ยะลา - เผย “ขบวนการบีอาร์เอ็น” มีการประชุมลับที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปรับแผนแก้เผ็ดเจ้าหน้าที่รัฐหลังการโจมตีเริ่มไม่ได้ผล ระบุหลังการประชุมอาจได้เห็นการก่อเหตุในรูปแบบใหม่ที่พลิกแพลงจนทางการคาดไม่ถึง ด้าน รอง ผบก.นราฯ สั่งรับมือหลังได้ข่าวคนร้ายจ้องป่วนอีก
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสายข่าวที่ฝังตัวอยู่ในประเทศมาเลเซียว่า ภายหลังที่มีการประชุมระดับแกนนำของขบวนการบีอาร์เอ็น และแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บ้านหัวหน้าขบวนการบีอาร์เอ็น เมืองปาหัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทราบว่าในที่ประชุมได้มีระดับหัวหน้าของขบวนการมุสลิมหัวรุนแรงในรัฐกลันตัน หรือกลุ่มมุสลิมก่อการร้ายเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยกลุ่มมุสลิมก่อการร้ายนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าเมื่อครั้งเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ วันที่ 28 เม.ย.47 พบว่า การกระทำของผู้หลงผิดมีวิธีการที่คล้ายกับขบวนการมุสลิมหัวรุนแรง ที่ได้มีการอบรมสั่งสอนให้เกิดความรู้สึกเกลียดชังคนนอกศาสนา และการฆ่าศัตรูคนที่รู้สึกเกลียดชัง ซึ่งการฆ่าการทำลายศัตรูดังกล่าวสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอเหตุผลหรือความจำเป็นอะไร นอกจากการฆ่าเพื่อทำลายศัตรูเท่านั้น
โดยอ้างว่าเป็นการรบเพื่อพระเจ้า ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะในครั้งนั้นมีคนที่มีและไม่มีอาวุธนั่งรอความตายในมัสยิดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับปืนและการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ แต่คนเหล่านั้นก็ยอมตายและออกไปต่อสู้กับตำรวจเพื่อเป็นการตายเพื่อพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการประชุมในครั้งนี้ ระดับหัวหน้าและแกนนำขบวนการต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมอาจจะมีการวางแผนปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในขบวนการให้มีการกลั่นกรองข้อมูลที่แกนนำใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นำข้อมูลมาให้ หลังจากมีการประสานหาข้อมูลจากกลุ่มนักการเมืองระดับท้องถิ่น กลุ่มผลประโยชน์ ผู้มีอิทธิพลและกลุ่มเปอมูดอ (กลุ่มวัยรุ่นหัวรุนแรง) ที่ศึกษาจุดบกพร่องและช่องโหว่ของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากที่ผ่านมาการปฏิบัติการแต่ละครั้งจะไม่มีการกลั่นกรองโดยเลือกจังหวะและโอกาสในการโจมตีเจ้าหน้าที่ และก็จะถูกตอบโต้จากเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง
รวมทั้งการก่อเหตุลอบวางระเบิดซึ่งถูกเก็บกู้ได้เกือบทุกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายหลัก ซึ่งภายหลังจากการประชุมในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่ง เป็นการกระทำที่มียุทธศาสตร์ และยุทธวิธีเป้าหมายแน่ชัดขึ้น ส่วนขบวนการมุสลิมหัวรุนแรงที่เข้าประชุมในครั้งนี้อาจจะเข้าร่วมในการให้การศึกษาและแนวทางในการต่อสู้ ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการต่อสู้ร่วมกับขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ที่มีความชำนาญด้านภูมิประเทศ
แหล่งข่าวเชื่อว่า ภายหลังจากการประชุมจะมีการก่อเหตุทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และจะมีการขยายเขตยกระดับความรุนแรงแต่ละพื้นที่ออกไปอย่างกว้างขวางกว่าเก่า นอกจากนั้นการวางระเบิดแต่ละครั้งจะมีการเพิ่มปริมาณและขนาดของระเบิดและมีการพลิกแพลงมากขึ้น โดยที่เจ้าหน้าที่อาจคิดไม่ถึง
ด้าน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้เราได้สรุปข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่เรื่องแผนที่จะดำเนินการอย่างใดหรือไม่นั้นคงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ที่สำคัญตอนนี้เราได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เพราะมีข่าวมาว่าจะมีการตอบโต้เจ้าหน้าที่อีก
