ศูนย์ข่าวภูเก็ต – "ภูเก็ต" ดึงเยาวชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ 30 คน เข้าร่วมโครงการท่องเที่ยว กีฬาพาสุข เพื่อพัฒนาเยาวชนเป็นมัคคุเทศก์น้อย ต้อนรับการท่องเที่ยวชุมชนแบบยั่งยืน ขณะที่ชุมชนบ้านพารา เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวแล้ว
นายพรหมโชติ ไตรเวช ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีนโยบายที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนตามยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล โดยเสนอแนวทางใหม่ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ได้สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต ที่ปัจจุบันนี้ยังมีอีกหลายชุมชนที่ยังคงสภาพวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น ชุมชนบ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ชุมชนหินรุ่ย เขตเทศบาลเทพกระษัตรี อ.ถลาง และชุมชนชาวไทยใหม่แหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง ซึ่งชุมชนเหล่านี้สามารถพัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบในการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนแบบยั่งยืน
ดังนั้น เพื่อให้การท่องเที่ยวชุมชนแบบยั่งยืน สามารถดำเนินการและพัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะทำงานเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนบ้านพารา พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้านจากทั้ง 3 ชุมชนที่เป็นต้นแบบ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดโครงการท่องเที่ยว กีฬาพาสุข ขึ้น
โดยจัดให้มีการอบรมและพัฒนาให้ความรู้กับเยาวชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิจำนวน 30 คน พร้อมด้วยผู้นำชุมชนแห่งละ 5 คน ซึ่งประกอบด้วยเยาวชน จากชุมชนบ้านไทยใหม่แหลมตุ๊กแก และเยาวชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิทั้งทั้งจังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาให้เยาวชนเหล่านี้ เป็นมัคคุเทศก์น้อยเพื่อคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นชุมชนและชมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนในท้องถิ่น
นายพรหมโชติ กล่าวต่อไปว่า สำรับการจัดโครงการดังกล่าวจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย. โดยมีกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ผู้เข้าอบรมควรจะต้องรู้ รวมทั้งการบริหารจัดการชุมชนเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งในการดำเนินโครงการในครั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้เยี่ยมชมครอบครัวเป็นสุขที่บ้านหินรุ่ย ซึ่งจะได้รับการฝึกทำข้าวหลามที่เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต
นอกจากนั้นยังจะได้พบกับการทำอาหารพื้นบ้าน การนวดแผนไทย การทำขยะหอม เรียนรู้การทำดอกไม้ประดิษฐ์จากยางพารา ที่บ้านป่าคลอก การเขียนลายผ้าบาติก การทำเครื่องหนัง การทำขนม การศึกษาดวงดาวบนท้องฟ้า การฝึกป้องกันภัยจากแผ่นดินไหว และการอยู่ร่วมกับชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน โดยสิ่งเหล่านี้จะทำให้เยาวชนได้เข้าใจและได้เรียนรู้ในการเป็นมัคคุเทศก์น้อยได้อย่างรวดเร็ว
นายอดุลย์ พันธ์ทิพย์ ตัวแทนชุมชนบ้านพารา กล่าวถึงการพัฒนาชุมชนบ้านพาราให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนว่า ชุมชนบ้านพารามีแผนงานที่จะขยายผลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวชุมชนบนเขาหลังหมู่บ้าน ซึ่งพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำตกสวยงามสูง 7 ชั้น น้ำไหลตลอดปี
นอกจากนั้น บริเวณน้ำตกดังกล่าวยังมีต้นไม้ป่าที่หายากจำนวนมาก มีนกแก้วเขียว 7 เสียง ปูสีแดง ต้นยางแดงขนาดใหญ่กว่า 100 ต้น ค้างคาวผี ต้นสามพอนแดงที่เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ วัดรอบโคนได้ 10.56 เมตร นอกจากนั้นยังมีหลุมฐานโบราณอายุนานกว่า 100 ปี ที่เป็นวิถีชีวิตของคนโบราณ และที่สำคัญขณะนี้ชุมชนได้เตรียมครอบครัวพักค้างไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เดินทางมาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม และเชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต
