ศูนย์ข่าวภูเก็ต –เจ้าของขุมเหมืองโวย ผู้ว่าฯภูเก็ตปากไวสั่งกลบขุมเหมือง ชี้ก่อนพูดศึกษากฎหมายให้ดีขุมเหมืองขุมสุดท้าย ในประทานบัตรไม่ต้องกลบ ที่ผ่านมาเอกชนให้ท้องถิ่นใช้น้ำฟรีมาโดยตลอด
ร้อยโทภูมิศักดิ์ หงษ์หยก ประธานกรรมการบริษัทอนุภาษและบุตร และเจ้าของขุมเหมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมกรรมการจังหวัดภูเก็ต หรือการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 31ม.ค. 248 ที่ ห้องประชุมศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ถึงกรณีที่เจ้าของขุมเหมืองเอกชนบางราย ไม่อนุญาตให้เทศบาลใช้น้ำจากขุมเหมือง เพื่อนำมาผลิตน้ำประปา
โดยจังหวัดจะสั่งกลบขุมเหมืองดังกล่าว หากไม่ยอมให้ใช้น้ำ ว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จังหวัดไม่รู้จริง ในอดีตกว่า 60 ปี ผู้ที่ทำเหมืองแร่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่างชาติหรือคนไทย ได้ช่วยกันสร้างบ้านสร้างเมือง และมีประวัติที่ยาวนาน ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้ามาปฏิบัติงานในภูเก็ตในระยะเวลาที่สั้น และสับเปลี่ยนกันมานั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาประวัติของผู้ประกอบการทำเหมือง
“เรื่องขุมน้ำที่เกิดจากการทำเหมืองแร่ เอกชนที่เป็นเจ้าของ ได้รวมตัวกันเพื่อให้เทศบาล และการประปาภูมิภาคใช้น้ำในฤดูแล้ง และให้ใช้โดยไม่ได้รับผลตอบแทนมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว เช่นขุมน้ำที่ปัจจุบันนี้เป็นโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต หรือขุมน้ำอื่นๆที่ให้เทศบาลใช้ฟรีมาโดยตลอดและไม่มีการคิดค่าใช้ ในขณะที่เขื่อนบางวาด ที่เมื่อสร้างเสร็จและขายน้ำให้กับการประปาส่วนภูมิภาค ในราคาคิวละประมาณ 50 สตางค์ต่อคิว”
นายภูมิศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การที่ส่วนราชการจะต้องใช้น้ำโดยขึ้นอยู่กับเอกชน ในระยะยาวจะมีความเสียหาย เพราะขุมน้ำต่างๆที่ใช้ผลิตน้ำอยู่เป็นเอกสิทธิ์ของเอกชนและมีการเปลี่ยนมือ หรือขาย เจ้าของขุมเหมืองรายใหม่ ก็ได้มีการพัฒนาขุมเหมืองไปใช้ ในเรื่องของธุรกิจอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในกิจการตัวเอง ปริมาณน้ำ ที่จะให้ท้องถิ่นหรือภาครัฐใช้ก็ต้องลดน้อยลงไปด้วย
“การที่ผู้ว่าฯไปพูด ในที่ประชุมให้มีการกลบขุมเหมือง หรือปรับ 5,000 บาท ผู้ว่าฯไม่มีอำนาจ ที่จะมียึดขุมน้ำที่เป็นเอกสิทธิ์ของเอกชน การปากไวเหมือนนายกฯจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูลให้แน่ชัด และต้องใช้เวลา ไม่ใช่มาในระยะเวลาสั้น แล้วจะรู้ประวัติความเป็นมาของการช่วยเหลือเกื้อกูล ระหว่างเอกชนกับองค์กรท้องถิ่นในภูเก็ต ที่มีกันมาระยะเวลานานแล้ว
การพูดเช่นนี้เป็นการทำให้เสียความรู้สึกและเสียน้ำใจกัน การใช้น้ำจากขุมเหมืองเอกชนในส่วนของเอกชนที่ไม่ได้ใช้ ทางรัฐก็ควรที่จะเสียค่าตอบแทนกลับไปบ้าง เพราะที่ผ่านมาในระยะ30ปีที่ผ่านมาให้ใช้ฟรีมาโดยตลอด ซึ่งจังหวัดไม่รู้เรื่องนี้ แต่ทางท้องถิ่นรู้มาโดยตลอดและมีหนังสือขอบคุณเจ้าของขุมเหมืองมาทุกๆปี แต่ผู้ว่าฯ มีแต่จะยึดและใช้อำนาจโดยพลการมาโดยตลอดเวลา ”ร้อยโทภูมิศักดิ์ กล่าวและว่า
กรณีที่มีการพูดว่า ผู้ที่ทำเหมืองแร่จะต้องกลบขุมเหมืองหลุมสุดท้ายที่ดำเนินการ จริงๆแล้วกฎหมายเหมืองแร่ยอมให้เจ้าของประทานบัตรเหลือขุมสุดท้ายได้ 1 ขุม โดยไม่ต้องถมแต่จะต้องถมขุมอื่นๆในประทานบัตรแปลงนั้นๆ เหตุการณ์ผ่านมา 20 กว่าปี จะไปพิสูจน์ได้อย่างไรว่า ขุมไหนเป็นขุมสุดท้ายของประทานบัตร ซึ่งในทางปฏิบัติเรื่องนี้ต้องพิสูจน์กันยาว