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสายข่าวที่ฝังตัวอยู่ในประเทศมาเลเซียว่า ภายหลังที่มีการประชุมระดับแกนนำของขบวนการบีอาร์เอ็น และแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บ้านหัวหน้าขบวนการบีอาร์เอ็น เมืองปาหัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทราบว่าในที่ประชุมได้มีระดับหัวหน้าของขบวนการมุสลิมหัวรุนแรงในรัฐกลันตัน หรือกลุ่มมุสลิมก่อการร้ายเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยกลุ่มมุสลิมก่อการร้ายนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าเมื่อครั้งเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ วันที่ 28 เม.ย.47 พบว่า การกระทำของผู้หลงผิดมีวิธีการที่คล้ายกับขบวนการมุสลิมหัวรุนแรง ที่ได้มีการอบรมสั่งสอนให้เกิดความรู้สึกเกลียดชังคนนอกศาสนา และการฆ่าศัตรูคนที่รู้สึกเกลียดชัง ซึ่งการฆ่าการทำลายศัตรูดังกล่าวสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอเหตุผลหรือความจำเป็นอะไร นอกจากการฆ่าเพื่อทำลายศัตรูเท่านั้น
โดยอ้างว่าเป็นการรบเพื่อพระเจ้า ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะในครั้งนั้นมีคนที่มีและไม่มีอาวุธนั่งรอความตายในมัสยิดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับปืนและการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ แต่คนเหล่านั้นก็ยอมตายและออกไปต่อสู้กับตำรวจเพื่อเป็นการตายเพื่อพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการประชุมในครั้งนี้ ระดับหัวหน้าและแกนนำขบวนการต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมอาจจะมีการวางแผนปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในขบวนการให้มีการกลั่นกรองข้อมูลที่แกนนำใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นำข้อมูลมาให้ หลังจากมีการประสานหาข้อมูลจากกลุ่มนักการเมืองระดับท้องถิ่น กลุ่มผลประโยชน์ ผู้มีอิทธิพลและกลุ่มเปอมูดอ (กลุ่มวัยรุ่นหัวรุนแรง) ที่ศึกษาจุดบกพร่องและช่องโหว่ของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากที่ผ่านมาการปฏิบัติการแต่ละครั้งจะไม่มีการกลั่นกรองโดยเลือกจังหวะและโอกาสในการโจมตีเจ้าหน้าที่ และก็จะถูกตอบโต้จากเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง
รวมทั้งการก่อเหตุลอบวางระเบิดซึ่งถูกเก็บกู้ได้เกือบทุกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายหลัก ซึ่งภายหลังจากการประชุมในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่ง เป็นการกระทำที่มียุทธศาสตร์ และยุทธวิธีเป้าหมายแน่ชัดขึ้น ส่วนขบวนการมุสลิมหัวรุนแรงที่เข้าประชุมในครั้งนี้อาจจะเข้าร่วมในการให้การศึกษาและแนวทางในการต่อสู้ ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการต่อสู้ร่วมกับขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ที่มีความชำนาญด้านภูมิประเทศ
แหล่งข่าวเชื่อว่า ภายหลังจากการประชุมจะมีการก่อเหตุทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และจะมีการขยายเขตยกระดับความรุนแรงแต่ละพื้นที่ออกไปอย่างกว้างขวางกว่าเก่า นอกจากนั้นการวางระเบิดแต่ละครั้งจะมีการเพิ่มปริมาณและขนาดของระเบิดและมีการพลิกแพลงมากขึ้น โดยที่เจ้าหน้าที่อาจคิดไม่ถึง
ด้าน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้เราได้สรุปข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่เรื่องแผนที่จะดำเนินการอย่างใดหรือไม่นั้นคงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ที่สำคัญตอนนี้เราได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เพราะมีข่าวมาว่าจะมีการตอบโต้เจ้าหน้าที่อีก