ศูนย์ข่าวภูเก็ต -นักดำน้ำ 200 คน จากภาครัฐและเอกชน ดำดิ่งลงเก็บขยะและพลิกฟื้นปะการัง ที่เกาะสุรินทร์และสิมิลัน เผยที่สิมิลันยังสมบูรณ์ แต่ที่สุรินทร์ได้รับผลกระทบมากกว่า และยังมีขยะอยู่บนแนวปะการังอีกเพียบ
พลโทชาตรี พัฒนพันธุ์ หัวหน้าคณะทำงานฟื้นฟูใต้ทะเลชายฝั่งอันดามัน เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพได้ร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กรมประมง กรมวนอุทยานแห่งชาติ จังหวัดฝั่งอันดามันทั้ง 6 จังหวัด การบินไทย และยูบีซี ดำเนินโครงการรักษ์…อันดามัน เพื่อรณรงค์ฟื้นฟูใต้ทะเลในฝั่งทะเลอันดามัน ภายหลังเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ โดยนำนักประดาน้ำจำนวน 200 คน ลงไปดำน้ำเก็บขย และฟื้นฟูปะการัง ที่เกาะสุรินทร์ เกาะสิมิลัน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
จากการดำน้ำสำรวจทั้งสองเกาะ ปรากฏว่า ที่เกาะสิมิลันสภาพปะการังอยู่ในสภาพที่ยังสมบูรณ์อยู่ มีเพียงขยะที่เกิดจากคลื่นยักษ์สึนามิไปทับ และปิดปะการัง ซึ่งทีมดำน้ำได้ลงไปเก็บขยะ รวมทั้งพลิกปะการังที่อยู่ในสภาพคว่ำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม เพื่อให้เกาะสิมิลันเป็นแหล่งดำน้ำ ชั้นนำของนักท่องเที่ยวต่อไป
ส่วนที่หมู่เกาะสุรินทร์ ปะการังได้รับความเสียหายมากกว่าที่สิมิลัน เพราะถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มเต็มๆ และปรากฏว่ายังมีขยะติดอยู่ที่แนวปะการังอีกจำนวนมาก คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งในการเก็บขยะออกจากแนวปะการังทั้งหมด และขณะนี้ได้มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนลงไปฟื้นฟูปะการัง ที่เกาะสุรินทร์และสิมิลัน คาดว่าปะการังทั้งสองเกาะ น่าที่จะฟื้นตัวได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ หรือหากช้าที่สุด น่าจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
“ภาพรวมความเสียของของปะการังแต่ละจุดไม่เหมือนกัน ซึ่งคิดว่าใช้เวลาไม่นานการฟื้นตัวของปะการังจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นทั้ง 6 จังหวัด ขณะนี้มีหลายหน่วยงานได้ลงไปฟื้นฟูปะการัง มีการซ่อมปะการัง พลิกฟื้นปะการัง เก็บขยะออกจากแนวปะการัง ปะการังที่หักก็จะมีการซ่อมแซม หรือมีการทำปะการังเทียม และบ้านปะการังขึ้นมาใหม่”
พลโทชาตรี กล่าวอีกว่า นอกจากการฟื้นฟูปะการังแล้ว โครงการรักษ์...อันดามันไทย ยังประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลก เดินทางมาท่องเที่ยวอีกด้วย โดยได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการโครงการไว้ที่ 3 เดือน ซึ่งในวันที่ 5 มีนาคม จะมีการจัดงานรักษ์…อันดามัน ที่บริเวณหน้าหาดป่าตอง มีการถ่ายทอดสดทางททบ.5 และยูบีซี รวมทั้งการถ่ายทอดไปทั่วโลก ซึ่งในการจัดงานวันดังกล่าว จะมีสื่อมวลชนจากทั่วโลก เดินทางเข้ามาภูเก็ต 1,000 คน เพื่อให้ภาพความพร้อมของอันดามัน เผยแพร่ไปยังนักท่องเที่ยวทั่วโลก
พลโทชาตรี พัฒนพันธุ์ หัวหน้าคณะทำงานฟื้นฟูใต้ทะเลชายฝั่งอันดามัน เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพได้ร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กรมประมง กรมวนอุทยานแห่งชาติ จังหวัดฝั่งอันดามันทั้ง 6 จังหวัด การบินไทย และยูบีซี ดำเนินโครงการรักษ์…อันดามัน เพื่อรณรงค์ฟื้นฟูใต้ทะเลในฝั่งทะเลอันดามัน ภายหลังเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ โดยนำนักประดาน้ำจำนวน 200 คน ลงไปดำน้ำเก็บขย และฟื้นฟูปะการัง ที่เกาะสุรินทร์ เกาะสิมิลัน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
จากการดำน้ำสำรวจทั้งสองเกาะ ปรากฏว่า ที่เกาะสิมิลันสภาพปะการังอยู่ในสภาพที่ยังสมบูรณ์อยู่ มีเพียงขยะที่เกิดจากคลื่นยักษ์สึนามิไปทับ และปิดปะการัง ซึ่งทีมดำน้ำได้ลงไปเก็บขยะ รวมทั้งพลิกปะการังที่อยู่ในสภาพคว่ำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม เพื่อให้เกาะสิมิลันเป็นแหล่งดำน้ำ ชั้นนำของนักท่องเที่ยวต่อไป
ส่วนที่หมู่เกาะสุรินทร์ ปะการังได้รับความเสียหายมากกว่าที่สิมิลัน เพราะถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มเต็มๆ และปรากฏว่ายังมีขยะติดอยู่ที่แนวปะการังอีกจำนวนมาก คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งในการเก็บขยะออกจากแนวปะการังทั้งหมด และขณะนี้ได้มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนลงไปฟื้นฟูปะการัง ที่เกาะสุรินทร์และสิมิลัน คาดว่าปะการังทั้งสองเกาะ น่าที่จะฟื้นตัวได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ หรือหากช้าที่สุด น่าจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
“ภาพรวมความเสียของของปะการังแต่ละจุดไม่เหมือนกัน ซึ่งคิดว่าใช้เวลาไม่นานการฟื้นตัวของปะการังจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นทั้ง 6 จังหวัด ขณะนี้มีหลายหน่วยงานได้ลงไปฟื้นฟูปะการัง มีการซ่อมปะการัง พลิกฟื้นปะการัง เก็บขยะออกจากแนวปะการัง ปะการังที่หักก็จะมีการซ่อมแซม หรือมีการทำปะการังเทียม และบ้านปะการังขึ้นมาใหม่”
พลโทชาตรี กล่าวอีกว่า นอกจากการฟื้นฟูปะการังแล้ว โครงการรักษ์...อันดามันไทย ยังประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลก เดินทางมาท่องเที่ยวอีกด้วย โดยได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการโครงการไว้ที่ 3 เดือน ซึ่งในวันที่ 5 มีนาคม จะมีการจัดงานรักษ์…อันดามัน ที่บริเวณหน้าหาดป่าตอง มีการถ่ายทอดสดทางททบ.5 และยูบีซี รวมทั้งการถ่ายทอดไปทั่วโลก ซึ่งในการจัดงานวันดังกล่าว จะมีสื่อมวลชนจากทั่วโลก เดินทางเข้ามาภูเก็ต 1,000 คน เพื่อให้ภาพความพร้อมของอันดามัน เผยแพร่ไปยังนักท่องเที่ยวทั่วโลก