นายพรหมโชติ ไตรเวช ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีนโยบายที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนตามยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล โดยเสนอแนวทางใหม่ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ได้สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต ที่ปัจจุบันนี้ยังมีอีกหลายชุมชนที่ยังคงสภาพวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น ชุมชนบ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ชุมชนหินรุ่ย เขตเทศบาลเทพกระษัตรี อ.ถลาง และชุมชนชาวไทยใหม่แหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง ซึ่งชุมชนเหล่านี้สามารถพัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบในการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนแบบยั่งยืน
ดังนั้น เพื่อให้การท่องเที่ยวชุมชนแบบยั่งยืน สามารถดำเนินการและพัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะทำงานเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนบ้านพารา พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้านจากทั้ง 3 ชุมชนที่เป็นต้นแบบ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดโครงการท่องเที่ยว กีฬาพาสุข ขึ้น
โดยจัดให้มีการอบรมและพัฒนาให้ความรู้กับเยาวชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิจำนวน 30 คน พร้อมด้วยผู้นำชุมชนแห่งละ 5 คน ซึ่งประกอบด้วยเยาวชน จากชุมชนบ้านไทยใหม่แหลมตุ๊กแก และเยาวชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิทั้งทั้งจังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาให้เยาวชนเหล่านี้ เป็นมัคคุเทศก์น้อยเพื่อคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นชุมชนและชมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนในท้องถิ่น
นายพรหมโชติ กล่าวต่อไปว่า สำรับการจัดโครงการดังกล่าวจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย. โดยมีกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ผู้เข้าอบรมควรจะต้องรู้ รวมทั้งการบริหารจัดการชุมชนเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งในการดำเนินโครงการในครั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้เยี่ยมชมครอบครัวเป็นสุขที่บ้านหินรุ่ย ซึ่งจะได้รับการฝึกทำข้าวหลามที่เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต
นอกจากนั้นยังจะได้พบกับการทำอาหารพื้นบ้าน การนวดแผนไทย การทำขยะหอม เรียนรู้การทำดอกไม้ประดิษฐ์จากยางพารา ที่บ้านป่าคลอก การเขียนลายผ้าบาติก การทำเครื่องหนัง การทำขนม การศึกษาดวงดาวบนท้องฟ้า การฝึกป้องกันภัยจากแผ่นดินไหว และการอยู่ร่วมกับชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน โดยสิ่งเหล่านี้จะทำให้เยาวชนได้เข้าใจและได้เรียนรู้ในการเป็นมัคคุเทศก์น้อยได้อย่างรวดเร็ว
นายอดุลย์ พันธ์ทิพย์ ตัวแทนชุมชนบ้านพารา กล่าวถึงการพัฒนาชุมชนบ้านพาราให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนว่า ชุมชนบ้านพารามีแผนงานที่จะขยายผลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวชุมชนบนเขาหลังหมู่บ้าน ซึ่งพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำตกสวยงามสูง 7 ชั้น น้ำไหลตลอดปี
นอกจากนั้น บริเวณน้ำตกดังกล่าวยังมีต้นไม้ป่าที่หายากจำนวนมาก มีนกแก้วเขียว 7 เสียง ปูสีแดง ต้นยางแดงขนาดใหญ่กว่า 100 ต้น ค้างคาวผี ต้นสามพอนแดงที่เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ วัดรอบโคนได้ 10.56 เมตร นอกจากนั้นยังมีหลุมฐานโบราณอายุนานกว่า 100 ปี ที่เป็นวิถีชีวิตของคนโบราณ และที่สำคัญขณะนี้ชุมชนได้เตรียมครอบครัวพักค้างไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เดินทางมาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม และเชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต