xs
xsm
sm
md
lg

เปิดฉากสัมมนาวิชาการ"ไทย-เยอรมัน"ลดความสูญเสียภัยพิบัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต- เปิดฉากขึ้นแล้วสัมมนาทางวิชาการ ไทย-เยอรมัน เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น และวางแผนงานวิจัย เกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติในอนาคต

สัมมนาวิชาการระหว่างไทย-เยอรมัน ว่าด้วยเรื่อง Thai-German Seminar on Cooperative Research and Capacity Buiding:Ocean Geosciences,Marine Ecologe and Natural Hazard Management เริ่มขึ้นแล้ววันนี้ (29 มี.ค 48 ) ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ จ.ภูเก็ต โดยมีนักวิจัยจากสมาคมวิจัยแห่งเยอรมนี (Deutsche Forschungsgemeinschaft หรือ DFG ) และนักวิจัยจากประเทศไทยจำนวน 48 คนเข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และวางแผนความร่วมมือทางวิชาการ และการวิจัยเกี่ยวกับพิบัติภัยธรรมชาติในอนาคต ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการ และลดความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติในอนาคต

นายชอบวิทย์ ลับไพรี รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึงความร่วมมือ ด้านการวิจัยระหว่างนักวิจัยจากสมาคมวิจัยแห่งเยอรมนี และนักวิจัยจากประเทศไทย ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อทรัพยากรธรรมชาติ สภาพแวดล้อมและชุมชนใน 6 จังหวัด

สมาคมวิจัยแห่งเยอรมนี ซึ่งเป็นหน่วยงานต่างประเทศ ที่ลงนามความร่วมมือทางด้านวิชาการกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช. ) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการ ระหว่างนักวิชาการไทยและเยอรมัน ซึ่งเรื่องของคลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมานั้นประเทศไทยไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีปัญหาดังกล่าวขึ้นมา ในส่วนของวช.ซึ่งดูแลในเรื่องของงานวิจัย จะเข้ามาเป็นแกนนำในการร่วมมือกันอย่างจริงจังในการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ประเทศไทย คงไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเราเองเพียงอย่างเดียวได้ แต่จะต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศอื่นๆเข้ามาร่วมด้วย

ในเรื่องของความร่วมมือทางด้านวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาคลื่นยักษ์สึนามิ ประเทศเยอรมันได้แจ้งความจำนงที่จะเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุน เพื่อพัฒนาและจัดระบบการแก้ไขปัญหาจากสึนามิ

นายชอบวิทย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นความร่วมมือ ระหว่างไทย-เยอรมัน ที่จะมีการพูดคุยกันในช่วง 3 วัน ที่มีการประชุมขึ้นในครั้ง เยอรมันนำนักวิจัยชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ Marine Sciences มาร่วมหารือกับนักวิจัยชั้นนำของไทย เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือ ที่จะพัฒนาระบบการเตือนภัยล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพ มีความชัดเจน และเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นนี้ และสิ่งที่จะร่วมกันหารือในครั้งนี้ จะมีส่วนเกี่ยวข้องความเป็นอยู่ของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ

หลังจากที่มีการประชุมวางแผน ในการศึกษาวิจัยร่วมกันเสร็จแล้ว วช.จะนำผลไปพัฒนาต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันสูงสุด โดยจะยึดความเก่งเฉพาะทางของนักวิจัยเป็นตัวกำหนด ซึ่งในการหารือร่วมกันนอกรอบ คิดว่าน่าจะมีเรื่องที่น่าสนใจและทำการวิจัยร่วมกันหลายเรื่อง

นอกจากนี้ ผลจากการประชุมร่วมกันวช.จะนำไปสู่แผนการปฏิบัติที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาสนับสนุน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และจะพยายามให้เกิดผลสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้


ขณะที่นาย Soeren Duerr ฝ่ายประสานงานสมาคมวิจัยแห่งเยอรมนี กล่าวถึงการเข้ามาให้ความร่วมมือทางด้านการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ ร่วมกับนักวิจัยของประเทศไทย ว่า เยอรมันมีประสบการเกี่ยวกับเรื่องของแผ่นดินไหวมานาน และเป็นประเทศที่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับการศึกษาทางด้านภูมิศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และมีความเชี่ยวชาญมากกว่าประเทศไทย จึงอยากที่จะนำประสบการณ์ที่มีอยู่มาถ่ายทอดให้กับคนไทย เพื่อที่จะได้พัฒนาโครงการการวิจัยของไทย ให้มีความก้าวหน้าและสามารถนำไปปฏิบัติได้

ที่สำคัญการเข้ามาของเขานั้น ไม่ใช่ว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว แต่ในส่วนของเขาเอง ก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้ฐานความรู้ของเขาเพิ่มพูนขึ้น

สำหรับสมาคมวิจัยแห่งเยอรมนี เป็นองค์กรที่สนับสนุนในเรื่องของการวิจัย จึงเป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่างจำนวนมาก เขาพยายามจึงดึงนักวิจัย ที่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เข้ามาร่วมทำงานวิจัยเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

นาย Soeren ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 28 มี.ค .ที่ผ่านมา ว่า ขณะที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและรู้สึกได้ที่เมืองไทย เขากำลังอยู่บนเครื่องบิน แต่ก็ได้รับข้อมูลเตือนจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งก็รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน และมองว่าทุกประเทศในโลก ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน คือ การหารูปแบบการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างได้ผล ซึ่งรูปแบบที่เคยศึกษาไว้มีจำนวนมากก็จริง แต่ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักวิจัยจะมาร่วมกัน ทำงานวิจัยร่วมกันเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้เรียบร้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น