นราธิวาส- “ยงยุทธ”ลงใต้ ลุยพื้นที่นราธิวาส พร้อมพบปะผู้ประกอบการ มอบบ้านเอื้ออาทรแก่คนยากจน กลุ่มชาวบ้านกว่า 5,000 คน ส่งบัญชีผนึกพลังต่อต้านความไม่สงบ เช่นเดียวกับ 3 อำเภอ อีกกว่า 6,000 คน ประกาศจุดยืนชัดเจนต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (22 เม.ย.) นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการที่สำนักงานศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร บ้านโต๊ะแดง ตำบลปูโย๊ะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และรับฟังปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงมาตรการควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุที่มีชาวบ้านบางส่วนได้จุดไฟเผา เพื่อปรับพื้นที่การเกษตรจนลุกลามพื้นที่ป่าพรุไปกว่า 50 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมต้นเพลิงให้สงบลงได้แล้ว
นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ปัญหาความยากจน การฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม คาดว่าเร็ว ๆ นี้น่าจะออกมาเป็นรูปธรรมที่จัดเจน แต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่และส่วนราชการต่าง ๆ ต้องเดินควบคู่กันไปเพื่อการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ถึงจะได้ผล
ต่อมานายยงยุทธ และคณะได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดป้ายหมู่บ้านตามโครงการตำบลสัมพันธ์ที่หมู่บ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ที่ 2 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่กองกำลังผสมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันลงแรงร่วมกับชาวบ้านในการพัฒนาหมู่บ้านเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และสามารถป้องกันตนเองจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้
นอกจากนี้นายยงยุทธ ยังได้เป็นประธานมอบบ้านเอื้ออาทรแก่ชาวบ้านที่ยากจน 1 หลังก่อนที่จะเดินทางไปพบปะกับคณะหอการค้าจังหวัดนราธิวาส สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว ตัวแทนพ่อค้า 50 ราย ที่ห้องประชุมโรงแรมเก็นติ้ง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนักหลังจากได้รับผลกระทบกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จนต้องปิดกิจการลงกว่าร้อยละ 20 เพื่อรับทราบปัญหา และหามาตรการร่วมกันในการให้การช่วยเหลือและหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด
จากนั้นนายยงยุทธ และคณะ ได้พบปะกลุ่มพลังมวลชนกว่า 5,000 คน ภายใต้การนำของ นายมาหะมะ วรพงศา ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อร่วมแสดงพลังในการต่อต้านเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นรายวันจากฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดี ณ สนามกีฬามหาราช หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก โดยทุกคนจะร่วมกันให้สัจจะว่าจะรวมพลังกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย และจะไม่ให้ใครมาสร้างความแตกแยกขึ้นในแผ่นดินนี้อีก
พร้อมมอบบัญชีรายชื่อของกลุ่มพลังมวลชนทั้งหมดกว่า 5,000 คน ให้นายยงยุทธ เพื่อส่งมอบต่ออีกทอดหนึ่งต่อนายประคอง คงแก้ว นายอำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อใช้ในการประสานงานระหว่างส่วนราชการกับกลุ่มพลังมวลชน โดยเฉพาะการตรวจสอบความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของกลุ่มแนวร่วมผู้ไม่หวังดี หากมีการแอบแฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านที่รับผิดชอบต่าง ๆ เพื่อให้ทางการได้ดำเนินการตามสมควร และสกัดกั้นได้ทันท่วงทีก่อนที่จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่
เช่นเดียวกันกับพลังมวลชนจากพื้นที่อำเภอจะแนะและศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส อีกกว่า 6,000 คน เพื่อประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนเพื่อการต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบขึ้น โดยรวมตัวกันออกมาเดินรณรงค์ตามถนนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลตำบลของในแต่ละพื้นที่กันตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาอีกด้วย โดยการถือป้ายประณามการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และผู้บริสุทธิ์รายวัน รวมถึงการลอบวางเพลิงสิ่งสาธารณประโยชน์ของทางราชการและโรงเรียน
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (22 เม.ย.) นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการที่สำนักงานศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร บ้านโต๊ะแดง ตำบลปูโย๊ะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และรับฟังปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงมาตรการควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุที่มีชาวบ้านบางส่วนได้จุดไฟเผา เพื่อปรับพื้นที่การเกษตรจนลุกลามพื้นที่ป่าพรุไปกว่า 50 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมต้นเพลิงให้สงบลงได้แล้ว
นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ปัญหาความยากจน การฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม คาดว่าเร็ว ๆ นี้น่าจะออกมาเป็นรูปธรรมที่จัดเจน แต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่และส่วนราชการต่าง ๆ ต้องเดินควบคู่กันไปเพื่อการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ถึงจะได้ผล
ต่อมานายยงยุทธ และคณะได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดป้ายหมู่บ้านตามโครงการตำบลสัมพันธ์ที่หมู่บ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ที่ 2 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่กองกำลังผสมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันลงแรงร่วมกับชาวบ้านในการพัฒนาหมู่บ้านเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และสามารถป้องกันตนเองจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้
นอกจากนี้นายยงยุทธ ยังได้เป็นประธานมอบบ้านเอื้ออาทรแก่ชาวบ้านที่ยากจน 1 หลังก่อนที่จะเดินทางไปพบปะกับคณะหอการค้าจังหวัดนราธิวาส สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว ตัวแทนพ่อค้า 50 ราย ที่ห้องประชุมโรงแรมเก็นติ้ง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนักหลังจากได้รับผลกระทบกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จนต้องปิดกิจการลงกว่าร้อยละ 20 เพื่อรับทราบปัญหา และหามาตรการร่วมกันในการให้การช่วยเหลือและหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด
จากนั้นนายยงยุทธ และคณะ ได้พบปะกลุ่มพลังมวลชนกว่า 5,000 คน ภายใต้การนำของ นายมาหะมะ วรพงศา ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อร่วมแสดงพลังในการต่อต้านเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นรายวันจากฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดี ณ สนามกีฬามหาราช หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก โดยทุกคนจะร่วมกันให้สัจจะว่าจะรวมพลังกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย และจะไม่ให้ใครมาสร้างความแตกแยกขึ้นในแผ่นดินนี้อีก
พร้อมมอบบัญชีรายชื่อของกลุ่มพลังมวลชนทั้งหมดกว่า 5,000 คน ให้นายยงยุทธ เพื่อส่งมอบต่ออีกทอดหนึ่งต่อนายประคอง คงแก้ว นายอำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อใช้ในการประสานงานระหว่างส่วนราชการกับกลุ่มพลังมวลชน โดยเฉพาะการตรวจสอบความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของกลุ่มแนวร่วมผู้ไม่หวังดี หากมีการแอบแฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านที่รับผิดชอบต่าง ๆ เพื่อให้ทางการได้ดำเนินการตามสมควร และสกัดกั้นได้ทันท่วงทีก่อนที่จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่
เช่นเดียวกันกับพลังมวลชนจากพื้นที่อำเภอจะแนะและศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส อีกกว่า 6,000 คน เพื่อประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนเพื่อการต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบขึ้น โดยรวมตัวกันออกมาเดินรณรงค์ตามถนนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลตำบลของในแต่ละพื้นที่กันตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาอีกด้วย โดยการถือป้ายประณามการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และผู้บริสุทธิ์รายวัน รวมถึงการลอบวางเพลิงสิ่งสาธารณประโยชน์ของทางราชการและโรงเรียน


