ศูนย์ข่าวภูเก็ต –ผู้ว่าฯภูเก็ตเผย เชื่อมสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องภูเก็ต-ไหหลำ ถือเป็นคู่แรกที่มีการเชื่อมความสัมพันธ์อย่างสมบูรณ์ เตรียมขยายความสัมพันธ์ต่อไปยังอินเดีย ขณะที่ผู้ประกอบการมั่นใจ หลังการเชื่อมความสัมพันธ์การท่องเที่ยวตลาดจีนจะดีขึ้น ไหหลำพร้อมที่จะนำชาร์เตอร์ไฟลต์เข้าภูเก็ต แต่ต้องนำเสนอรัฐบาลพิจารณาก่อน
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวหลังจากเดินทางไปลงนาม ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างภูเก็ตกับเมืองไหหลำ หรือเมืองไหหนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 16-21พฤษภาคม 2548 ว่า หลังการลงนามร่วมกัน จากนี้อีกประมาณ 1 เดือน ทางไหหลำจะส่งเอกสารไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อที่จะให้ผู้นำของปักกิ่ง พิจารณาและขยับความสัมพันธ์ระหว่างภูเก็ตและไหหลำขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ในเรื่องสัญญาที่จะเป็นเมืองพี่เมืองน้องตามกรรมพิธีทางการทูตของปักกิ่งอีกครั้ง
หลังจากที่มีการพิจารณา เกี่ยวกับการขยับความสัมพันธ์เพิ่มอีกระดับ คาดว่าผู้ว่าฯ ของเมืองไหหลำจะเดินทางไป เซ็นสัญญาลงนามความสัมพันธ์ ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหากเป็นไปตามที่ได้มีการตกลงกัน ไหหลำ จะเป็นเมืองแรกที่ภูเก็ตสามารถสถาปนาความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมืองน้องได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับการเชื่อมความสัมพันธ์การเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกัน ก็เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์เรื่องอื่นๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม นอกจากนั้นยังจะเป็นการเดินทางเยี่ยมเยือนกันของญาติทั้ง 2 เมือง
ผู้ว่าฯกล่าวอีกว่า หลังเสร็จสิ้นการลงนามเมืองพี่น้อง คณะตัวแทนจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย จังหวัด และภาคเอกชน ได้เดินทางไปยังนครกวางเจา เพื่อพบผู้แทนจากสายการบิน และบริษัททัวร์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว ถึงความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะเรื่องของสัญญาณเตือนภัย รวมถึงเรื่องการพัฒนา ที่ขณะนี้ภูเก็ตสามารถพัฒนาและฟื้นคืนให้การท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ปกติแล้ว
ทั้งนี้ ตัวแทนบริษัททัวร์และผู้แทนสายการบินต่าง ๆ มีความพอใจในสิ่งที่จังหวัดได้ชี้แจงและเสนอไป โดยยืนยันที่จะส่งนักท่องเที่ยวกลับมายังจังหวัดภูเก็ตด้วย นอกจากนี้ทางการบินไทยก็พยายามที่จะจัดโปรโมชั่น ในการที่จะดึงแขกจากประเทศจีนมาภูเก็ตให้มากขึ้น ซึ่งคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์กับชาวภูเก็ต และการเดินทางไปไหหลำนับว่าเป็นการเดินทางมาหาลูกค้าต่างประเทศที่ได้ผลดีพอสมควร
ขณะที่นายพัฒนพงศ์ เอกวานิช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินทางไปเมืองไหหลำ ได้รับผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งที่มีการพูดคุยและตกลงกัน คือ การเซ็นข้อตกลงเมืองพี่เมืองน้อง และการเจรจากันระหว่างผู้ว่าฯมณฑลไหหลำ กับผู้ว่าฯภูเก็ต และมีข้อตกลงร่วมกันหลายอย่าง
ประเด็นที่ได้ประโยชน์ชัดเจน คือเรื่องของสายการบิน ที่ไหหลำมีสายการบิน “ไหหนานแอร์ไลน์” เป็นสายการบินของเอกชนที่ใหญ่ที่สุด มีเครื่องบินอยู่เกือบ 100 ลำ และอยู่ระหว่างการขยายฝูงบินออกไปอีก ในส่วนนี้ภูเก็ตก็ได้เสนอไปว่า น่าจะทำเป็นชาร์เตอร์ไฟลต์(เครื่องบินเช่าเหมาลำ )บินตรงมาภูเก็ต ซึ่งก็มีเสียงตอบรับมาจากผู้ว่าฯมณฑลของไหหลำว่า มีทางเป็นไปได้และเขาก็เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงต่างๆ ไหหลำจะนำเสนอกับรัฐบาลของเขาก่อน และทางจังหวัด ก็ต้องนำเรื่องเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบแล้ว จากนั้นก็จะมีการลงนามไอเอโอ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวหนึ่งที่จะทำให้การท่องเที่ยวระหว่างสองเมืองและการค้าต่างๆ พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง
นายพัฒนพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการพบปะกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆ และผู้ประกอบการเมืองกวางโจ ก็ได้ผลดีมากเพราะว่ามีบริษัทนำเที่ยวต่างๆ มาร่วมงานประมาณ 30 บริษัท และผู้ที่มารวมพบปะเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจได้เองเป็นส่วนใหญ่ จากการพูดคุยทราบว่า หลังจากเกิดเหตุสึนามิแล้ว นักท่องเที่ยวจีนหายไปเพราะส่วนใหญ่ยังวิตกในเรื่องของระบบการเตือนภัยล่วงหน้า รวมทั้งเรื่องของความปลอดภัย
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวหลังจากเดินทางไปลงนาม ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างภูเก็ตกับเมืองไหหลำ หรือเมืองไหหนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 16-21พฤษภาคม 2548 ว่า หลังการลงนามร่วมกัน จากนี้อีกประมาณ 1 เดือน ทางไหหลำจะส่งเอกสารไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อที่จะให้ผู้นำของปักกิ่ง พิจารณาและขยับความสัมพันธ์ระหว่างภูเก็ตและไหหลำขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ในเรื่องสัญญาที่จะเป็นเมืองพี่เมืองน้องตามกรรมพิธีทางการทูตของปักกิ่งอีกครั้ง
หลังจากที่มีการพิจารณา เกี่ยวกับการขยับความสัมพันธ์เพิ่มอีกระดับ คาดว่าผู้ว่าฯ ของเมืองไหหลำจะเดินทางไป เซ็นสัญญาลงนามความสัมพันธ์ ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหากเป็นไปตามที่ได้มีการตกลงกัน ไหหลำ จะเป็นเมืองแรกที่ภูเก็ตสามารถสถาปนาความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมืองน้องได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับการเชื่อมความสัมพันธ์การเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกัน ก็เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์เรื่องอื่นๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม นอกจากนั้นยังจะเป็นการเดินทางเยี่ยมเยือนกันของญาติทั้ง 2 เมือง
ผู้ว่าฯกล่าวอีกว่า หลังเสร็จสิ้นการลงนามเมืองพี่น้อง คณะตัวแทนจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย จังหวัด และภาคเอกชน ได้เดินทางไปยังนครกวางเจา เพื่อพบผู้แทนจากสายการบิน และบริษัททัวร์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว ถึงความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะเรื่องของสัญญาณเตือนภัย รวมถึงเรื่องการพัฒนา ที่ขณะนี้ภูเก็ตสามารถพัฒนาและฟื้นคืนให้การท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ปกติแล้ว
ทั้งนี้ ตัวแทนบริษัททัวร์และผู้แทนสายการบินต่าง ๆ มีความพอใจในสิ่งที่จังหวัดได้ชี้แจงและเสนอไป โดยยืนยันที่จะส่งนักท่องเที่ยวกลับมายังจังหวัดภูเก็ตด้วย นอกจากนี้ทางการบินไทยก็พยายามที่จะจัดโปรโมชั่น ในการที่จะดึงแขกจากประเทศจีนมาภูเก็ตให้มากขึ้น ซึ่งคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์กับชาวภูเก็ต และการเดินทางไปไหหลำนับว่าเป็นการเดินทางมาหาลูกค้าต่างประเทศที่ได้ผลดีพอสมควร
ขณะที่นายพัฒนพงศ์ เอกวานิช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินทางไปเมืองไหหลำ ได้รับผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งที่มีการพูดคุยและตกลงกัน คือ การเซ็นข้อตกลงเมืองพี่เมืองน้อง และการเจรจากันระหว่างผู้ว่าฯมณฑลไหหลำ กับผู้ว่าฯภูเก็ต และมีข้อตกลงร่วมกันหลายอย่าง
ประเด็นที่ได้ประโยชน์ชัดเจน คือเรื่องของสายการบิน ที่ไหหลำมีสายการบิน “ไหหนานแอร์ไลน์” เป็นสายการบินของเอกชนที่ใหญ่ที่สุด มีเครื่องบินอยู่เกือบ 100 ลำ และอยู่ระหว่างการขยายฝูงบินออกไปอีก ในส่วนนี้ภูเก็ตก็ได้เสนอไปว่า น่าจะทำเป็นชาร์เตอร์ไฟลต์(เครื่องบินเช่าเหมาลำ )บินตรงมาภูเก็ต ซึ่งก็มีเสียงตอบรับมาจากผู้ว่าฯมณฑลของไหหลำว่า มีทางเป็นไปได้และเขาก็เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงต่างๆ ไหหลำจะนำเสนอกับรัฐบาลของเขาก่อน และทางจังหวัด ก็ต้องนำเรื่องเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบแล้ว จากนั้นก็จะมีการลงนามไอเอโอ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวหนึ่งที่จะทำให้การท่องเที่ยวระหว่างสองเมืองและการค้าต่างๆ พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง
นายพัฒนพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการพบปะกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆ และผู้ประกอบการเมืองกวางโจ ก็ได้ผลดีมากเพราะว่ามีบริษัทนำเที่ยวต่างๆ มาร่วมงานประมาณ 30 บริษัท และผู้ที่มารวมพบปะเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจได้เองเป็นส่วนใหญ่ จากการพูดคุยทราบว่า หลังจากเกิดเหตุสึนามิแล้ว นักท่องเที่ยวจีนหายไปเพราะส่วนใหญ่ยังวิตกในเรื่องของระบบการเตือนภัยล่วงหน้า รวมทั้งเรื่องของความปลอดภัย