ท่อก๊าซไทย-มาเลย์แผลงฤทธิ์! ปล่อยก๊าซเสียงดังชาวบ้านขวัญกระเจิง!

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ชาวบ้านตื่นเสียงระบายก๊าซจากโครงการท่อก๊าซฯไทย-มาเลย์ หอบลูกจูงหลานวิ่งหนีอลหม่าน คนแก่เป็นลม เหตุตกใจนึกว่าเสียงระเบิด ร้องบริษัทจ่ายค่าทำขวัญ "ทีทีเอ็ม"รับไม่ได้แจ้งก่อนล่วงหน้า ยืนยันจ่ายค่าทำขวัญตามความเหมาะสม

เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (1 เม.ย.) ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ ม.10 และ ม.11 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กว่า 100 คน มารวมตัวชุมนุมประท้วงที่บริเวณสถานีควบคุมก๊าซที่ 4 ของโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ม.11 บ้านคลองปอม ต.บ้านพรุ

โดยชาวบ้านกลุ่มนี้ อ้างว่า สถานีควบคุมก๊าซแห่งนี้ได้เกิดเสียงดังอย่างรุนแรง จนทำให้ชาวบ้านและสัตว์เลี้ยง ในบริเวณพื้นที่ 2 หมู่บ้านดังกล่าว ต่างพากันแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นเสียงของก๊าซรั่วออกจากสถานีดังกล่าว โดยชาวบ้านบางคนถึงกับตกใจเป็นลมล้มพับไป จนต้องช่วยกันปฐมพยาบาลกันอย่างเร่งด่วน

นายโสภณ สุวรรณโณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 บ้านไร่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านจำนวนมากมาชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสถานีควบคุมก๊าซที่ 4 ของโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ได้มีเสียงดังกึกก้องอย่างรุนแรงไปทั่วบริเวณเป็นระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ซึ่งเสียงดังกล่าวดังอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เสียงถึงจะหยุดไป เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่มาปิดท่อก๊าซ

โดยในระหว่างที่เกิดเสียงดังนั้นทำให้ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่น วิ่งหนีกันเตลิดเปิดเปิง รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงต่างๆ เช่น วัว ต่างพากันกระโดดด้วยความตื่นตระหนกและร้องไม่หยุด ส่วนคนเฒ่า คนแก่ บางรายถึงกับเป็นลมล้มพับลง ขณะที่เด็กเล็กๆร้องไห้จ้าละหวั่น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางชาวบ้านเองกลัวว่าจะเป็นเสียงของก๊าซ ที่สถานีควบคุมดังกล่าวเปิดส่งจ่ายกระแสก๊าซให้กับประเทศมาเลเซียรั่วออกมา ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดจากเสียงอะไร เพราะทางสถานีควบคุมดังกล่าว ไม่ได้ชี้แจงกับชาวบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านไม่พอใจจนต้องออกมารวมตัวประท้วงดังกล่าว

ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง ระบุว่า เสียงดังกล่าวดังมาก จนทำให้ปวดหูและชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นคนเฒ่า คนแก่ หรือเด็ก ต่างพากันตกอกตกใจอย่างมาก เพราะกลัวว่าเสียงดังกล่าวอาจจะเป็นเสียงของก๊าซรั่ว และอาจจะเกิดระเบิดขึ้นได้ ส่งผลให้ต่างคนต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน เพื่อให้ไกลจากสถานที่ควบคุมก๊าซดังกล่าว ที่เป็นจุดกำเนิดของเสียงนั้น

ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบหรือเจ้าหน้าที่ของบริษัทในโครงการท่อก๊าซ เข้ามาแก้ไข และอธิบายชี้แจงต่อพวกเราด้วย เพื่อขอความชัดเจนว่า เสียงดังที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากอะไรกันแน่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในส่วนของชาวบ้านในพื้นที่เองส่วนใหญ่ไม่มีใครคัดค้าน แต่เมื่อเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้น ก็ขอให้ออกมาชี้แจงกับชาวบ้านด้วย

ด้านนายหยิบ บินสัน อดีต อบต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ทางชาวบ้านได้มีมติทำเอกสารยื่นเสนอให้กับทางบริษัทที่ควบคุมดูแลแล้ว โดยทางเราได้ยื่นข้อเสนอไปจำนวน 2 ข้อ คือ 1.ต้องการให้ทางบริษัทผู้รับผิดชอบประกันความคุ้มครองให้กับชาวบ้านในละแวกพื้นที่ดังกล่าว ทั้งในเรื่องประกันทรัพย์สินและประกันชีวิต

2.ต้องการให้ทางผู้รับผิดชอบออกมาแสดงความรับผิดชอบให้ครอบครัวละ 500,000 บาท เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนเฒ่า คนแก่เกิดช็อกและเป็นลมล้มไป ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ รวมถึงอยากให้ออกมาชี้แจงสาเหตุที่เกิดขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีการชุมนุมประท้วงอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้มีตัวแทนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของโครงการดังกล่าว เดินทางมาพูดคุยเจรจา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเดินทางมาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย ในระหว่างที่ภายในสถานีควบคุมมีการเจรจาตกลงกันอยู่ภายนอกแผงลวดรั้วกั้นสถานี ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ได้มีการตะโกนโห่ร้องด้วยความไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมีการเขย่าแผงลวดรั้วกั้น

ขณะที่บางรายปีนรั้วเข้าไปภายในสถานีควบคุม จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีดังกล่าวเล็กน้อย แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลงหลังจากเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง ชาวบ้านจึงเริ่มแยกย้ายกันไป

ส่วนในพื้นที่ ม.2 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ยังคงมีปัญหาอยู่ คือ โครงการท่อก๊าซฯได้มีการวางแนวท่อก๊าซลงภายใต้ถนน โดยที่ชาวบ้านไม่ยินยอมให้มีการฝังวางท่อ แต่ทางโครงการก็ยังคงดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่

นายสัมฤทธิ์ ยงสถิรโชติ แกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ม.2 ต.พะตง กล่าวว่า หลังจากที่มีปัญหากันอยู่เรื่องชาวบ้านไม่ยินยอมให้โครงการท่อก๊าซวางท่อก๊าซใต้ถนน บริเวณ ม.2 ทางแยกนายสว่าง เนื่องจากผิดกฎหมาย และเรื่องดังกล่าวก็ได้ส่งให้ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ตรวจดูรายละเอียดแล้ว ปรากฏว่ามีความผิดจริง และได้มีหนังสือส่งกลับมาถึงทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและบริษัททีทีเอ็ม เพื่อให้ยกเลิกการฝังแนวท่อก๊าซในบริเวณดังกล่าวที่ชาวบ้านไม่ยินยอม แต่ทางจังหวัดและบริษัทดังกล่าวยังนิ่งเฉย โดยไม่ได้ดำเนินการใดๆ จึงอยากให้ทางจังหวัดและบริษัททีทีเอ็ม เร่งดำเนินการตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมระบุด้วย หากไม่ดำเนินการตาม ทางชาวบ้านก็จะเคลื่อนไหวคัดค้านต่อไป

ด้านนายอำนวย ลายไม้ ประชาสัมพันธ์บริษัท ทรานส์ไทย – มาเลเซีย (ทีทีเอ็ม) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบก่อนที่จะมีการระบายก๊าซออกมา ทำให้กาซที่มีแรงดัน หลานร้อยปอนด์ พุ่งออกมาจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้ชาวบ้านตกใจเป็นอันมาก

“ทางบริษัทต้องขอโทษที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้า ซึ่งเรายินดีที่จะรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ ส่วนที่ชาวบ้านเรียกร้องให้จ่ายค่าทำขวัญ ก็จะต้องพิจารณากันตามเหตุและผล” นายอำนวยกล่าว