแรก คือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้รัฐมีรายได้ 126 ล้านบาท โดยได้คัดเลือกบริษัท คฑา คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ร่วมดำเนินการจัดประมูลต่อไปในครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางผู้ที่สนใจเข้าทำการประมูลเป็นจำนวนมาก
นายอิทธิวัฒน์ ทิพทัส นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดเผยว่า สำนักงานศุลกากรภูมิภาคที่ 4 ได้ตั้งเป้ายอดการจำหน่ายรถยนต์ของกลาง 324 คันใน 2 วันไว้ที่จำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งในวันแรกเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมามีผู้ประมูลไปแล้วได้ยอดรวม 125.334 ล้านบาท
“จากการสังเกตส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมประมูลจะเป็นประชาชน เจ้าของสวนยาง ที่นิยมซื้อรถยนต์แบบครอบครัวมาใช้เป็นพาหนะเดินทาง นอกเหนือจากการใช้รถยนต์กระบะสำหรับใช้งาน ซึ่งมีผู้ประมูลที่เคยมาร่วมประมูลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มีการจัดงานลักษณะนี้แล้วครั้งหนึ่ง แม้จะพลาดหวัง แต่ก็ยังสนใจมาดูรถคันใหม่ และเสนอราคาสู้กันอีกครั้ง ส่วนผู้ที่มาจากเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสองนั้นยังไม่พบ” นายอิทธิวัฒน์กล่าวและว่า
สำหรับรถยนต์ที่นำมาประมูล อาทิ ยี่ห้อ HONDA, TOYATA, JAGUAR, KIA, HYUNDAI, BMW, MERCEDES BENZ, PERRO DUA อย่างไรก็ตาม ราคาเปิดประมูลต่ำสุดอยู่ที่ 28,000 บาทต่อคัน คือรถยนต์ยี่ห้อ PROTON SAGA และราคาเปิดประมูลสูงสุดอยู่ที่ 2,190,000 บาทต่อคัน คือรถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ S-280 โดยผู้ชนะการประมูลจะต้องจ่ายเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการให้กับบริษัท คฑา คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
ทั้งนี้ รถยนต์ของกลางดังกล่าวเป็นผลมาจากการจับกุมตามด่านศุลกากรต่างๆ ในภาคใต้ ได้แก่ ใน จ.นราธิวาสคือ ด่านศุลกากรตากใบ 5 คัน และด่านศุลกากรโก-ลก จำนวน 16 คัน, จ.สตูล คือ ด่านศุลกากรสตูล 5 คัน และด่านศุลกากรวังประจัน 2 คัน, จ.สงขลา คือ ด่านศุลกากรสะเดา 68 คัน ด่านศุลกากรสงขลา 48 คัน และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ 139 คัน, จ.ยะลา คือ ด่านศุลกากรเบตง 9 คัน, จ.นครศรีธรรมราช คือ ด่านศุลกากรนครศรีธรรมราช 18 คัน, จ.ตรัง คือ ด่านศุลกากรกันตัง 11 คัน, จ.ภูเก็ต คือ ด่านศุลกากรภูเก็ต 2 คัน และ จ.กระบี่คือ ด่านศุลกากรกระบี่ 1 คัน
“จะเห็นว่าส่วนใหญ่เราสามารถจับกุมรถยนต์ลักลอบนำเข้าภายในราชอาณาจักรไทยด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายทางด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เนื่องจากมีช่องทางที่เอื้อต่อการหลบหลีกมาก บางครั้งลัดเลาะเข้ามาโดยอาศัยเส้นทางภายในสวนยางพาราก็มี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เครือข่ายเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแล้ว” นายอิทธิวัฒน์กล่าวและว่า ส่วนการเปิดประมูลรถยนต์ในครั้งต่อไปนั้น ตนยังไม่สามารถบอกได้ว่าเมื่อไร เนื่องจากต้องรอให้มีรถยนต์ของกลางไม่น้อยกว่า 150 คัน จึงจะสามารถเปิดประมูลได้